คำโกหกในอุตสาหกรรมลดน้ำหนัก

วันนี้ผมจะมาคุยเรื่องคำโกหกในอุตสาหกรรมลดน้ำหนักครับ
  • ลดน้ำหนัก 10-15 กิโลกรัมใน 1 เดือน
  • อาหารเสริม ช่วยดูดซับไขมันส่วนเกิน
  • สวมใส่นี่สิ นี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณผอม

ถ้าคุณได้เคยอ่านนิตยสาร หรือได้พบเห็นโฆษณาบนอินเตอร์เนต หรือ ดูรายการ
โทรทัศน์ คุณอาจจะได้พบเห็นสโลแกนดังกล่าวข้างต้นมาแล้วและพยายามให้คุณต้อง
ควักเงินในกระเป๋าสตางค์ของคุณออกมา นั่นเป็นเพราะว่าการลดน้ำหนัก คือแหล่งทำ
เงินและสร้างรายได้จำนวนมหาศาลครับ

ธุรกิจในอุตสาหกรรมลดน้ำหนักดูดเงินจากผู้บริโภคมากถึง 35 พันล้าน USD ในแต่ละ
ปีเลยทีเดียว

คำอวดอ้างที่พบได้บ่อย
ผมกำลังจะบอกว่า คำอวดอ้างสรรพคุณว่าช่วยในการลดน้ำหนักที่พบได้บ่อยๆ 5
อันดับนี้มีอะไรบ้างครับ

  • อาหารเสริมลดน้ำหนัก ซึ่งช่วยเร่งการเผาผลาญจากสมุนไพร หรือจากธรรมชาติ
  • อาหารเสริมลดน้ำหนัก ซึ่งยับยั้งการดูดซึมของไขมัน
  • ชาลดน้ำหนัก หรือ กาแฟลดน้ำหนัก
  • แผ่นแปะ เครื่องประดับ หรือแม่เหล็ก ซึ่งช่วยลดน้ำหนัก
  • ชุดรัดตัว

นั้นเป็นเพราะไม่มีใครครับที่เชื่อว่าคุณสามารถลดน้ำหนักได้เร็วกว่าที่จะอ้วน ความ
อ้วนอาจจะค่อยๆสะสมและอาจกินเวลานานสัก 2-3 ปี กว่าจะรู้สึกว่า "อ้าว ฉันอ้วนนี่"
แต่กลับพยายามที่จะลดน้ำหนักให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งผมว่ามันไม่สมเหตุสมผล

โดยปกติ แม้ว่าอาหารเสริมจะผ่าน อย. แต่การผ่านอย. นั้นมีความหมายแค่ว่าปลอดภัย
แต่ไม่ได้บอกว่ามีประสิทธิผลในการลดน้ำหนักหรือไม่ ดังนั้นการที่ผลิตภัณฑ์นั้นๆผ่าน
อย. ก็ไม่ได้หมายความว่าจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักครับ แต่เพียงแต่บอกว่ามันไม่มี
อันตรายเท่านั้น

และยิ่งเดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่มักจะมองหาวิธีการลดน้ำหนักด้วยวิธีการใหม่ๆอยู่เสมอ แต่
ทุกคนกลับลืมนึกถึงสิ่งสำคัญที่เป็นพื้นฐานของการลดน้ำหนัก นั่นคือการออกกำลัง
กายครับ หรือลืมนึกถึงผลกระทบข้างเคียงจากสารที่เป็นส่วนประกอบในการลด
น้ำหนักจนกว่าจะได้รับผลข้างเคียงเสียก่อน

และผลิตภัณฑ์ต่างๆเหล่านี้มักจะทำให้ผู้บริโภคเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์นั้นคือยาวิเศษ ที่ช่วย
ให้ลดน้ำหนักแต่บอกให้ครับ 0% ที่จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริงโดยปลอดภัย

1. สารซึ่งช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานนั้นมักจะมีส่วนประกอบที่เป็นสมุนไพร หรือ
สารจากธรรมชาติ

ซึ่งผู้ค้าอ้างว่าช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงาน และสมุนไพรชนิดใหม่ๆมักจะถูกหยิบยก
มาอ้างสรรพคุณอยู่เสมอ การผ่านอย. นั้นมีความหมายแค่ว่าในองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม
ว่าปลอดภัย แต่ถ้าเป็นสมุนไพรชนิดใหม่ ที่ไม่เคยถูกนำมาใช้มาก่อนก็จะไม่ทราบว่า
ปลอดภัยในระยะยาวหรือไม่

อย. ก็ไม่รู้เหมือนกัน และบ่อยครั้งที่จะถูกปล่อยให้ผ่านไปก่อน และแน่นอนครับ ผู้ผลิต
ก็ไม่เคยที่จะมานั่งศึกษาว่าเกิดอันตรายต่อผู้บริโภคหรือไม่

นั่นแปลว่าผู้บริโภคเกิดผลเสียก่อน แล้วจึงมาทำการศึกษาในภายหลัง และส่วนใหญ่ก็
ไม่มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักจริง บางส่วนมีอันตราย

เราไม่มีทางรู้หรอกครับว่า อาหารเสริมที่นำเข้าท้องตลาดมีส่วนประกอบใดที่เป็นอันต
ราย จนกว่าจะรู้ผลข้างเคียงก่อนซึ่งผลเสียก็ตกอยู่กับผู้บริโภคเรียบร้อยแล้ว อย. มีหน้า
ที่เพียงแค่ตรวจสอบว่ามีสารประกอบที่เป็นอันตราย (ที่รู้อยู่แล้ว) หรือไม่ แต่สารที่เป็น
สารชนิดใหม่ๆหรือสมุนไพรชนิดใหม่ๆก็จะไม่มีใครรู้หรอกครับว่าจะเกิดอันตราย

ผมยกตัวอย่างง่ายๆครับ ephedra และ kava (ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Piper methysticum
หรือ kava kava) ซึ่งนำมใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเสริมลดน้ำหนัก และได้รับอย.
ของสหรัฐนะครับในตอนแรก แต่เมื่อพบว่าเกิดผลข้างเคียงแล้วจึงค่อยเรียกเก็บคืน

ตอนนี้ ephedra ก็เป็นส่วนประกอบในสมุนไพรสำหรับลดน้ำหนักหลายๆชนิด และเป็น
ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% แต่ในปี 2004 ได้ถูกถอดออกจากตลาดเนื่องจากว่า
สารประกอบนี้มีส่วนใกล้เคียงกับ ยาบ้า ซึ่งทำให้เกิดความดันโลหิตสูง และหัวใจบีบ
ตัวไม่สม่ำเสมอ สั่น และชักถึงเสียชีวิตได้ครับ ส่วน kava ได้ถูกถอดออกจากตลาดไป
ตอนหลัง ทั้งที่ผ่าน อย.(ของสหรัฐ) ในตอนแรกเนื่องจากเป็นอันตรายต่อตับ

เหตุที่ในตอนแรกปล่อย ephedra เข้าสู่ตลาดก่อนนั่นเป็นเพราะตอนนั้นเรายังมีความรู้
เกี่ยวกับ ephredra น้อยมาก และยังไม่ทราบผลข้างเคียงครับ แต่ตอนหลังจึงได้ทราบ
และถอนออกจากตลาดไป (ซึ่งเกิดผลเสียขึ้นแล้ว)

2. อาหารเสริมอ้างว่าช่วยในการดูดซับไขมันจากอาหาร

มีอาหารเสริมบางกลุ่มที่อ้างว่าช่วนในการดูดซับไขมันจากอาหาร ผมยกตัวอย่างง่ายๆ
ครับ ไคโตซาน จะทำงานโดยใช้หลักการของประจุบวกและประจุลบ โดยตัวของไค
โตซานจะเป็นประจุบวก และจะดึงดูดสารที่เป็นประจุลบ เช่นไขมัน หรือน้ำมัน ถ้า
รับประทาน ไคโตซานพร้อมกับไขมัน ผู้บริโภคจะหวังว่า ไคโตซานจะช่วยดูดซับสาร
อาหารที่มีไขมันมากๆ และขับถ่ายออกก่อนที่ไขมันจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

แปลกนะครับ ไคโตซานถูกผลิตและจัดจำหน่ายเป็นเวลานานมาก หลายสิบปี แต่
กลับไม่ค่อยได้ยินเรื่องผลลัพธ์ว่าช่วยในการลดน้ำหนักได้เลยครับ

มีการวิจัยขนาดเล็กหลายๆชิ้นที่บ่งบอกว่าไคโตซานช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก
ในขณะที่การวิจัยระดับกลางจนไปถึงขนาดใหญ่กลับบอกว่าไคโตซานไม่ช่วยในเรื่อง
ของการลดน้ำหนัก

เนื่องจากไคโตซานจะทำหน้าที่ในการดักจับไขมันที่รับประทานก่อนที่จะถูกดูดซึมก็มี
ผลเสียเช่นกัน เช่น อาหารประเภทวิตามิน A วิตามิน D วิตามิน E วิตามิน K นั้นจำเป็น
ต้องใช้ไขมันในการทำละลายในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายครับ นั่นคือมีโอกาสที่จะ
ประสบกับภาวะขาดสารอาหารได้ครับ โดยเฉพาะวิตามิน E ลดระดับของวิตามินE
ในเลือด ในสัตว์พบว่ามีการเจริญเติบโตที่ช้าลง

และการที่ไคโตซานยับยั้งการดูดซึมไขมัน ก็จะยับยั้งการดูดซึมกรดไขมันจำเป็นด้วย
เช่นกัน ซึ่งกรดไขมันจำเป็นนั้นจะช่วยในเรื่องของการลดโคเลสเตอรอลชนิดเลว และ
เพิ่มโคเลสเตอรอลชนิดดี นอกจากนี้กรดไขมันจำเป็นยังมีส่วนสำคัญในการลดไขมัน
ส่วนเกินอีกด้วยครับ

นอกจากนี้ไคโตซานยังลดการดูดซึมของแร่ธาตุสำคัญด้วยครับ มีการทดลองพบว่า
สัตว์ทดลองเกิดภาวะกระดูกพรุนเมื่อให้ ไคโตซาน

แม้ว่าถ้าไคโตซานมีส่วนช่วยในเรื่องของการดักจับไขมันและลดน้ำหนักครับ แต่คง
ต้องคิดอีกที นั่นเป็นเพราะว่าลดการดูดซึมของแร่ธาตุและวิตามินบางชนิดไปด้วยซึ่ง
เป็นส่วนสำคัญในเรื่องของสุขภาพและการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติครับ แม้ว่า
จะมีส่วนช่วยลดระดับไขมันในเลือดก็ตามที

แต่โดยส่วนตัวของผมแล้วคิดว่ามีทางออกอย่างอื่นที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่านี้
ครับ และการใช้อาหารเสริมเป็นเพียงวิธีการที่เสียค่าใช้จ่ายสูงเท่านั้น

และสารอื่นๆซึ่งอ้างว่ามีสรรพคุณช่วยดูดซับไขมันนั้นก็ก่อผลเสียคล้ายๆกับไคโตซาน
นั่นแหละครับ

3. ชา หรือกาแฟที่อ้างสรรพคุณลดน้ำหนัก

ในการลดน้ำหนัก ไม่ใช่เพียงแค่ลดน้ำหนักนะครับ ร่างกายของเราประกอบด้วยส่วนที่
เป็นน้ำ มากถึง 70-80% กระดูก กล้ามเนื้อ และสุดท้ายไขมันครับ การลดน้ำหนักคุณ
ต้องลดส่วนที่เป็นไขมันเท่านั้น ไม่ใช่น้ำ ไม่ใช่กล้ามเนื้อ ไม่ใช่กระดูก

ชา หรือ กาแฟ มักมีส่วนประกอบของคาเฟอีน ช่วยเร่งการเผาผลาญได้เพียงเล็กน้อย
เท่านั้น ไม่พอครับที่จะบอกว่าช่วยลดน้ำหนัก แต่คาเฟอีนมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะครับ
ซึ่งจะทำให้คุณขับปัสสาวะและสูญเสียน้ำมากขึ้น

ผลิตภัณฑ์ใดๆที่อ้างว่าลดน้ำหนักได้เร็วๆ นั่นคือลดน้ำหนักของน้ำครับ และการลด
น้ำหนักของน้ำไม่ใช่การลดน้ำหนักที่แท้จริงครับ และเมื่อคุณดื่มน้ำ น้ำหนักก็จะ
กลับคืนมาดังเดิม

โดยส่วนใหญ่ชา หรือกาแฟ จะมีฤทธิ์กดความรู้สึกหิว ทำให้คุณไม่รู้สึกหิวครับ และที่
บอกว่าช่วยให้คุณลดน้ำหนักนั้น มักจะบอกให้คุณควบคุมการรับประทานอาหารด้วย
ครับ ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะลำพังแค่ชาหรือกาแฟ ไม่ช่วยให้คุณลดน้ำหนักอยู่แล้วครับ

4. แผ่นแปะ แม่แหล็ก แหวนลดน้ำหนัก

บางที่เขาเริ่มมีแผ่นแปะลดน้ำหนักแล้วนะครับ โดยอ้างว่ามียาซึ่งดูดซึมผ่านผิวหนัง
(เหมือนยาคุมกำเนิดแบบแปะผิวหนัง หรือ แผ่นแปะช่วยเลิกสูบบุหรี่นั่นแหละครับ ซึ่ง
จะมีตัวยาที่สามารถดูดซึมผ่านผิวหนัง) และส่วนประกอบของสารที่อ้างว่าเป็น
ส่วนประกอบของแผ่นแปะลดน้ำหนักก็จะเป็นสมุนไพรชนิดเดียวกันกับที่ใช้ในอาหาร
เสริมทั่วไป แต่ในความเป็นจริงอาหารเสริมสมุนไพรที่อ้างว่ามีสรรพคุณช่วยในการลด
น้ำหนัก 97% ไม่เคยพบว่ามีสรรพคุณดังกล่าวจริง

รวมไปถึงแม่เหล็ก หรือแหวน หรือตุ้มหูที่อ้างว่าแค่สวมใส่ก็สามารถลดน้ำหนักได้นั้น
ไม่จริงครับ นั่นคือการหลอกลวงผู้บริโภคครับ

5. อุปกรณ์รัดรูปร่าง

เอาล่ะครับ อุปกรณ์รัดรูปร่างมีการอ้างกันมานานหลาย 10 ปีแล้วครับว่าช่วยในการลด
ไขมันส่วนเกินได้ แต่นักวิจัยพบว่าที่ลดน้ำหนักได้เป็นเพราะน้ำหนักของน้ำที่สูญเสีย
ไปกับเหงื่อมากที่สุดครับ นั่นคือคุณไม่ได้ลดไขมัน แต่ลดน้ำหนักของน้ำต่างหาก แค่
ดื่มน้ำ น้ำหนักก็จะกลับคืนมาอีก

แค่รัดรูปร่างไม่ช่วยให้คุณผอมลงได้หรอกครับ การรัดรูปร่างแค่ทำให้คุณดูดีขึ้นใน
ขณะที่คุณสวมใส่เท่านั้น

ในการลดน้ำหนัก คุณต้องได้รับพลังงานจากอาหารน้อยกว่าพลังงานที่คุณใช้ในแต่ละ
วันครับ นั่นคือการรู้จักเลือกรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายครับ นั่นแหละที่
เป็นการลดไขมันส่วนเกินที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
แต่มีคำอวดอ้างโฆษณาให้เห็นอยู่บ่อยๆ

  • ไม่ต้องอดอาหาร ไม่ต้องออกกำลังกาย
  • ลดน้ำหนัก 10-15 กิโลกรัมใน 1 เดือน
  • รับประทานอาหารที่คุณชื่นชอบและยังลดน้ำหนักอยู่
  • การค้นพบวิธีการลดไขมันส่วนเกินแบบใหม่
  • ดูดซับไขมันส่วนเกิน
  • จากการวิจัยพบว่า....
  • นวัตกรรมใหม่ซึ่งช่วยให้ลดน้ำหนัก...
  • ผลิตภัณฑ์ได้รับรางวับโนเบล....

และสังเกตนะครับ คำโฆษณาเหล่านี้มักถูกใช้ซ้ำไปซ้ำมา...และเทคนิคเหล่านี้ก็มักถูก
ใช้ซ้ำไป ซ้ำมาด้วยครับ

  • การโฆษณาที่อวดอ้างเกินจริง...
  • คำนิยมจากนายแพทย์ หรือนักวิจัยชื่อดัง มาเล่าเรื่องราว...(เหมือนกับที่ผมใช้ให้
    หมอแมวมาเขียนคำนิยมหนังสือ "อ้วนศาสตร์"ให้ผมนั่นแหละครับ)
  • การใช้ภาพถ่าย ก่อน/ หลัง
  • การโฆษณาที่บอกว่าได้มีการค้นพบสิ่งใหม่ๆ

ตลกนะครับ เทคนิคต่างๆในการทำการตลาดอาหารเสริมนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ผู้
บริโภคก็ยังถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่ได้

คำแนะนำของผมนะครับ: เมื่อใดก็ตามที่คุณพบเห็น การโฆษณาดังกล่าว ให้คุณดู
โฆษณาเหล่านี้ด้วยครับว่าเขาอ้างว่าอย่างไรครับ และถ้ามันดูดีเกินไป นั่นคือการ
โฆษณาเกินจริงครับ

คิดง่ายๆครับว่า ถ้าคำอ้างในโฆษณานั้นเป็นจริงและเป็นประโยชน์ แล้ว...ทำไมไม่ถูก
นำมาใช้ในวงการแพทย์ครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘