รับประทานอาหารอย่างไรให้เสี่ยงอ้วนน้อยลง
มีการศึกษาชิ้นหนึ่งครับที่ศึกษาถึงพฤติกรรมการกินที่แตกต่างที่นำไปสู่โรคอ้วนในเด็ก โดย
การนำเด็กที่มีอายุระหว่าง 7-9 ปี และ 9-12 ปีมาศึกษาครับ
เด็กจะได้รับการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง หลังจากนั้นแบ่งออกเป็นกลุ่มน้ำหนักน้อย น้ำหนัก
ปกติ น้ำหนักเกิน และอ้วน แล้วประเมินพฤติกรรมการรัปบระททานอาหาร ด้วยวิธีการทำ
แบบสอบถามโดยเด็กและผู้ปกครอง
ผลปรากฎว่าการพฤติกรรมการเคี้ยวช้าๆ มีผลทำให้ให้เด็กมีโอกาสอ้วนน้อยลง ครับ ในขณะที่
น้ำอัดลม ขนมหวาน มีผลทำให้เด็กอ้วนมากขึ้นครับ
ผลจะบอกเหตุผลให้ครับ ในการรับประทานอาหาร กว่าคุณจะรู้สึกอิ่มจะต้องใช้เวลาครับ ส่วน
ใหญ่จะราวๆ 20-30 นาที ถ้าคุณรับประทานอาหารช้าๆ คุณรับประทาน 1 จาน คุณก็จะรู้สึกอิ่ม
พอดีได้ครับ
แต่ถ้าคุณรับประทานอาหารอาหารเร็ว กว่าคุณจะรู้สึกอิ่ม คุณก็รับประทานอาหารได้ 3 จาน เห็น
ความแตกต่างหรือยังครับ
ดังนั้นขณะที่คุณรับประทานอาหาร คุณต้องเคี้ยวช้าๆครับ คุณต้องให้เวลาครับในการที่จะนำ
สัญญาณ "อิ่ม" ขึ้นไปยังสมอง จะช่วยให้คุณสามารถลดแคลอรี่ลงได้ครับ
การนำเด็กที่มีอายุระหว่าง 7-9 ปี และ 9-12 ปีมาศึกษาครับ
เด็กจะได้รับการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง หลังจากนั้นแบ่งออกเป็นกลุ่มน้ำหนักน้อย น้ำหนัก
ปกติ น้ำหนักเกิน และอ้วน แล้วประเมินพฤติกรรมการรัปบระททานอาหาร ด้วยวิธีการทำ
แบบสอบถามโดยเด็กและผู้ปกครอง
ผลปรากฎว่าการพฤติกรรมการเคี้ยวช้าๆ มีผลทำให้ให้เด็กมีโอกาสอ้วนน้อยลง ครับ ในขณะที่
น้ำอัดลม ขนมหวาน มีผลทำให้เด็กอ้วนมากขึ้นครับ
ผลจะบอกเหตุผลให้ครับ ในการรับประทานอาหาร กว่าคุณจะรู้สึกอิ่มจะต้องใช้เวลาครับ ส่วน
ใหญ่จะราวๆ 20-30 นาที ถ้าคุณรับประทานอาหารช้าๆ คุณรับประทาน 1 จาน คุณก็จะรู้สึกอิ่ม
พอดีได้ครับ
แต่ถ้าคุณรับประทานอาหารอาหารเร็ว กว่าคุณจะรู้สึกอิ่ม คุณก็รับประทานอาหารได้ 3 จาน เห็น
ความแตกต่างหรือยังครับ
ดังนั้นขณะที่คุณรับประทานอาหาร คุณต้องเคี้ยวช้าๆครับ คุณต้องให้เวลาครับในการที่จะนำ
สัญญาณ "อิ่ม" ขึ้นไปยังสมอง จะช่วยให้คุณสามารถลดแคลอรี่ลงได้ครับ