| ใส่ CD แผ่นที่ 1 ใน CDROM Drive แล้วเปิดเครื่อง (เราต้อง set CMOS ให้เครื่อง boot จาก CDROM) เมื่อขึ้น boot:_ ให้กดปุ่ม ผ่านไป |
| เมื่อขึ้น openna Login: ให้กดปุ่ม Enter ผ่านไป จากนั้นให้พิมพ์ คำว่า setup แล้วกดปุ่ม Enter |
| จะถามเพื่อแน่ใจว่า OpenNA CD อยู่ใน CD-ROM Drive: (แปลก!! ไม่น่าถาม) |
| เครื่องพบว่า OpenNA Linux CD อยู่ใน CD-ROM Drive: |
| จอภาพนี้ให้เราเลือก Keyboard ที่ใช้ |
| จอภาพนี้ให้เราเลือก time Zone ผมเลือก Asia Bangkok |
| จอ ภาพนี้ให้เราเลือกว่าเรา จะให้เครื่องแบ่ง Partition ให้เรา (ตอบ NO) หรือว่า เราจะแบ่งเอง (ตอบ YES) ผมแนะนำว่า เริ่มแรกให้โปรแกรมแบ่งให้ก่อน แล้วเรา ค่อย df มาเพื่อศึกษาว่า แต่ละแบบของ Server ที่ลง โปรแกรม แบ่ง partition อย่างไร |
| จอ ภาพนี้ให้เราเลือกของ Server ที่ต้องการลง ในที่นี้เราจะเลือกลงแบบ HTTP Server ถ้าเราไม่เลือกอะไรเลย จะเป็นการลงแบบ Mininum เช่นเดียวกับ RedHat 7.3 ที่ผมลง คือลงแบบ ไม่เลือก อะไรเลย แล้วค่อยมาทะยอยลงทีละตัว |
| จอภาพนี้ให้เราเลือก Drive ที่ต้องการลง |
| โปรแกรมจะเตือนว่า HardDisk ทั้งก้อนจะถูก format เพื่อลงระบบ ให้ตอบ Yes หรือ No |
| โปรแกรม จะทำการแบ่ง partition ให้เราตามชนิดของ Server ที่เรา เลือก |
| เครื่องจะทำการ format swap partition |
| จากนั้นจะเริ่ม format ตั้งแต่ partition แรก |
| จนกระทั่ง partition สุดท้าย ซึ่ง Filesystem type จะเป็นแบบ Reiserfs ทั้งหมด |
| เราต้องการที่จะติดตั้ง Manual ของโปรแกรมต่างๆที่ลงหรือไม่ ผู้ เขียนว่า ถ้าเราลงเพื่อศึกษาให้ตอบ Yes แต่ถ้าจะให้งานจริง ให้ตอบ No ในที่นี้ก็คือการใช้คำสั่ง man นั่นเอง ถ้าเราไม่ลง ผู้ที่เข้ามาก็ ไม่ สามารถที่จะอ่านขอความช่วยเหลือต่างๆได้ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย ของระบบนั่นเอง |
| โปรแกรมก็จะทะยอยลง Package ต่างที่ใช้สำหรับ Server ที่เราเลือกลงไป |
| จอภาพนี้ให้เราใส่ Host+Domain Name ลงไป |
| จอภาพนี้ให้เราเลือกว่า IP จะได้จาก DHCP (ตอบ Yes)หรือว่าจะ กำหนดเอง (ตอบ No) ซึ่งผู้เขียนเลือก กำหนดเอง |
| จาก นั้นเราก็ใส่ IP ลงไป ในที่นี้ผมใช้ 10.13.101.5 เป็น Private IP นะครับ เพราะว่า ทางมหาลัย จะ map เป็น Public IP อีกครั้งหนึ่ง ทั้ง นี้เพื่อความปลอดภัย |
| ใส่ Netmask ในที่นี้ผมใช้ 255.255.255.0 |
| ใส่ค่า Boardcast ลงไป ในที่นี้ผมใส่ 10.13.101.255 |
| ใส่ค่า Network ลงไป ในที่นี้ผมใส่ 10.13.101.0 |
| ใส่ค่า Gateway ลงไป ในที่นี้ผมใส่ 10.13.101.254 |
| ใส่ค่า Primary NameServer ลงไป ในที่นี้ผมใส่ 202.28.162.1 |
| ใส่ค่า Secondary NameServer ลงไป ในที่นี้ผมใส่ 202.28.162.2 |
| จอภาพนี้ให้เราเลือกใส่การ Search ผมใส่ ns1.ph.mahidol.ac.th ph.mahidol.ac.th mahidol.ac.th |
| จอภาพนี้ให้เราใส่ Grub (BootLoader) password ลงไป |
| จอภาพนี้ให้เราใส่ Grub (BootLoader) password ลงไปอีกครั้งเพื่อยืนยัน |
| แสดงว่า grub password ได้สร้างเป็นที่เรียบร้อย |
| จอภาพนี้ให้เราใส่ Root password ลงไป |
| จอภาพนี้ให้เราใส่ Root password ลงไปอีกครั้งเพื่อเป็นการยืนยัน |
| แสดงว่า root password ได้สร้างเป็นที่เรียบร้อย |
| ให้ใส่ email ของผู้ดูแลเครื่อง |
| โปรแกรมจะถามว่าเราจะลง MySQL หรือไม่ หรือว่าเรามี DataBase Server อีกตัวในที่นี้ผมเลือกลงใน Server ตัวนี้เลย เพื่อจะเอามาใช้ งานในเรื่องของ กระดานข่าว |
| โปรแกรม จะถามว่าเราจะลง FTP หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อใช้ในการ Upload เวบของเรานั่นเอง (ผู้เขียนคิดว่าไม่จำเป็น ถ้าเราสามารถที่จะ Remote เข้ามาทาง port 22 ในการ Upload โดยใช้ WinSCP จะ สะดวกกว่า คือเราไม่ใช้ port สำหรับการ FTP นั่นเอง) |
| จอภาพนี้ถามเราว่าเป็นเครื่อง LapTop หรือไม่ ( งงไม่ครับที่ถาม เพราะว่า ทหารในสนามรบเค้าใช้ Laptop Computer เป็น Server นะครับ) |
| จอภาพนี้ถามว่าเราจะลง Firewall หรือไม่ ในที่นี้ก็คือ Giptables นั่น เอง เป็นการจัดการ iptables ด้วยคำสั่งแบบง่ายๆ สะดวกสำหรับเราที่ ไม่ค่อยสันทัดเรื่อง iptables |
| การติดตั้งก็เป็นอันเรียบร้อย เมื่อกดปุ่ม Enter เครื่องจะดีด CD ออก มาแล้วก็ boot เครื่อง |
| เมื่อ เครื่อง Reboot ขึ้นมา ก็จะเข้าสู่การเลือก OS ในที่นี้มี OS เดียว ก็กดปุ่ม Enter ผ่านไป หรือ ทิ้งระยะซักครู่ เครื่องก็จะทำงาน |
| ก่อนที่จะทำงาน เครื่องจะถาม password ของระบบ เพื่อป้องการ การสั่ง reboot จากที่อื่นหมายถึง OpenNA จะให้ boot ได้เฉพาะหน้าเครื่อง แต่ก็มีวิธีแก้ให้ remote มา reboot ได้ |
| เครื่องก็จะทำการ boot ระบบ รอซักครู่ เพื่อให้เรา login |
| เมื่อเครื่องขึ้นให้เรา Login เราก็ login เป็น root แล้วใส่ password ก็จะเข้า shell prompt พร้อมที่จะ Config แฟ้มต่างๆ ที่จำเป็น การ Config คล้ายๆกับรายละเอียดที่ผู้เขียนได้เขียนเรื่องการ Config เรื่องต่างๆ ในเวบนี้ |