วัฎจักรอาหารเสริมลดน้ำหนัก
สังเกตนะครับ บริษัทผู้ผลิตอาหารเสริมทั้งหมดมักจะบอกกับคุณว่า
ผลิตภัณฑ์ของตนเป็น "นวัตกรรมใหม่"
ความจริง : วัตถุดิบต่างๆก็มีอยู่ในอาหารเสริมส่วนใหญ่ แล้วก็ซ้ำไปซ้ำมา
เช่น กาแฟ +โครเมียม +แอลคาร์นิทีน ก็บอกว่า "นวัตกรรมใหม่"
กาแฟ + สารสกัดจากถั่วขาว + โครเมียม ก็บอกว่านวัตกรรมใหม่
สารสกัดจากถั่วขาว + โครเมียม + สารสกัดจากผลส้มแขก ก็บอกว่านวัตกรรมใหม่
กาแฟ + สารสกัดจากผลส้มแขก ก็บอกว่านวัตกรรมใหม่
ก็วนกันไปวันกันมาอยู่แค่นี้ล่ะครับ
ผลิตภัณฑ์ของตนเป็น "ผ่านองค์การอาหารและยา"
ความจริง :การผ่านอย. เป็นเพียงแค่รับรองในด้าน "ความปลอดภัย" ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่
ใช่ 100%
การผ่านอย. ไม่ได้หมายความว่าอาหารเสริมชนิดนั้น ได้ผล
ผลิตภัณฑ์ของตนเป็น "วิธีการลดความอ้วนที่ ได้ผล"และ อ้างสรรพคุณในส่วนประกอบนั้นว่า
ช่วยในการลดน้ำหนัก
ความจริง : อาหารเสริมนั้นไม่สามารถเป็นยาได้ครับ ถ้าจะบอกว่าเป็นยา ต้องให้สารที่ออกฤทธิ์
ในปริมาณที่สูงมากพอ ที่จะเห็นผลในการรักษาหรือบรรเทาโรคได้ครับ เช่น ยาแก้ปวด ยาลด
ไข้ ส่วนใหญ่แล้วถ้ารับประทานเข้าไป เกือบทั้งหมดไข้ต้องลง หรือบรรเทาอาการลงครับ
แต่ถ้าอยู่ในอาหารเสริม ผมเชื่อครับว่าปริมาณของส่วนประกอบต่างๆนั้นน้อยมากจนแทบจะไม่
มีผลในด้านการออกฤทธิ์เลยครับ เช่น
เช่น อาหารเสริมบอกว่า แอลคาร์นิทีน ช่วยเร่งการเผาผลาญและลดไขมัน
แอลคาร์นิทีน ในงานวิจัยต่างๆจะใช้ปริมาณที่สูงครับ เช่น 5-6 กรัม แม้จะใช้ในประมาณเท่านี้
แต่ก็ไม่เป็นที่ยืนยันถึงประสิทธิผล แต่กลับมีอยู่ 0.01.. กรัมในกาแฟลดน้ำหนักบางยี่ห้อ ไปดูได้
ครับ ถามว่ามันมากพอที่จะออกฤทธิ์อะไรซักอย่างหรือ ?
บางบริษัท ตรงส่วนประกอบไม่บอกด้วยซ้ำครับว่ามีส่วนประกอบแต่ละอย่างอยู่ปริมาณเท่าไหร่
เพื่อเป็นการปกปิดครับว่าส่วนประกอบแต่ละอย่างอยู่ในปริมาณที่น้อยมากๆครับ
อาหารเสริมในช่วงแรกที่วางตลาดจะบูมสุดๆครับ เพราะเป็นสินค้าใหม่ และอ้างว่าเป็น" นวัต
กรรมใหม่" ก็จะเริ่มมีผู้แห่กันเข้าไปทดลองซื้อมากัน ช่วงแรกอาหารเสริมเกือบทุกบริษัทครับ
ที่จะมีช่วงที่ขายดีสุดๆ หลังจากนั้นก็จะค่อยๆซาความนิยมลงไป แล้วก็จะมีอาหารเสริมลด
น้ำหนักใหม่ๆ ผลัดกันเข้าสู่ตลาด ถ้าใครสังเกตนะครับ และทุกที่อ้างว่าเป็นนวัตกรรมใหม่
กฎการแทนที่ของอาหารเสริม ที่บูมเป็นระยะๆ
แล้วผู้บริโภคก็จะถูกชักจูงให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าเป็นนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ แล้วเสียเงินซ้ำแล้ว
ซ้ำอีก
อย่าตกลงไปในวงจรนี้นะครับ
ถ้าคุณลองสังเกตดูนะครับ อาหารเสริมมักจะผลัดเปลี่ยนกันออกสู่ตลาด แล้วก็บูมได้ซักระยะ
หลังจากนั้นก็จะมีผลิตภัณฑ์จากอีกบริษัทหนึ่งเข้ามา นี่คือกฎการแทนที่ครับ
ทุกบริษัท อ้างว่า "เป็นนวัตกรรมใหม่"
ทุกบริษัท อ้างว่า "ได้ผลแน่นอน"
ทุกบริษัท อ้างว่า "ปลอดภัยแน่นอน"
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างถูกต้องเป็นสิ่งที่พึง
กระทำเสมอ ถ้าคุณแย้งข้อนี้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องใช้อาหารเสริมครับ
ผลิตภัณฑ์ของตนเป็น "นวัตกรรมใหม่"
ความจริง : วัตถุดิบต่างๆก็มีอยู่ในอาหารเสริมส่วนใหญ่ แล้วก็ซ้ำไปซ้ำมา
เช่น กาแฟ +โครเมียม +แอลคาร์นิทีน ก็บอกว่า "นวัตกรรมใหม่"
กาแฟ + สารสกัดจากถั่วขาว + โครเมียม ก็บอกว่านวัตกรรมใหม่
สารสกัดจากถั่วขาว + โครเมียม + สารสกัดจากผลส้มแขก ก็บอกว่านวัตกรรมใหม่
กาแฟ + สารสกัดจากผลส้มแขก ก็บอกว่านวัตกรรมใหม่
ก็วนกันไปวันกันมาอยู่แค่นี้ล่ะครับ
ผลิตภัณฑ์ของตนเป็น "ผ่านองค์การอาหารและยา"
ความจริง :การผ่านอย. เป็นเพียงแค่รับรองในด้าน "ความปลอดภัย" ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่
ใช่ 100%
การผ่านอย. ไม่ได้หมายความว่าอาหารเสริมชนิดนั้น ได้ผล
ผลิตภัณฑ์ของตนเป็น "วิธีการลดความอ้วนที่ ได้ผล"และ อ้างสรรพคุณในส่วนประกอบนั้นว่า
ช่วยในการลดน้ำหนัก
ความจริง : อาหารเสริมนั้นไม่สามารถเป็นยาได้ครับ ถ้าจะบอกว่าเป็นยา ต้องให้สารที่ออกฤทธิ์
ในปริมาณที่สูงมากพอ ที่จะเห็นผลในการรักษาหรือบรรเทาโรคได้ครับ เช่น ยาแก้ปวด ยาลด
ไข้ ส่วนใหญ่แล้วถ้ารับประทานเข้าไป เกือบทั้งหมดไข้ต้องลง หรือบรรเทาอาการลงครับ
แต่ถ้าอยู่ในอาหารเสริม ผมเชื่อครับว่าปริมาณของส่วนประกอบต่างๆนั้นน้อยมากจนแทบจะไม่
มีผลในด้านการออกฤทธิ์เลยครับ เช่น
เช่น อาหารเสริมบอกว่า แอลคาร์นิทีน ช่วยเร่งการเผาผลาญและลดไขมัน
แอลคาร์นิทีน ในงานวิจัยต่างๆจะใช้ปริมาณที่สูงครับ เช่น 5-6 กรัม แม้จะใช้ในประมาณเท่านี้
แต่ก็ไม่เป็นที่ยืนยันถึงประสิทธิผล แต่กลับมีอยู่ 0.01.. กรัมในกาแฟลดน้ำหนักบางยี่ห้อ ไปดูได้
ครับ ถามว่ามันมากพอที่จะออกฤทธิ์อะไรซักอย่างหรือ ?
บางบริษัท ตรงส่วนประกอบไม่บอกด้วยซ้ำครับว่ามีส่วนประกอบแต่ละอย่างอยู่ปริมาณเท่าไหร่
เพื่อเป็นการปกปิดครับว่าส่วนประกอบแต่ละอย่างอยู่ในปริมาณที่น้อยมากๆครับ
อาหารเสริมในช่วงแรกที่วางตลาดจะบูมสุดๆครับ เพราะเป็นสินค้าใหม่ และอ้างว่าเป็น" นวัต
กรรมใหม่" ก็จะเริ่มมีผู้แห่กันเข้าไปทดลองซื้อมากัน ช่วงแรกอาหารเสริมเกือบทุกบริษัทครับ
ที่จะมีช่วงที่ขายดีสุดๆ หลังจากนั้นก็จะค่อยๆซาความนิยมลงไป แล้วก็จะมีอาหารเสริมลด
น้ำหนักใหม่ๆ ผลัดกันเข้าสู่ตลาด ถ้าใครสังเกตนะครับ และทุกที่อ้างว่าเป็นนวัตกรรมใหม่
กฎการแทนที่ของอาหารเสริม ที่บูมเป็นระยะๆ
แล้วผู้บริโภคก็จะถูกชักจูงให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าเป็นนวัตกรรมใหม่อยู่เสมอ แล้วเสียเงินซ้ำแล้ว
ซ้ำอีก
อย่าตกลงไปในวงจรนี้นะครับ
- เสียเงินซื้ออาหารเสริมลดน้ำหนัก
- ซื้อใช้ยี่ห้อเดิมอีก 2-3 ครั้ง
- มียี่ห้อใหม่เข้ามา "นวัตกรรมใหม่"
- ลองยี่ห้อใหม่ดู (วนกลับข้อ 1 )
ถ้าคุณลองสังเกตดูนะครับ อาหารเสริมมักจะผลัดเปลี่ยนกันออกสู่ตลาด แล้วก็บูมได้ซักระยะ
หลังจากนั้นก็จะมีผลิตภัณฑ์จากอีกบริษัทหนึ่งเข้ามา นี่คือกฎการแทนที่ครับ
ทุกบริษัท อ้างว่า "เป็นนวัตกรรมใหม่"
ทุกบริษัท อ้างว่า "ได้ผลแน่นอน"
ทุกบริษัท อ้างว่า "ปลอดภัยแน่นอน"
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเลือกรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างถูกต้องเป็นสิ่งที่พึง
กระทำเสมอ ถ้าคุณแย้งข้อนี้ไม่ได้ ก็ไม่ต้องใช้อาหารเสริมครับ