บทที่ 5.11 : ทรงเป็นผู้เบิกบานแล้ว
พระพุทธคุณ ๙
๘. ทรงเป็นผู้เบิกบานแล้ว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า “พุทโธ” แปลว่า “ผู้เบิกบานแล้ว” บางแห่งแปลว่า “ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว”
ที่แปลว่า “ผู้ตื่น” นั้น มีความหมายเป็น ๒ นัย คือ
นัยที่ ๑ พระองค์ตรัสรู้ไญยธรรม
หรือธรรมอันควรรู้หมดสิ้นทุกประการ พระองค์จึงทรงเป็น “ผู้ตื่น” คือ ทรงตื่นเองจากความเชื่อถือและข้อปฏิบัติผิดๆ ทั้งหลาย ที่ยึดถือปฏิบัติกันมานานแสนนาน อีกทั้งยังทรงปลุกผู้อื่นให้พ้นจากความหลงงมงายกับคำสอนผิดๆ ซึ่งถ่ายทอดต่อๆ กันมาด้วย
นัยที่ ๒ พระองค์ตรัสรู้อริยสัจ ๔
ด้วยพระญาณอันยิ่งของพระองค์เอง พระองค์จึงทรงเป็น “ผู้ตื่น” คือ ทรงตื่นจากความไม่รู้ แล้วทรงสั่งสอนสัตว์โลกทั้งหลายให้รู้และปฏิบัติตามจนกระทั่งบรรลุอรหัตตผล เข้านิพพานตามพระองค์ไปมากมาย
ส่วนที่แปลว่า “ผู้เบิกบาน” ก็ เพราะนำไปเปรียบกับดอกบัว กล่าวคือ การที่พระองค์ทรงประกอบความเพียรด้วยประการต่างๆ มานานถึง ๖ พรรษา ขณะที่ยังมิได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ย่อมเปรียบได้กับดอกบังที่ยังตูมอยู่ ครั้นเมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จึงเปรียบได้กับดอกบัวที่บานแล้วยามต้องแสงอาทิตย์อุทัย พระหฤทัยของพระองค์ย่อมผ่องแผ้ว เบิกบานเต็มที่
ความหมายทั้ง ๒ นัย ดังกล่าวแล้วนี้ คือ คำแปลของ “พุทโธ” ด้วยเหตุนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงพระนามว่า “ทรงเป็นผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว”