วิธีการเลือกซื้อ Notebook Online แบบฉบับมืออาชีพ ที่คุณต้องลอง!!!

ถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบเทคโนโลยีอย่างผมกับการเลือกซื้อสินค้า ออนไลน์ วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อโน้ตบุ๊กผ่านโลกไซเบอร์กัน ซึ่งหลายคนฟังแล้วอาจจะดูเป็นเรื่องยากเกินไปนัก แต่แท้จริงแล้วไม่ยากอย่างที่คิดไว้ครับ ยิ่งสมัยนี้เทคโนโลยีมีความก้าวล้ำไปมาก มีระบบการป้องกันสูง เชื่อถือและปลอดภัยขึ้นมาก ตั้งแต่การเลือกสินค้า การชำระเงิน การรับส่งสินค้า รวมไปถึงการบริการหลังการขายด้วยครับ ด้วยความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า เพราะบางท่านอาจต้องการโน้ตบุ๊กคู่ใจเอาไว้สำหรับเล่นเกม หรือบางท่านอาจต้องการเอาไว้ใช้งานทั่วๆ ไป แต่ทั้งนี้เมื่อเราทราบความต้องการและรู้ขอบเขตการใช้งานแล้ว ต่อไปก็เป็นการคัดเลือกสินค้ากันใช่มั๊ยล่ะครับ ซึ่งจุดนี้เองการสั่งซื้อแบบออนไลน์ ก็นับว่าช่วยย่นระยะเวลาและการเดินทางได้มากพอสมควรเลยละครับ

ในบางครั้งอุปสรรคในการเลือกซื้อสินค้าไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก หรือพีซี อาจจะมีความเชื่อและค่านิยมในสิ่งที่ผิด เช่น ซีพียูต้องเป็นของ Intel เท่านั้น เพราะแรงกว่า และไม่ร้อน, ส่วนการ์ดจอนั้นต้องแรง เร็ว เล่นเกมได้ลื่น ไม่กระตุก ภาพสวย สิ่งเหล่านี้เป็นค่านิยมที่ผิดครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อโน้ตบุ๊กฉบับออนไลน์ในแบบที่ถูกต้องกัน ครับ โดยดูจากความเหมาะสมของตัวคุณเองเป็นหลักครับ

ซีพียูถือเป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลโดยตรงกับความเร็วในการประมวลผล

คุณจะเลือกซีพียูแบบไหน หรือค่ายไหน ซึ่งปัจจุบันซีพียูจะมีให้เลือกทั้งหมดเพียงสองค่ายเท่านั้น คือ Intel และ AMD แต่จะเลือกกันยังไงดีละ อันนี้ผมมีคำแนะนำในการเลือกซีพียูถึง 3 ข้อด้วยกันครับ

1. ถ้าคุณให้ความสำคัญกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ผมว่าจะ Intel หรือ AMD ก็ไม่แตกต่างกันซักเท่าไรหรอกครับ แต่ AMD จะเห็นผลกว่าเล็กน้อย เพราะความแตกต่างที่ว่านี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานมากว่า เช่น ถ้าการใช้งานเน้นไปที่ประเภทมัลติมีเดีย กราฟิก ตัดต่อ หรือเล่นเกม ก็อาจจะกินแบตเตอรี่มากอยู่ ซึ่งจำนวนเซลล์ของแบตเตอรี่จะบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการทำงาน อีกทั้งการประหยัดพลังงานด้วยเช่นกัน สำหรับโน้ตบุ๊กทั่วไปนั้น อย่างน้อยควรมีประมาณ 6 เซลล์ขึ้นไป (ยิ่งมากยิ่งดี) จะใช้ทนมากๆ (5-7 ชั่วโมง) แต่ถ้าให้ดีก็จะเป็น 8 เซลล์จะดีที่สุด

2. แบตเตอรี่ถือมีความสำคัญกับการเลือกซื้อซีพียูด้วยเช่นกัน โดยปกติแล้วซีพียูในระดับเมนสตรีม จะบริโภคพลังงานหรือกินไฟไม่มากครับ ซึ่งสังเกตได้จากรหัสซีรีย์ของซีพียู ในที่นี้จะมีเพียง “P” และ “T” เท่านั้น ที่เป็นของอินเทล จะช่วยได้มากในการประหยัดพลังงาน ลดความร้อน เพราะสถาปัตยกรรมที่มีขนาดเล็กเพียง 45 นาโนเมตร อีกทั้งกินไฟน้อยเพียง 25 วัตต์ เท่านั้น

3. ควรเลือกซื้อซีพียูแบบสองคอร์ หรือ Dual-Core ที่มีไฮเปอร์ เทรดดิ้งมาช่วยในการประมวลผล ซึ่งจะดีกว่าซีพียูแบบคอร์เดียวหรือ Celeron และ Sempron เนื่องจากปัญหาการทำงานและความร้อนสะสม จึงไม่เหมาะที่จะนำมาใช้งานด้านมัลติมีเดีย ยกเว้นงานทั่วไปอย่างเอกสาร ที่สำคัญตอนนี้ระดับราคาซีพียูทางฝั่ง Intel และ AMD ต่างสูสี คู่คี่กัน โดยเฉพาะแพลฟอร์ม Centrino 2 และ Turion X2 Ultra จึงทำให้ราคาท้องตลาด ณ ตอนนี้ลดลงในระดับนึง ที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ ละครับ

ทั้งนี้ถ้ากำลังมองหาโน้ตบุ๊กสักตัว และวางแผนไว้จะถอยโน้ตบุ๊กเพื่อการเล่นเกมด้วยงบประมาณที่ไม่มากนัก และจำกัดด้วยแล้ว ซีพียูจากค่าย AMD ดูจะเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ละครับ สาเหตุน่าจะมาจากราคาที่ถูกกว่า อีกทั้งสามารถเลือกรุ่นที่มีการ์ดจอแยกได้เช่นกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับทาง Intel แล้วระดับราคาย่อมจะแพงกว่า สำหรับประสิทธิภาพและการใช้งานนั้น ย่อมได้เปรียบกว่าทางเอเอ็มดีอยู่แล้ว

หน่วยความจำเมมโมรี่ หรือเรียกสั้นๆ ว่า แรม

ปัจจุบันนี้แรมได้ถูกพัฒนาให้รองรับและยังสนับสนุนการ Upgrade ได้ง่ายๆ ในตอนแรกอาจมีแรมเพียง 1GB แต่ใช้ไปซักพักความต้องการใช้งานกลับสูงขึ้น ก็สามารถเพิ่มแรมได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง เพียงแต่ต้องรู้ว่าโน้ตบุ๊กที่ใช้นั้นรองรับหน่วยความจำประเภทไหน เช่น DDR2 หรือ DDR3 อีกทั้งยังดูถึงความเร็วบัส มีหน่วยเป็น MHz ที่รองรับด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จำเป็นต้องศึกษาถึงรุ่นนั้นๆ ก่อนว่ามีความสัมพันธ์มากน้อยเพียงใด ระหว่างความเร็วบัสที่มีอยู่เดิม และแรมตัวใหม่ที่จะซื้อมา อีกทั้งดูสล็อตแรมว่าให้มาทั้งหมดกี่ช่อง (ปกติแล้วจะให้มาเพียงสองช่องเท่านั้น) ซึ่งในปัจจุบันนี้ แรมที่ติดมากับโน้ตบุ๊กส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1GB เป็นอย่างน้อยครับ ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับรุ่นด้วยนะ วิธีสังเกต คือ ถ้าใส่แรมมาสูง ราคาก็ขยับมากขึ้นตามไปด้วยครับ แต่เดี๋ยวนี้ถ้าเล็งตามงานไอทีไว้ให้ดี ก็จะมีบางช่วงที่ ซื้อโน้ตบุ๊กแล้วแถมแรม เพิ่มให้ฟรีอีกด้วย อันนี้ก็คุ้มค่าละครับ

และถ้าจะถามว่าความจุแรมเท่าไรถึงจะพอ อันนี้ผมว่าถ้าให้คุ้มค่าสำหรับการทำงานและใช้งานทั่วไป รวมถึงงานมัลติมีเดียแล้ว ขนาด 2GB กำลังดีครับ แต่ถ้าเน้นสำหรับการเล่นเกมแล้วต้องขนาด 4GB ครับ ถึงจะเหมาะครับ

มาดูในเรื่องของราคากันบ้างครับ ถ้าใครคิดจะ Upgrade แรม ซึ่งการสั่งซื้อแบบออนไลน์นั้น ราคามักจะถูกกว่าตามท้องตลาดทั่วไป อีกทั้งการติดตั้งก็ไม่ยุ่งยาก จึงนิยม Upgrade เพิ่มแรมกันเองมากขึ้น ในจุดนี้เองก็ต้องพึงระวังเอาไว้บ้างนะครับสำหรับโน้ตบุ๊กที่ใหม่ ยังอยู่ในระยะประกันจากทางบริษัท เพราะถ้าหากว่าแผ่น วอยด์ (Void) หลุดลอกออกไม่เหมือนเดิม หรือฉีกขาดแล้วล่ะก็ อาจจะสูญเสียโอกาสในการซ่อม หรือเคลมก็ได้นะครับ (ตามเงื่อนไขการรับประกัน) เว้นเสียแต่ว่าจะมีผู้ผลิตบางราย ที่มีบริการปรับเพิ่มขนาดแรมให้นะครับ

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ หรือโอเอส

ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ หรือโอเอส เปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ผลักดันให้โน้ตบุ๊กเกิดการทำงาน ร่วมกับซอฟต์แวร์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว แต่ถ้าปราศจากวินโดวส์ละ โน้ตบุ๊กก็ไม่สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ได้นั่นเอง ถ้าหากว่าซื้อโน้ตบุ๊กแล้วมีวินโดวส์แถมให้ ก็สามารถตรวจเช็คระบบการทำงานต่างๆ ที่รวมถึงประสิทธิภาพของโน้ตบุ๊กได้อย่างสบายใจ อย่างน้อยจะได้รู้ว่า ซีพียู ซิปเซ็ต แรม ฮาร์ดดิสก์ รวมทั้งการ์ดจอ ตรงกับความต้องการหรือไม่ หากเทียบกับสเปกข้างกล่องหรือใบโบรชัวร์ ถ้าในทางกลับกันหากว่าโน้ตบุ๊กที่ซื้อมานั้นไม่มีวินโดวส์มาให้ แต่เป็นลีนุกซ์ หรือดอส ก็จะไร้ความหมายทันที กับการตรวจเช็คสภาพภายใน เว้นเสียแต่คุณอาจจะลองเข้าไปเช็คในไบออสแทน

การจัดเก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่า สตอเรจ

หากความต้องการเพียงแค่ใช้งานเอกสารทั่วไป หรือเก็บภาพถ่ายเล็กๆ น้อยๆ กับตัวเลือกความจุของ ฮาร์ดดิสก์ คงไม่จำเป็นต้องสูงกว่า 160GB หรอกครับ เว้นเสียแต่ว่าต้องการนำไปเก็บงานที่ต้องใช้ความจุสูงๆ เช่น งาน วิดีโอ ตัดต่อ พรีเซนเทชั่น กราฟิก ออกแบบ หรือแม้กระทั่งเกม ต่างต้องการความละเอียดสูงแทบทั้งนั้น

ในส่วนของความเร็วรอบนั้นก็มีผลเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันจะมีให้เลือกทั้งแบบ 5400rpm และ 7200rpm สำหรับการเชื่อมต่อนั้นจะเป็นแบบ SATA กันหมดแล้ว เพียงแต่ความเร็วรอบของฮาร์ดดิสก์ที่ต่างกันนั้น สำหรับผมคิดว่า 5400 rpm นั้นดูจะช้าไป และเพื่อให้การทำงานสะดุดได้น้อยที่สุด โดยเฉพาะงานจำพวกมัลติมีเดียแล้วล่ะก็ขนาด 7200 rpm ดูจะเหมาะและลงตัวที่สุดครับ

ท้ายที่สุดแล้ว คงจะหนีไม่พ้นฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ ที่เน้นความบาง และมีขนาดน้ำหนักที่เบา หรือที่เค้าเรียกกันว่า Solid State Drives (SSDs) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน แต่เนื่องจากราคาที่ยังค่อนข้างสูง อีกทั้งขนาดความจุที่มีให้เลือกน้อย จึงยังไม่เป็นที่นิยมสำหรับโน้ตบุ๊กนัก

ออฟติคัล ไดร์ฟ หรือไดร์ฟสำหรับอ่านและเขียน บันทึกแผ่นซีดีและดีวีดี

มาถึงตรงนี้ไดร์ฟสำหรับบันทึกแบบ DVD-Writer ที่สนับสนุนการอ่านและบันทึกแผ่นในฟอร์แมต DVD+R และ DVD-R อีกทั้งยังรองรับ DVD+R/-R Double Layer ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับการสำรองข้อมูล ตลอดทั้งอ่านและเขียนข้อมูลที่จำเป็นสำหรับโน้ตบุ๊ก

แต่ถ้ากำลังมองหาเครื่องเล่นบลูเรย์ (Blu-ray) ไว้รองรับในการชมภาพยนต์แบบ HD ละก็ คงต้องคิดสักนิดถึงระดับราคาที่ยังคงสูงอยู่ อีกทั้งยังไม่มีความจำเป็นสำหรับโน้ตบุ๊ก

อีกหนึ่งเทคโนโลยีกับ LightScribe ที่ผมคิดว่าเป็นอีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ไม่ได้รับความนิยมสำหรับโน้ตบุ๊ก สำหรับฟังก์ชั่นนี้ ก็เพื่อเสริมความสามารถในการเขียนภาพหรือวาดลวดลาย อีกทั้งสกรีนปกลงบนแผ่นดีวีดีและซีดี ทำให้เราได้ออกแบบแนวคิดที่สร้างสรรค์ และจินตนาการได้อย่างง่ายดาย คล้ายมืออาชีพ แต่ถ้าต้องเพิ่มเงินกับฟังก์ชั่นนี้ สำหรับท่านที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานแล้วล่ะก็ เก็บเงินไว้เพิ่มเสริมแต่งในส่วนอื่นๆ จะดีกว่าครับ

จอแสดงผล

การจะตัดสินใจเลือกซื้อโน้ตบุ๊กซักตัวนั้นเรื่องจอภาพก็นับว่าเป็นส่วน สำคัญมากทีเดียว ทั้งขนาดความกว้าง และความละเอียดของจอ ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด อย่าเลือกเพียงแค่ความสวยงามภายนอกเท่านั้น โน้ตบุ๊กส่วนใหญ่แล้ว จะเลือกใช้จอแบบ LED-Backlit ที่ให้ความคมชัดและความละเอียดสูงกว่าจอธรรมดาทั่วไป สำหรับวิธีในการเลือกจอแสดงผลที่ถูกต้องนั้น มีดังนี้ครับ

1. การใช้งานเอกสารทั่วไป ขนาดของจอที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 13-14 นิ้ว
2. การใช้งานด้านกราฟิก ออกแบบ ตัดต่อ พรีเซนเทชั่น ขนาดจอที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 14-15.6 นิ้ว
3. การใช้งานด้านมัลติมีเดียแบบ Full HD รวมทั้งการเล่นเกม ควรเลือกจอที่มีขนาดใหญ่ เพื่ออรรถรสในการรับชมและรับฟัง ขนาดที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 15.6 นิ้ว ขึ้นไป

การแสดงผลทางด้านกราฟิก

ถ้าเลือกโน้ตบุ๊กเพื่อใช้งานเอกสารทั่วไป หรือจะเล่นเน็ต รวมทั้งผ่อนคลายด้วยการดูหนัง ฟังเพลง ในรูปแบบไลฟ์สไตล์ หลักการง่ายๆ คือ สามารถเลือกซิปออนบอร์ดอย่าง GMA4500M HD ก็เพียงพอสำหรับการทำงานแล้ว แถมใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งยังประหยัดเงินในกระเป๋าสำหรับเพื่อตัวคุณเอง จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเลือกการ์ดจอแยกแต่อย่างใด แต่ถ้าหากว่าจำเป็นที่จะต้องใช้งานประเภทกราฟิก ตัดต่อ เขียนแบบ หรือเน้นเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ก็ต้องพิจารณาถึงการ์ดจอแยกเป็นหลัก ซึ่งตรงนี้ก็มีด้วยกัน 2 ค่าย คือ NVIDIA GeForce และ ATI Mobility Radeon ถ้าพูดถึงประสิทธิภาพต่อความคุ้มค่าแล้ว ย่อมเป็นการลงทุนที่คุ้มครับ

การเชื่อมต่อเครือข่าย

การเชื่อมต่อเครือข่ายถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่โน้ตบุ๊กทุกรุ่น จำเป็นต้องมี เพื่อใช้เชื่อมต่อ Internet ผ่านระบบแลน ไวเรส หรือแม้กระทั่งโมเด็ม โดยเฉพาะปัจจุบันนี้เครือข่ายไร้สายอย่างไวเรสและบลูทูธ ต่างเข้ามามีส่วนสำคัญต่อการใช้งานโน้ตบุ๊กมากพอสมควร เพราะเมื่อตัดสินใจเลือกที่จะซื้อโน้ตบุ๊ก นั่นก็หมายความว่า ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งาน และการพกพา ที่นอกเหนือจากการใช้งานทั่วๆ ไป การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สายก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะขาดเสียมิได้ไปแล้ว ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของการขอใช้บริการจากผู้ให้ บริการเครือข่าย เรื่องค่าบริการก็ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นหรือรูปแบบที่เลือกรับบริการ แต่สำหรับอุปกรณ์นั้นทุกวันนี้โน้ตบุ๊กทุกรุ่นมีมาให้พร้อมครับ แทบไม่ต้องหาซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกเลย

อุปกรณ์เครือข่ายที่ว่านี้ จะมาพร้อมกับแพลตฟอร์มใหม่ของอินเทลอย่าง Centrino 2 ซึ่งจะมีตัวรับสัญญาณเครือข่าย หรือที่เรียกว่า Wi-Fi Link สนับสนุนไวเรสแบบ 802.11 b/g รวมทั้ง Draft-N ที่ครอบคลุมการใช้งานได้มากกว่า และไกลกว่านั่นเอง

ความคงทนสำหรับโน้ตบุ๊ก

จะว่าไปแล้วความคงทนนี่สำคัญมากๆ เลยครับ เพราะการใช้งานปัจจุบันนั้น ต้องพกพา ไปไหนมาไหน ติดตัวอยู่ตลอดเวลา จึงต้องระมัดระวังเรื่องการพกพาเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ตกหล่น กระแทก หรือมีรอยขีดข่วนใดๆ

สำหรับโน้ตบุ๊กที่ได้รับการนับถือและยอมรับว่าทนทานที่สุด เช่น Lenovo, Toshiba และ Fujitsu แต่ก็ใช่ว่ายี่ห้ออื่นจะไม่ทนทานนะครับ เพียงแต่ว่าที่ผมหยิบยกมาเป็นตัวอย่างที่ขึ้นชื่อว่าคงทนมากกว่าเท่านั้นเอง

ขนาดและน้ำหนัก

ปัจจุบันเรื่องขนาดและน้ำหนักกลายมาเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับโน้ตบุ๊ก แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อไปซะแล้ว ยิ่งประสิทธิภาพสูงแต่น้ำหนักน้อย ย่อมเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแน่นอน หลายคนมักเลือกโน้ตบุ๊ก เพื่อความสะดวก พกพาสบาย จึงมองไปที่น้ำหนักเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อตัดสินใจเลือกซื้อ จึงต้องยอมรับถึงจุดนี้ก่อนว่า กลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่ คือกลุ่มคนทำงาน การใช้งานกับการเดินทางย่อมต้องไปด้วยกัน จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับน้ำหนักของโน้ตบุ๊ก

การรับประกัน

เมื่อคุณจะตัดสินใจเลือกซื้อโน้ตบุ๊ก สิ่งที่ต้องคำนึงถึงและขาดไม่ได้เลย คือ “การรับประกัน” เพราะการรับประกันที่ดีนั้น อยู่ที่การประกันชิ้นส่วนต่างๆ และบริการหลังการขาย รวมทั้งบริการการคำแนะนำทางโทรศัพท์ และบริการการซ่อมเครื่องที่มีศูนย์บริการอยู่ตามห้างไอทีต่างๆ รวมทั้งที่เป็นตัวแทนจำหน่าย เพราะสมัยนี้บริการหลังการขายเข้ามามีบทบาท เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าด้วย แทบทั้งนั้นครับ

ส่วนใหญ่แล้วโน้ตบุ๊คที่ซื้อใหม่ จะมีการรับประกันจากบริษัทผู้ผลิตอยู่แล้ว ต่างกันที่ระยะเวลาประกัน ตั้งแต่ 1-3 ปี บางแบรนด์ก็แค่ 1 ปี ในขณะที่บางแบรนด์หรือบางรุ่นที่มีราคาสูงอาจจะประกันให้ถึง 3 ปี นอกจากนี้รูปแบบการรับประกันยังมีแบบเฉพาะในประเทศ หรือทั่วโลก (World wide) สิ่งที่จะต้องตรวจสอบเกี่ยวกับการรับประกัน ก็คือ หมายเลขเครื่อง (Serial No.) ที่อยู่ด้านล่างของตัวเครื่อง ให้ดูว่าตรงกับที่ระบุไว้ในใบรับประกันหรือไม่ นอกจากนี้ผู้ผลิตบางรายจะให้ลูกค้าที่ซื้อโน้ตบุ๊กส่งเอกสารยืนยันการ รับประกันกลับไปที่บริษัท ไม่เกินระยะเวลา 1 เดือนนับจากวันที่ซื้อ

สรุปปิดท้าย

บทสรุปการเลือกซื้อโน้ตบุ๊กแบบฉบับออนไลน์นั้น ผมคิดว่าถ้าต้องการโน้ตบุ๊กซักตัว งบประมาณพร้อม ก็อย่ารอช้าเลยครับ รีบศึกษา ค้นคว้า ทำความเข้าใจในรายละเอียด แล้วตัดสินใจซื้อได้เลย เพราะถ้าคุณมัวแต่ลังเล กลัวว่าเทคโนโลยีใหม่มาแล้วจะเสียดาย หรือตามไม่ทัน บางครั้งคงต้องยอมรับและทำใจละครับ เพราะเทคโนโลยีของเครื่องพีซีที่ว่าเร็วแล้ว พอมาเจอโน้ตบุ๊กกลับเร็วยิ่งกว่าซะอีก ถ้าหากคุณมัวแต่รอๆ ก็คิดไว้เลยครับว่าคงไม่มีโอกาสได้ซื้อแน่นอน เพราะเทคโนโลยีไม่มีวันหยุดนิ่ง เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สำหรับผมแล้วเทคโนโลยีใหม่แบบแกะกล่องผมมักไม่นิยมนัก คงต้องรอให้ผ่านไปซักระยะ เมื่อมีผลทดลองจากการใช้งานในหลายๆ ด้าน หลายมุมมอง จึงค่อยจัดงบ แล้วลงมือศึกษา ค้นคว้า หาข้อมูล ถ้าทำได้แบบนี้ต้นทุนความเสี่ยงมันก็จะน้อยกว่าครับ

โน้ตบุ๊คราคาสูง ถึงสูงมาก	โน้ตบุ๊คราคากลางๆ ค่อนไปทางสูง	โน้ตบุ๊คราคาถูก ค่อนไประดับกลาง
HP, Asus, Sony, Fujitsu, Toshiba, Macbook	HP, Asus, Acer, Lenovo, Toshiba, Dell, MSI	Acer, Lenovo, BenQ, Compaq, SVOA