ที่มาแห่งสามัญญผลสูตร 4.อชาตศัตรูราชกุมารทรงกระทำปิตุฆาต

พระเทวทัตได้หมั่นไปเฝ้าอชาตศัตรูราชกุมาร แล้วถวายคำแนะนำยุยงเนืองๆว่า สมัยก่อนคนเราอายุยืน แต่สมัยนี้คนอายุสั้น ด้วยเหตุนี้อชาตศัตรูราชกุมารอาจจะสิ้นพระชนม์เสียก่อนที่ได้ขึ้นครองราชย์ก็ได้ ดังนั้นพระองค์จึงน่าจะปลงพระชนม์พระราชบิดา แล้วยึดครองราชสมบัติเสีย ส่วนตนเองก็จะปลงพระชนม์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วปกครองสงฆ์แทนเสียเอง

ด้วยเหตุที่อชาตศัตรูราชกุมาร ทรงหลงเลื่อมใสพระเทวทัตมากมายเพียงไรก็ตามแต่ด้วยความผูกพันเกรงกลัวในฐานะ พระโอรสที่ทรงมีต่อพระราชบิดา อชาตศัตรูราชกุมารก็ไม่อาจ สะกดความหวาดหวั่นสะดุ้งกลัวไว้ได้ ทรงส่ออาการเป็นพิรุธ ครั้นเมื่อถูกเหล่ามหาอำมาตย์จับได้ อชาตศัตรูราชกุมารจึงทรงสารภาพความจริงว่า ทรงประสงค์จะปลงพระชนม์พระราชบิดาเพื่อราชสมบัติ ตามคำแนะนำของพระเทวทัต

มหาอำมาตย์เหล่านั้นมีความเห็นแตกแยกออกเป็น 3 พวก คือ พวกที่หนึ่งเห็นว่า ควรปลงพระชนม์อชาตศัตรูราชกุมาร และฆ่าพระเทวทัตกับลูกศิษย์ทั้งหมดเสีย พวกที่สองเห็นว่าไม่ควรฆ่าพวกพระผู้ไม่มีส่วนร่วมกระทำผิด ควรฆ่าเฉพาะพระเทวทัตและปลงพระชนม์อชาตศัตรูราชกุมารก็พอ ส่วนพวกที่สามเห็นว่า ควรกราบทูลเรื่องทั้งหมดนี้ให้พระเจ้าพิมพิสาร ทรงทราบและขอให้อยู่ในพระราชวินิจฉัยของพระองค์เอง ผลปรากฏว่า พวกที่สามเป็นฝ่ายชนะ จึงพากันนำอชาตศัตรูราชกุมารเข้าเฝ้าพระเจ้าพิมพิสาร พร้อมทั้งกราบทูลเรื่องราวทั้งหมดให้ทรงทราบ

พระเจ้าพิมพิสารแทนที่จะทรงพิโรธโกรธแค้น กลับทรงสละราชบัลลังก์ให้แก่พระราชโอรสด้วยความเต็มพระทัยยิ่ง แล้วทรงมีรับสั่งให้ถอดยศมหาอำมาตย์พวกแรก ทรงให้ลดตำแหน่งมหาอำมาตย์พวกที่สอง และทรงเลื่อนตำแหน่ง พร้อมทั้งปูนบำเหน็จรางวัลให้มหาอำมาตย์พวกที่สามตามลำดับ อชาตศัตรูราชกุมารจึงขึ้นครองราชสมบัติ เป็นพระเจ้าอชาตศัตรูตั้งแต่นั้นมา

การปฏิบัติของพระเจ้าพิมพิสารต่อมหาอำมาตย์ทั้ง 3 พวกนั้น ย่อมจะก่อให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจแก่มหาอำมาตย์พวกที่ 1 และ 2 อย่าง แน่นอน ทั้งนี้ย่อมหมายความว่า ความแตกสามัคคีและความอาฆาตพยาบาท ระหว่างหมู่มหาอำมาตย์แห่งกรุงราชคฤห์กับพระราชาองค์ใหม่ ได้ฟักตัวขึ้นอย่างเงียบๆ รอเวลาที่จะปะทุขึ้นมาเท่านั้น

แม้พระเจ้าอชาตศัตรูจะเป็นพระราชาผู้มีอำนาจเต็มที่แล้ว เรื่องก็ยังไม่ยุติเพียงเท่านั้น เพราะพระเทวทัตยังปลุกปั่นพระองค์ให้ทรงหวาดระแวงพระราชบิดาต่อไปอีกว่า หากปล่อยพระเจ้าพิมพิสารไว้ก็จะเป็นอันตรายต่อการครองราชบัลลังก์ของพระองค์ ด้วยเหตุนี้พระเจ้าอชาตศัตรูจึงได้สั่งให้ปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสาร ด้วยการทรมานอย่างสุดแสนโหดร้ายทารุณ ครั้ง นั้นพระเจ้าอชาตศัตรูทรงสั่งให้ขังพระราชบิดาไว้ในห้องแล้วรมควัน สั่งห้ามส่งพระกระยาหารและห้ามเยี่ยมโดยเด็ดขาด แต่เนื่องจากพระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบันบุคคล ดังนั้นแม้จะขาดพระกระยาหาร ทั้งยังถูกรมด้วยควันไฟ ก็ยังสามารถดำรงพระชนม์ชีพอยู่ได้ โดยอาศัยปิติสุขอันเกิดจากมรรคผลด้วยวิธีเดินจงกรม มิหนำซ้ำพระวรกายยังเปล่งปลั่งยิ่งขึ้นอีกด้วย เมื่อ พระเจ้าอชาตศัตรูทรงทราบเรื่อง จึงรับสั่งให้ช่างตัดผมเอามีดโกนกรีดฝ่าพระบาททั้งสองข้างของพระเจ้าพิมพิ สารเอาน้ำมันผสมเกลือทา แล้วย่างด้วยถ่านไม้ตะเคียนที่กำลังคุแดงอีกต่อหนึ่งพระเจ้าพิมพิสารทรงเกิด ทุกขเวทนาอย่างแรงกล้าไม่นานนักก็สวรรคต กล่าว กันว่า ในภพชาติหนึ่ง พระเจ้าพิมพิสารทรงลบหลู่ดูถูกพระรัตนตรัย ด้วยการทรงฉลองพระบาทเข้าไปยังลานพระเจดีย์ และเอาพระบาทที่เปรอะเปื้อนเหยียบเสื่อกกที่เขาปูไว้สำหรับนั่งฟังธรรม บาปกรรมในครั้งนั้นรวมกับผลกรรมที่ทรงเคยก่อเวรปาณาติบาตจากการศึกสงครามใน อดีตได้ตามมาสนองพระองค์ในที่สุด

ในวันที่พระเจ้าพิมพิสารสวรรคต พระโอรสของพระเจ้าอชาตศัตรูก็ประสูติ เมื่อได้ทรงทราบข่าวการประสูติของพระโอรสจากอำมาตย์ พระเจ้าอชาตศัตรูทรงบังเกิดความรักพระโอรสอย่างลึกซึ้ง ทั้งทรงตระหนักในพระทัยว่า พระราชบิดาของพระองค์ก็ทรงมีความรักต่อพระองค์ไม่แตกต่างกับที่พระองค์ทรงมี ต่อพระโอรส

พระเจ้าอชาศัตรูทรงสำนึกในทันทีว่า พระองค์ได้ทำความผิดอย่างใหญ่หลวง จึงมีรับสั่งให้ปล่อยพระราชบิดา แต่อำมาตย์ได้ถวายรายงานว่า พระเจ้าพิมพิสารสวรรคต เสียแล้ว ข่าวนี้ทำให้พระเจ้าอชาตศรัตรูทรงทุกข์โทมนัสอย่างสุดซึ้ง ถึงกับทรงกันแสงคร่ำครวญ น้ำพระเนตรไหลนองพระพักตร์ขณะเสด็จไปเฝ้าพระราชมารดา

หลังจากที่พระเจ้าพิมพิสารสวรรคตแล้ว พระนางเวเทหิ พระมารดาของพระเจ้าอชาตศัตรู ผู้เป็นขนิษฐภคินของพระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงรู้สึกอดสูเกินกว่าจะอยู่ร่วมกับพระราชโอรสอกตัญญู จึงเสด็จกลับไปประทับอย่างถาวร ณ กรุงสาวัตถี เมืองหลวงของแคว้นโกศล ต่อมาไม่นานก็สวรรคตด้วยความตรอมพระทัย

เมื่อพระญาติและสหายของพระเจ้าพิมพิสาร ได้ทราบเรื่องความโหดร้ายทารุณและอกตัญญูของพระเจ้าอชาตศรัตรู ต่าง ก็พากันเคียดแค้นเป็นอย่างยิ่ง พระเจ้าปเสนทิโกศลถึงกับทรงกรีฑาทัพบุกยึดหมู่บ้านกาลิกคามของแคว้นมคธ ส่วนพระจัณฑปัชโชติแห่วแคว้นอวันตี ซึ่งเป็นแคว้นมหาอำนาจด้านตะวันตก ก็ทรงเตรียมทัพบุกมคธเช่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าอำมาตย์ราชบริพารยังแตกความสามัคคีกันอีกด้วย พระเจ้าอชาตศรัตรู จึงต้องผจญศึกทั้งจากภายในและภายนอกราชอาณาจักร

นับแต่วันที่ปลงพระชนม์พระราชบิดา ครั้ง ใดที่พระเจ้าอชาตศรัตรูหลับพระเนตรลงด้วยความหวาดระแวงภัยทุกครั้ง พระองค์จึงไม่อาจบรรทมหลับได้เลยไม่ว่ากลางคืนหรือกลางวัน ได้แต่ประทับนั่งเพื่อบรรเท่าความง่วงเท่านั้น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘