ความลับของการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย
การเผาผลาญ เป็นกระบวนการที่ร่างกายเผาผลาญพลังงาน มีอยู่ 3 ส่วนครับ
ส่วนที่หนึ่งเป็นการเผาผลาญพื้นฐาน ร่างกายใช้พลังงานในการหายใจ ทำให้หัวใจบีบตัว
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย การนอนหลับ การใช้พลังงานในส่วนนี้คิดเป็น 60-70% ของ
พลังงานที่ใช้ในตลอดทั้งวันครับ
ด้วยเหตุที่ว่ากล้ามเนื้อเป็นเตาเผาผลาญพลังงานชั้นเยี่ยม ถ้ายิ่งมีกล้ามเนื้อมากการเผาผลาญ
พลังงานในส่วนนี้ก็จะยิ่งมากขึ้น
ในผู้หญิงจะมีสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อมากกว่าในผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงจะมีการเผา
ผลาญพลังงานน้อยกว่าประมาณ 10%โดยที่น้ำหนักตัวเท่ากัน การเผาผลาญพลังงาน
พื้นฐานจะค่อยๆลดลง 2-3 เปอร์เซนต์ในทุกๆ 10 ปี เนื่องจากการสูญเสียกล้ามเนื้อครับ
แต่ถ้าคุณออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อก็จะช่วยลดการสูญเสียกล้ามเนื้อได้ครับ การยกด
รัมเบลก็จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อและเร่งการเผาผลาญในส่วนนี้
การเผาผลาญพลังงานส่วนที่สองเรียกว่า การเผาผลาญพลังงานระหว่างการย่อยและการดูด
ซึมอาหาร ร่างกายของเราจะเผาผลาญพลังงานในระหว่างการย่อยและการดูดซึมด้วยครับ
สมมุติว่าคุณรับประทานอาหารในปริมาณ 100 กิโลแคลอรี่ อาจจะใช้ไปในระหว่างการ
ย่อยและการดูดซึมเสีย 10 กิโลแคลอรี่ เหลือสุทธิ 90 กิโลแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับ
โดยที่การเผาผลาญพลังงานระหว่างการย่อยและการดูดซึมอาหารจะน้อยที่สุดคือไขมัน
คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ตามลำดับ ไขมันนั้นมีแคลอรี่มาก แต่ร่างกายก็ใช้พลังงานใน
การย่อยและการดูดซึมน้อยเช่นกันครับ ทำให้ไขมันเป็นสารอาหารที่สะสมได้ง่ายที่สุด
ข่าวดีครับที่ถ้าคุณรับประทานอาหารถี่ๆ แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ จะช่วยเร่งการเผาผลาญตรงส่วน
นี้ให้มากขึ้นได้ครับ
การเผาผลาญพลังงานในส่วนที่สาม ก็คือกิจกรรมของเรา เป็นส่วนที่เราสามารถควบคุม
ได้มากที่สุด คุณสามารถเพิ่มการเผาผลาญให้มากขึ้นได้ด้วยการออกกำลังกาย เช่น วิ่ง
เหยาะๆ เป็นระยะเวลา 30 นาที-45 นาที เป็นต้นครับ หรือแทนที่จะนั่งอยู่เฉยๆบนเก้าอี้
ทำไมไม่ลองหาอะไรทำดูล่ะครับ อย่างน้อยก็เพิ่มการเผาผลาญให้มากขึ้นได้ แม้แต่การนั่ง
เขย่าขา ก็เพิ่มการเผาผลาญได้ 70 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมงแล้วล่ะครับ
ส่วนที่หนึ่งเป็นการเผาผลาญพื้นฐาน ร่างกายใช้พลังงานในการหายใจ ทำให้หัวใจบีบตัว
ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย การนอนหลับ การใช้พลังงานในส่วนนี้คิดเป็น 60-70% ของ
พลังงานที่ใช้ในตลอดทั้งวันครับ
ด้วยเหตุที่ว่ากล้ามเนื้อเป็นเตาเผาผลาญพลังงานชั้นเยี่ยม ถ้ายิ่งมีกล้ามเนื้อมากการเผาผลาญ
พลังงานในส่วนนี้ก็จะยิ่งมากขึ้น
ในผู้หญิงจะมีสัดส่วนของไขมันต่อกล้ามเนื้อมากกว่าในผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงจะมีการเผา
ผลาญพลังงานน้อยกว่าประมาณ 10%โดยที่น้ำหนักตัวเท่ากัน การเผาผลาญพลังงาน
พื้นฐานจะค่อยๆลดลง 2-3 เปอร์เซนต์ในทุกๆ 10 ปี เนื่องจากการสูญเสียกล้ามเนื้อครับ
แต่ถ้าคุณออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อก็จะช่วยลดการสูญเสียกล้ามเนื้อได้ครับ การยกด
รัมเบลก็จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อและเร่งการเผาผลาญในส่วนนี้
การเผาผลาญพลังงานส่วนที่สองเรียกว่า การเผาผลาญพลังงานระหว่างการย่อยและการดูด
ซึมอาหาร ร่างกายของเราจะเผาผลาญพลังงานในระหว่างการย่อยและการดูดซึมด้วยครับ
สมมุติว่าคุณรับประทานอาหารในปริมาณ 100 กิโลแคลอรี่ อาจจะใช้ไปในระหว่างการ
ย่อยและการดูดซึมเสีย 10 กิโลแคลอรี่ เหลือสุทธิ 90 กิโลแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับ
โดยที่การเผาผลาญพลังงานระหว่างการย่อยและการดูดซึมอาหารจะน้อยที่สุดคือไขมัน
คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ตามลำดับ ไขมันนั้นมีแคลอรี่มาก แต่ร่างกายก็ใช้พลังงานใน
การย่อยและการดูดซึมน้อยเช่นกันครับ ทำให้ไขมันเป็นสารอาหารที่สะสมได้ง่ายที่สุด
ข่าวดีครับที่ถ้าคุณรับประทานอาหารถี่ๆ แบ่งเป็นมื้อเล็กๆ จะช่วยเร่งการเผาผลาญตรงส่วน
นี้ให้มากขึ้นได้ครับ
การเผาผลาญพลังงานในส่วนที่สาม ก็คือกิจกรรมของเรา เป็นส่วนที่เราสามารถควบคุม
ได้มากที่สุด คุณสามารถเพิ่มการเผาผลาญให้มากขึ้นได้ด้วยการออกกำลังกาย เช่น วิ่ง
เหยาะๆ เป็นระยะเวลา 30 นาที-45 นาที เป็นต้นครับ หรือแทนที่จะนั่งอยู่เฉยๆบนเก้าอี้
ทำไมไม่ลองหาอะไรทำดูล่ะครับ อย่างน้อยก็เพิ่มการเผาผลาญให้มากขึ้นได้ แม้แต่การนั่ง
เขย่าขา ก็เพิ่มการเผาผลาญได้ 70 กิโลแคลอรี่ต่อชั่วโมงแล้วล่ะครับ