Networking

โดยปกติแล้ว หน้าต่าง Networking จะเปิดขึ้นมาตอนที่เปิด LinuxTLE ขึ้นมาเป็นครั้งแรก แต่หากหน้าต่างนี้ไม่โผล่มาหรือยังไงก็แล้วแต่ ก็สามารถเปิดได้โดย ไปที่

เมนูหลัก > System > Control Center > Administrative Tools > Networking

Network Settings

Networking Preferences

• Connection จะแสดงข้อมูลของอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อ เช่น Wireless Connection(ไร้สาย), Wired Connection(มีสาย), Modem Connection(โมเด็ม)

• General จะเป็นการกำหนดชื่อให้กับเครื่อง เช่นกำหนดเป็น Home, Main, หรืออะไรก็แล้วแต่(โดยข้อตวามนี้จะเป็นชื่อของเครื่องในระบบ Network และจะปรากฏให้เห็นที่หน้าต่าง Login และหน้าต่าง Terminal)

• DNS เป็นการกำหนด Server ที่ให้ ค้นหา IP Address จากชื่อ Domain Name (IP Address นี้สามารถสอบถามได้จาก ISP ของคุณ)

• Hosts จะเป็นการสร้างชื่อขึ้นมาเพื่อแทน IP เช่น การที่กำหนดคำว่า "localhost" แทน IP "127.0.0.1"

Wired Connection Properties

หมายเหตุ: หากติดตั้ง LAN Card แล้ว LinuxTLE มองไม่เห็นก็แสดงว่า LinuxTLE ไม่รู้จัก LAN Card อันนั้น

การจะเปิด Wired Connection Properties นั้นก็เปิดโดยการ เลือก Wired Connection แล้วกดปุ่ม Properties

โดยจะมีข้อมูลของแต่ละส่วนดังนี้

• Enable This Connection หากต้องการจะเปิดใช้ Device ตัวนี้ก็ให้ ติ๊กถูกไว้
• Connection Settings จะเป็นรูปแบบการปรับแต่งหมายเลข IP, Subnet Mask, Gateway โดยมี
  • Automatic Configuration(DHCP) ให้ระบบทำการปรับแต่งข้อมูลนี้โดยอัตโนมัติ (หากไม่ต้องการปรับแต่งเอง สามารถให้ Router กำหนด IP แบบอัตโนมัติได้โดยเลือกตัวเลือกนี้)
  • Static IP Address เป็นการปรับแต่งเองเพื่อไม่ใช้ IP ของเครื่องเปลี่ยนแปลง แต่ต้องหาข้อมูลมากรอกลงไปเองเช่นกัน

Static IP Address Settings

IP Address, Subnet Mask, Gateway Address

หากไม่มีข้อมูลใดๆ อยู่ในมือเลย ให้ทำการเปลี่ยน Connection Settings เป็น Automatic Configuration (DHCP) ก่อน

แต่หาก Router ที่ใช้อยู่ไม่มีระบบ DHCP หรือไม่ได้ทำการเปิดใช้ ก็ต้องสอบถามเอาจาก ผู้ดูแลระบบของคุณ หรือ ISP ด้วยตัวเอง

หากไม่ต้องการที่จะ Fix IP ของเครื่องของคุณ ก็ไม่จำเป็นต้องทำครับ สามารถใช้ได้ปกติ โดย Router จะแจก IP ให้ไหม่ตอนที่เปิดเครื่อง

แต่หากเครื่องอยู่ในวง LAN และต้องการที่จะได้ IP แบบ Fix โดยใช้ IP เดิมเดียวกับ Windows หรือ ต้องการให้เป็น IP ปัจจุบันที่ได้รับจาก Router ไว้ตลอด ก็ลองทำตามดูได้ครับ

ใช้ GUI

• เปิดโปรแกรมที่ชื่อว่า Network Tools ใน Control Center ขึ้นมา
• แท็ป Devies
  • ให้เลือก Networkd Devices เป็นอันเดียวกับที่อยู่ใน Networking (ในตัวอย่างเป็น eth0 เพราะมี LAN Card อยู่อันเดียว)
  • ในช่อง IP Infomation ให้ดูที่ Protocal IPv4 ซึ่งจะข้อมูลอยู่ดังนี้
    • IP Address คือ IP ของเครื่องนี้ในปัจจุบัน (ในตัวอย่างคือ 10.143.97.170)
    • Netmask/Prefix คือ Subnet Mask (ในตัวอย่างคือ 255.255.255.240)

Network Tools: IP Information

• ในแท็ป Netstat
  • ให้เลือก Display เป็น Routing Table Infomation แล้วกดปุ่ม Netstat
  • ดูที่ Destination เป็น 0.0.0.0 แล้วดูที่ช่อง Gateway ก็จะได้ Gateway ที่ใช้อยู่ (ในตัวอย่างคือ 10.143.97.161)

Network Tools: Netstat

ใช้คำสั่งใน Terminal

• เปิด Terminal แล้วพิมพ์

$ip route

IP Information in Terminal

• IP Address จะอยู่หลัง src (ในที่นี้คือ 10.143.97.167)
• Gateway Address จะอยู่หลัง default via (ในที่นี้คือ 10.143.97.161)
• Subnet Mask จะไม่มีใน Terminal แต่จะมี Maskbits มาให้แทน (ในที่นี้คือ 10.143.97.160/28)

วิธีการแปลง maskbit - > subnet ครับ ไม่ยากอะไรเลยครับ คือระบบจะแบ่งเป็นเลขฐาน 16 ทั้งหมด 4 ชุด
เลขที่เห็นเป็นฐาน 10 เลยแปลงยาก ถ้าเป็นฐาน 2 จะได้ค่าดังนี้
จำนวน   = 12345678.12345678.12345678.12345678 รวมทั้งหมดมีตัวเลขทั้งหมด 8 ตัว *4 ชุด = 32 ตัว
ค่า Bit    = 11111111.11111111.11111111.11111111 มีค่าเท่ากับ 255.255.255.255 ฐาน 10
ยกกำลัง = 76543210.76543210.76543210.76543210
จะได้     = 128*1+64*1+32*1+16*1+8*1+4*1+2*1+1*1 นี่แค่ชุดเดียวนะ 8 ตัวแรกเท่านั้น = 255
เลขที่เห็นคือ /28 ข้างหลังแสดงว่ามีเลข 1 ทั้งหมด 28 (นับจากซ้ายไปขวา) จะได้
/28        = 11111111.11111111.11111111.11110000
จะได้     = 255.255.255. 128*1+64*1+32*1+16*1+0+0+0+0
          = 255.255.255.240
หรือว่าให้ใช้คำสั่ง /sbin/ifconfig ควบคู่ไปด้วยครับ ดูที่ี MASK:255.255.255.240 ครับ (สมเดชแก้)
                                                                                                      --Ohno 15:27, 12 ธันวาคม 2007 (ICT)

• วิธีแปลง Maskbits ให้เป็น Subnet Mask ทำง่ายๆ โดยเข้าเว็บ http://www.subnet-calculator.com/

ใช้ Network Configuration ของ Windows XP

• คลิกขวาที่ My Network Places เลือก Properties

Right Click at My Network Places

• จะมีหน้าต่าง Network Connection ออกมา
• คลิกขวาที่ Connection ที่ใช้อยู่ เลือก Status

Right Click at Used Connection

• คลิกที่แท็บ Support กดปุ่ม Details เพื่อดูข้อมูลของการปรับแต่ง Connection

Network Connection Details

• จดข้อมูลพวกนี้ไว้แล้วสามารถนำไปใช้ได้โดยตรง

Modem Connection

สำหรับผู้ที่ใช้ Modem ก็สามารถกำหนดค่า ได้ โดยใช้แบบ GUI จะต้องทำดังนี้

ข้อมูลด้านล่างนี้สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ Modem(56kbs) หากเป็น ADSL-MODEM ซึ่งทำหน้าที่เป็น Router ไม่จำเป็นต้องทำครับ

General การปรับแต่งทั่วไป

Modem Configuration: General

• Enable this connection เปิดให้ใช้ Connection ตัวนี้
• Internet Service Data
  • Phone Number ใส่หมายเลขโทรศัพท์ของ ISP
  • Dial Prefix หมายเลขทางไกล
• Account Data
  • Username ใส่ Username ที่ได้มาจาก ISP
  • Password ใส่ Password ที่ได้มาจาก ISP

Modem การปรับแต่งเกี่ยวกับ Modem

Modem Configuration: Modem

• Modem Port เป็น Port ที่ใช้เชื่อมต่อกับ Modem
• Dial Types มีให้เลือก Tones(แป้นหมุน) กับ Palses(กดปุ่ม)
• Volume เป็นระดับความดังของเสียงโมเด็ม

Options ตัวเลือกเพิ่มเติม

Modem Configuration: Options

• Set Modem as defaults route to Internet ตั้งให้โมเด็มเป็นตัวหลักในการเชื่อมต่อไปยัง Internet
• Use the Internet service provider nameservers ใช้ nameserver ของ ISP
• Retry if the connection breaks or fails to start ให้ลองเชื่อมต่อใหม่อีกครั้งหากโดนตัดการเชื่อมต่อ

สำหรับการใช้ Terminal ให้พิมพ์

$ sudo pppoeconfig

ทำตามคำแนะนำ

หมายเหตุ: เนื่องจากผมไม่ได้มี Modem 56k จึงไม่สามารถที่จะแสดงรูปภาพและการใช้งานได้ หากท่านใดมีโปรดช่วยเพิ่มเติมด้วย (หากผิดพลาดอะไรโปรดแก้ไขด้วยครับ)