โรคอ้วน: ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็ง

มะเร็งเต้านม

ความเป็นจริงคือ ผู้หญิงที่อ้วนจะมีความเสี่ยงเรื่องของมะเร็งเต้านมมากกว่าปรกติ นั่น
เป็นเพราะว่าผู้ที่อ้วนมักจะสร้างฮอร์โมนเพศหญิงมากกว่า

ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่ที่สร้างมาจากรังไข่และทำให้เกิดการหนาตัวของเยื่อ
บุโพรงมดลูกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ และยังเป็นฮอร์โมนที่ทำให้มีการ
เปลี่ยนแปลงในวัยสาวอีกด้วย ซึ่งทำให้ผู้หญิงมีเต้านม มีสะโพกที่ผายออก

เซลล์ที่ทำหน้าที่เก็บสะสมไขมันก็เป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ด้วยครับ โดย
จะเปลี่ยนฮอร์โมนชนิดอื่นให้กลายเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน ดังนั้นในคนอ้วนจะมี
ฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงกว่าคนที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ

มีการศึกษาว่าในผู้ที่อ้วนจะมีฮอร์โมนที่มีชื่อว่าเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิง
มากกว่า และในทางการแพทย์ทราบว่าถ้ามีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อ
การเกิดมะเร็งเต้านม

มีการศึกษาหนึ่งซึ่งตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ Journal of the National Cancer
Institute พบว่าปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของคนอ้วนมากกว่าคนที่ไม่อ้วน
มากถึง 50%-219% เลยทีเดียว

และตอนนี้เราทราบแล้วว่าความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิงวัยหมด
ประจำเดือนนั้นเพิ่มขึ้นตามดัชนีมวลกาย BMI และน้ำหนักตัว

และนอกจากนี้ยังพบว่าผู้หญิงที่อ้วนที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 ขึ้นไป มีฮอร์โมนเอส
โตรเจนในร่างกายสูงกว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติมากถึง 60%-219%
และยิ่งมีดัชนีมวลกายเพิ่มขึ้น 5 ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมอีก 18%

และแน่นอนครับการลดน้ำหนักตัวด้วยการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่าง
ถูกต้องจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมด้วยครับ

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

จากรายงานการวิจัยมีการศึกษาว่าผู้ที่มีดัชนีมวลกายมากกว่า 30 มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็น
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมากกว่าผู้ที่มีดัชนีมวลกายน้อยกว่า 25 ลงไปด้วยครับ


ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่ที่สร้างมาจากรังไข่และทำให้เกิดการหนาตัวของเยื่อ
บุโพรงมดลูกเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์

ในขณะที่ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ก็เป็นฮอร์โมนเพศที่สำคัญอีกตัวที่ทำให้เยื่อบุโพรง
มดลูกหนาตัว

โดยปกติฮอร์โมนนี้จะทำงานประสานและรักษาสมดุลซึ่งกันและกัน แต่ถ้ามีฮอร์โมน
ชนิดใดชนิดหนึ่งมากหรือน้อยเกินไปก็มีโอกาสเกิดโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้ด้วย
ครับ

ถ้าร่างกายมีการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจนในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้เพิ่มความ
เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งที่เยื่อบุโพรงมดลูกได้ด้วยครับ และยาฮอร์โมนทดแทนก็
สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งที่เยื่อบุโพรงมดลูกได้เช่นกัน

มะเร็งลำไส้ใหญ่

มีการศึกษาในผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 40-59 ปี พบว่าผู้ที่อ้วนจะมีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้
ใหญ่สูงกว่าผู้ที่น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ 2 เท่า และในผู้ชายก็พบว่ามีโอกาสเกิดมะเร็ง
ลำไส้ใหญ่สูงมากกว่าผู้ที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติมากถึง 40%

ในมะเร็งเต้านมเราพบว่าความอ้วนทำให้มีฮอร์โมนเพศมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนเพศที่มาก
ขึ้นนี้เองที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม แต่ ณ ปัจจุบัน เรายังไม่ทราบว่า
ทำไมคนที่อ้วนจึงมีโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงกว่าคนทั่วไปครับ
แต่มีอยู่อย่างหนึ่งครับ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายเกิดจากทั้งปัจจัยด้านพันธุกรรม
และสิ่งแวดล้อม และสลับซับซ้อนมากครับ และความอ้วนนั้นย่อมส่งผลต่อการเผา
ผลาญและฮอร์โมนอย่างแน่นอน

แม้ว่าเราไม่สามารถสรุปได้ ณ ตอนนี้ว่าความอ้วนทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างไร
หรืออาจเกิดจากอาหารที่ไม่มีใยอาหารและมีไขมันที่สูง ตอนนี้ก็กำลังมีงานวิจัยที่กำลัง
ศึกษาอยู่ครับว่า ความอ้วนทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างไร

มะเร็งลำไส้ใหญ่จะแปรตามกับพุงรอบเอวครับ ไม่ใช่ดัชนีมวลกาย ยิ่งมีรอบเอวที่มาก
ยิ่งมีความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงมากขึ้นครับ

ผลของความอ้วนอย่างหนึ่งก็คือ ภาวะดื้อต่ออินซุลิน ซึ่งทำให้ร่างกายต้องสร้าง
อินซูลินเพิ่มขึ้น (อ่านรายละเอียดต่อเรื่องเบาหวานครับ) จากการศึกษาที่ลงในนิตยสาร
ทางการแพทย์ Journal of the National Cancer Institute พบว่าผู้ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลินก็
ยิ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่มากขึ้นครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘