บทที่ 8.10: พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ตลอดชีวิต

พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ตลอดชีวิต

ตลอด เวลาแห่งการสดับพระธรรมเทศนานั้น พระเจ้าอชาตศัตรูทรงติดตามสดับตรับฟังด้วยความสนพระทัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตอบปัญหาได้ตรงประเด็น ตามที่พระเจ้าอชาตศัตรูทรงกระหายใคร่รู้มานานนักหนาแล้ว วิธีการ ตอบของพระพุทธองค์ยังสมบูรณ์บริบูรณ์พร้อมด้วยศิลปะ สามารถยังผลให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงตรองตามด้วยเหตุผลอย่างต่อเนื่อง โดยปราศจากความกังขา ทั้งทรงรู้สึกทึ่งในคุณวิเศษอันน่าอัศจรรย์ใจของพระธรรมคำสั่งสอนอีกด้วย ยังความปิติเบิกบานมาสู่พระองค์ยิ่งนักจึงได้กราบทูลสรรเสริญพระพุทธองค์ว่า

ข้า แต่พระองค์ผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์ไพเราะแจ่มแจ้งจับใจยิ่งนัก เปรียบเสมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด เพื่อให้คนมองเห็นสิ่งต่างๆ ข้อนี้ฉันใด พระธรรมเทศนาของผู้มีพระภาคเจ้าก็ฉันนั้น บริบูรณ์พร้อมด้วยคุณวิเศษโดยอเนกประการ

ครั้นแล้วพระเจ้าอชาตศัตรู จึงทรงขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ตลอดชีวิต โดยปฏิญาณว่า

ข้า แต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ ขอพรผู้มีพระภาคเจ้าโปรดจงจำข้าพระองค์ว่า เป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะตลอดชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ความ สงสัยเรื่องสามัญญผลที่ติดค้างพระทัยมาเป็นเวลานาน แม้จะทรงพยายามเสด็จไปหาเจ้าลัทธิผู้มีชื่อเสียงทั้งหลายให้ช่วยคลี่คลายข้อ ข้องใจ แต่กลับทรงผิดหวังมาโดยตลอดนั้น บัดนี้พระเจ้าอชาตศัตรูได้ทรงพบแล้วว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ที่ทรงสามารถปลดเปลื้องทุกข์อันใหญ่หลวงในพระทัยของพระองค์ได้ จึงทรงกราบทูลสารภาพความผิดของพระองค์ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งเป็นการขอขมาต่อพระราชบิดา โดยผ่านพระพุทธองค์ด้วยว่า

โทษ ได้ครอบงำข้าพระองค์ซึ่งเป็นคนเขลา คนหลง ไม่ฉลาด ข้าพระองค์ได้ปลงพระชนม์ขีพพระบิดา ผู้ดำรงธรรมเป็นพระราชาโดยธรรม เพราะปารถนาความเป็นใหญ่ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดทรงรับทราบความผิดของข้าพระองค์โดยเป็นความผิดจริง เพื่อสำรวมต่อไป

ด้วย พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่จะทรงอนุเคราะห์พระเจ้าอชาตศัตรู พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงเป็นพยาน รับทราบคำสารภาพผิดของพระเจ้าอชาตศัตรู โดยตรัสว่า

จริง มหาบพิตร ความผิดได้ครอบงำมหาบพิตร ซึ่งเป็นคนเขลา คนหลง ไม่ฉลาด มหาบพิตรได้ปลงพระชนม์ชีพพระบิดาผู้ดำรงธรรม ผู้เป็นพระราชาโดยธรรม เพราะปารถนาความเป็นใหญ่ แต่เพราะทรงเห็นความผิดโดยเป็นความผิดจริง แล้วทรงสารภาพตามเป็นจริง รับสังวรต่อไป นี้เป็นวัฒนธรรมในวินัยของพระอริยะแล

เมื่อ สิ้นกระแสรับสั่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเจ้าอชาตศัตรูก็ทรงปิติยินดีเป็นล้นพ้น เมื่อได้สดับว่าพระพุทธองค์ทรงรับการสารภาพผิดของพระองค์ โดยมิได้ทรงซ้ำเติมให้โทมนัสยิ่งขึ้นไปอีก มิหนำซ้ำยังทรงสรรเสริญว่าการยอมสารภาพผิดเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงาม พระพุทธดำรัสดังกล่าวจึงเปรียบเสมือนน้ำทิพย์ชโลมพระทัยของพระเจ้าอชาตศัตรู ให้แช่มชื่น และทรงมุ่งมั่นประกอบกุศลกรรมอย่างยิ่งยวดต่อไปเป็นการเริ่มต้นบำเพ็ญบุญ บารมี เพื่อเป็นปัจจัยแห่งภพหน้าต่อๆไป

นับ เป็นบุญประการหนึ่งของพระเจ้าอชาตศัตรู ที่ทรงมีอุปนิสัยกล้ายอมรับผิด เมื่อทรงตรองเห็นว่าการทำปิตุฆาตเป็นความผิดจริง ก็มิได้ทรงนิ่งเฉยเสีย แต่กล้าสารภาพความผิดนั้น และนับเป็นบุญอย่างยิ่งอีกประการหนึ่ง ที่ทรงได้โอกาสสารภาพความผิดเฉพาะพระพักตร์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นการผูกเวรระหว่างพระราชบิดากับพระองค์ที่มีมาแต่อดีตชาติจึงเป็นอัน ยุติแต่เพียงเท่านี้ เหลือเพียงแต่ผลของอนันตริยกรรมที่พระองค์จะต้องเสวยในทุคติภูมิต่อไป

เมื่อ พระเจ้าอชาตศัตรูทรงคลายพระทัยจากความทุกข์ ความขุ่นข้องกังวลพระทัยทั้งปวง และทรงพิจารณาเห็นเป็นเวลาอันสมควรแล้ว จึงทรงกราบทูลพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงกระทำประทักษิณแล้วเสด็จกลับไป

ครั้น พระเจ้าอชาตศัตรูและเหล่าข้าราชบริพารกลับไปหมดสิ้นแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสแก่หมู่ภิกษุสงฆ์ในที่นั้นว่า พระเจ้าอชาตศัตรูนี้ถูกบาปจาการทำปิตุฆาต ปิดกั้นหนทางสวรรค์นิพพานเสียแล้วในชาตินี้ หาไม่เช่นนั้นแล้ว ย่อมทรงได้บรรลุโสดาปัตติผล เป็นพระโสดาบันในค่ำคืนนั้นเอง

มี คำอธิบายปรากฏในอรรถกถาสามัญญผลสูตรว่า ตั้งแต่เวลาที่ปลงพระชนม์ชีพระราชบิดาแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูมิได้บรรทมหลับเลยทั้งกลางคืนและกลางวัน ครั้นหลังจากเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วจึงบรรทมหลับได้ ทั้งนี้เพราะทรงได้อานิสงส์จาการสดับพระธรรมเทศนา ทรงขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ทรงมีศรัทธาอันยิ่งใหญ่ต่อพระรัตนตรัย จะหาปุถุชนคนใดเสมอเหมือนยาก

แม้ จะต้องเสวยผลแห่งอนันตริยกรรม ไปบังเกิดในพื้นเบื้องล่างของนรกขุมบริวารชื่อโลหกุมภี ถึง ๓ หมื่อนปีนรก แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์ไว้ว่า เมื่อพ้นทัณฑกรรมในเบื้องล่างของโลหกุมภีนั้นแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรูจะไปบังเกิดในพื้นเบื้องบนของโลหกุมภี อีก ๓ หมื่นปีนรก หลังจากนั้นแล้วจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า

พระนามว่า ชีวิตวิเสส” แล้วบรรลุนิพพานในที่สุด

------------------------------------------------

- สามัญญผลสูตร ที.สี ๙/๑๓๘/๑๑๐

สามัญญผลสูตร ที.สี ๙/๑๓๙/๑๑๒

สามัญญผลสูตร ที.สี ๙/๑๓๙/๑๑๓

โลหกุมภี (นรกหม้อโลหะ) เป็นนรกขุมเล็กซึ่งเป็นบริวารของมหานรกขุมที่๘ คืออวีจินรก

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘