สนุกกับการแปลงเพลงจากแผ่นซีดีในรูปแบบ WMA
"..ในปัจจุบัน เครื่องเล่นเพลงแบบพกพาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้ความต้องการในการแปลงไฟล์เพลงมีมากขึ้นด้วย หลายๆคนอาจจะเริ่มรู้จักไฟล์แบบ MP3 กันมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีรูปแบบไฟล์อีกมาตรฐานหนึ่งคือ WMA.."
รู้จักกับไฟล์ในรูปแบบ WMA
ไฟล์ในรูปแบบ WMA เป็นอีกมาตรฐานหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาจาก Microsoft เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่และกำหนดมาตรฐานของลิขสิทธิ์เพลง โดยใช้ชื่อรูปแบบลิขสิทธิ์ว่า Window Media Audio หรือเรียกเป็นนามสกุลไฟล์ว่า “WMA” นั่นเอง โดยข้อดีคือไฟล์ในรูปแบบ WMA คือเป็นการบีบอัดไฟล์เสียงหรือเพลงเช่นเดียวกับไฟล์ในรูปแบบ MP3 แต่จะมีขนาดไฟล์ที่เล็กกว่าไฟล์ MP3 ถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าในการบีบอัดไฟล์ด้วย) ทำให้เป็นประโยชน์ในการฟังเพลงจากเครื่องเล่นที่มีหน่วยความจำในตัว และไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ เช่น เครื่องเล่นเพลงแบบพกพาขนาดความจุ 128 MB บรรจุเพลงได้ประมาณ 32 เพลง (ประมาณเพลงละ 4 MB) แต่อาจบรรจุเพลงในรูปแบบ WMA ได้ประมาณ 40 - 64 เพลงเลยทีเดียว (ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าการบีบอัดไฟล์ด้วยเช่นกัน
หากคุณต้องการนำเพลงจากแผ่นซีดีแบบ AUDIO (ที่เล่นจากเครื่องเล่นซีดีทั่วๆไป) แปลงมาเป็นไฟล์แบบ WMA ซึ่งในปัจจบันเครื่องเล่นเพลงส่วนใหญ่จะรองรับไฟล์ MP3 และ WMA และ WAV ด้วยอยู่แล้ว นอกจากนี้คุณยังสามารถรับฟังเพลงในรูปแบบ WMA ได้จากโปรแกรม Windows Media Player อีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถฟังเพลงในรูปแบบ WMA ได้ เราจะพาคุณมาแปลงไฟล์จากแผ่นซีดีไปเป็นรูปแบบ WMA กัน
ขั้นตอนในการแปลงไฟล์
แปลงโฉมเพลงในแผ่นซีดีให้กลายเป็นไฟล์ในรูปแบบ WMA ในพริบตา
Autorun จะแสดงตัวเลือก ให้เลือกตัวเลือก Rip music from CD Using Windows Media Player
เริ่มแรกให้คุณใส่แผ่นซีดีลงในไดร์วซีดีรอม
คอมพิวเตอร์จะแสดงหน้าจอตัวเลือก คุณสามารถเลือกเมนู “Rip music from CD” using Windows Media Player (ขอแนะนำให้คุณใช้ Windows Media Player รุ่น 9 หรือ 10)
ตรวจสอบรุ่นของ Windows Media Player (เข้าเมนู Help - About)
โดยในครั้งแรกที่ใส่แผ่น จะมีหน้าจอให้เลือกการตั้งค่า ให้คุณเลือกตัวเลือกแรกคือ “Change my current format setting”
เลือตัวเลือก Change my current format setting
จะพบหน้าจอ Rip Option โดยจะมีการแสดงเมนูการตั้งค่า 2 ส่วนคือ
เลือกตำแหน่งแฟ้มจัดเก็บเพลง
Rip music to this location
ในส่วนนี้จะเป็นการกำหนดแฟ้มที่บันทึกเพลงที่คุณแปลงเรียบร้อยแล้ว
ตั้งค่าการบีบอัดไฟล์เพลง
Rip settings
ในส่วนของ Rip settings จะมีแถบ Scroll Box ให้เลือกรูปแบบไฟล์ที่ต้องการ โดยจะมีการแจ้งขนาดของไฟล์ทั้งหมดที่ใช้ ในมีแถบให้เลื่อนกำหนดค่าการบีบอัด (Bit Rate) หากมีค่า Bit Rate สูง (หน่วยเป็น Kbps) จะมีคุณภาพเสียงที่สูง แต่จะใช้ขนาดเนื้อที่ในการจัดเก็บมากขึ้นตามไปด้วย
โดยมีรูปแบบการบีบอัดไฟล์ 3 รูปแบบดังนี้
Windows Media Audio
Windows Media Audio (variable bit rate)
Windows Media Audio Lossless
ซึ่งในแต่ละรูปแบบจะมีคุณภาพในการบีบอัดต่างกัน ทำให้ใช้เนื้อที่ในการจัดเก็บต่างกันด้วย
สำหรับตัวเลือกอื่นๆจะมีดังนี้
Copy pretect music
เมื่อคุณแปลงเพลงแล้ว ระบบจะทำการป้องกันลิขสิทธิ์ให้กับเพลงที่คุณแปลง ทำให้ไม่สามารถคัดลอกไปใช้ในเครื่องเล่นอื่นๆได้ เนื่องจากได้รับการป้องกันลิขสิทธิ์ไว้แล้วนั่นเอง โดยให้ติกออกเพื่อยกเลิกการป้องกันลิขสิทธิ์ (ผมไม่แนะนำให้ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ เพียงแต่เสนอแนวทางสำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิงภายในบ้านหรือในหมู่ เพื่อนฝูงเท่านั้น ไม่สนับสนุนการแปลงเพลงเพื่อจัดจำหน่าย)
Rip CD when inserted
ตัวเลือกนี้จะทำการแปลงไฟล์ด้วยค่าที่คุณตั้งไว้ทันทีที่คุณใส่แผ่นซีดีแบบ Audio
Eject CD when ripping is complete
เมื่อแปลงไฟล์เสร็จ คอมพิวเตอร์จะดีดแผ่นออกมาโดยอัตโนมัติ
เมื่อเลือกตัวเลือกเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม Apply จากนั้นกดปุ่ม OK
จากนั้นจะมีหน้าจอแสดงรายการเพลงทั้งหมดในแผ่นซีดี โปรแกรม Windows Media Player จะเริ่มทำการแปลงไฟล์ในเมนู Rip โดยแปลงไฟล์ทั้งหมดที่เลือกเครื่องหมายถูก ในแฟ้มที่คุณตั้งไว้ โดยจะแสดงตำแหน่งแฟ้มด้านล่าง (หากไม่เริ่มอัตโนมัติ ให้กดปุ่ม Rip Music ทางด้านขวาบนของหน้าจอ)
กำลังแปลงเพลง
สำหรับการแปลงไฟล์แผ่นซีดีหนึ่งแผ่นจะใช้เวลาในการแปลงประมาณ 5 นาทีต่อแผ่น (ขึ้นอยู่กับจำนวนเพลงและความเร็วของคอมพิวเตอร์ของคุณด้วย)
คำเตือน ในขณะที่แปลงไฟล์ห้ามใช้งานโปรแกรมอื่นใด เนื่องจากอาจทำให้เพลงกระตุกหรือสะดุดได้ ซึ่งในขณะแปลงเพลง คอมพิวเตอร์จะใช้ซีพียูในการประมวลผลค่อนข้างมาก
เสร็จสิ้นการแปลงไฟล์เพลงที่เลือกไว้
เมื่อแปลงไฟล์เรียบร้อยแล้ว จะแสดงหน้าต่างสถานะ Ripping to library บนไฟล์ที่เลือกไว้
ตำแหน่งแฟ้มที่จัดเก็บเพลงที่ได้แปลงและบีบอัดไฟล์แล้ว
คุณสามารถฟังเพลงได้จากแฟ้มที่กำหนดไว้ในตอนแรก โดยจะมีรูปแบบการบีบอัดไฟล์แบบเดียวกับที่คุณได้กำหนดไว้แล้ว
เท่านี้ก็ได้เพลงในรูปแบบ WMA เพื่อใช้ฟังในเครื่องเล่นเพลงต่างๆได้จำนวนเพลงมากขึ้นกว่าเพลงในรูปแบบ MP3 หรือรับฟังจากโปรแกรม Windows Media Player จากคอมพิวเตอร์ได้