โรคจากคอมพิวเตอร์

บทความนี้อาจดูไม่ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แต่จริงๆแล้วมันอยู่กับคุณตลอดเวลา เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลานั้น ดังนั้นประโยชน์จากบทความนี้คือช่วยให้รู้ทันโรคสำหร ับนักคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ

โรคจากคอมพิวเตอร์
เรื่องใหญ่ที่ใครๆก็มองไม่เห็น

Click the image to open in full size.

ยุค สมัยเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามา ปัจจุบันการทำงาน หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติสำ หรับผู้คนยุคสมัยนี้ ถึงแม้จะให้คุณประโยชน์มหาศาลแต่คุณรู้ไหมว่าคอมพิวเ ตอร์ ก็มีโทษเหมือนกัน... ประมาณช่วงกลางปีที่แล้ว เรื่องที่ทำให้ตกใจกันทั่วคือ นักวิจัยชาวอังกฤษได้ทำการศึกษาและพบว่าคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์นั้น เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียอันตรายมากกว่าโถสุขภัณฑ์ถ ึง 5 เท่า!! (สรุปว่า Keyboard สกปรกกว่าโถส้วมซะอีก) และทำให้ผู้ใช้ท้องเสียโดยไม่รู้ตัว ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอีกหลายโรคที่เกิดเพราะคอมพิวเ ตอร์ นั้นก็คือคือ

Click the image to open in full size.

Qwerty Tummy
ท้องร่วงเพราะคีย์บอร์ด

โรค ที่ตั้งชื่อตามตัวอักษรชุดแรกบนแป้นคีย์บอร์ดว่า Qwerty Tummy อาจระบาดในที่ทำงานได้ หากว่าแป้นคีย์บอร์ดมีแบคทีเรียซึ่งเป็นต้นเหตุของโร คอาหารเป็นพิษและผู้ใช้ รับประทานอาหารไปพร้อมกับใช้งานคีย์บอร์ดเครื่องคอมพ์ด้วยการศึกษาครั้งนี้ แสดงว่าคีย์บอร์ดเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียที่น่ากลัว ด้วยคนทำงาน 1 ใน 10 ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ด และ 20% ไม่เคยทำความสะอาดเมาส์ ขณะที่ 50% ไม่เคยทำความสะอาดคีย์บอร์ดภายในเวลาหนึ่งเดือน นอกจากนี้ด้วยรูปแบบการทำงานสมัยใหม่ ที่พนักงานต้องย้ายโต๊ะทำงานไปเรื่อยๆทำให้พวกเขาไม่ มีทางรู้ว่า ใครใช้คีย์บอร์ดที่กำลังใช้อยู่และใช้งานอย่างไรบ้าง

พอมีทางรักษาไหมครับหมอ ?

ทางแก้ไขคือ ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ควรทำความสะอาด คีย์บอร์ดเป็นประจำเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อ แบคทีเรีย วิธีการคือทำความสะอาดด้วยผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำหมาดๆ ที่สำคัญคืออย่าลืมถอดปลั๊กคอมพิวเตอร์ก่อน ไม่งั้นจะหายว่าไม่เตือน

ถ้าคุณสงสัยว่าทำไมต้องชื่อ Qwerty Tummy ละก็ ... อาจารย์เนาจะเล่าให้ฟัง (มาจากชุมทางเสียงทอง)
Qwerty = ตัวอักษรแถวที่ 3 ข้างๆ Tab เป็นชื่อมาตรฐานของ Keyboard ในปัจจุบัน
Tummy = แปลว่าพุง ใช้ไม่เป็นทางการ (Syn. stomach)

Click the image to open in full size.

สกปรกขนาดนี้ยังทนให้ อยากจะซื้อให้ใหม่จริงๆ

คอมพิวเตอร์ จะไม่เป็นอันตรายหากว่าคุณไม่ใช้มันจนติด เป็นนิสัย ซึ่งหมายความว่านั่งจมจ่อมอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร ์เกือบจะตลอดวันและทุกวัน คนที่ใช้คอมพิวเตอร์บ้างเป็นบางครั้งคราวย่อมไม่ได้เ จ็บป่วยเพราะ คอมพิวเตอร์แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละคนก็จะได้รับผลกระทบจากเครื่องใช้ไฮเทคนี้มากหร ือน้อยช้าหรือเร็ว ไม่เหมือนกัน หลายๆ อาการเจ็บป่วยจากคอมพิวเตอร์นั้นอาจจะเป็นสิ่งที่เรา รู้กันดี แต่บางครั้งก็หลงลืม ลองดูผลกระทบจากการใช้คอมพิวเตอร์กันต่อครับ

Click the image to open in full size.

ปวดตา เพราะ การใช้คอมพิวเตอร์ทำให้ตาต้องจ้องจอสว่างๆจึงเป็นสาเ หตุให้เกิดปัญหาเรื่อง สุขภาพสายตา จึงควรระวังแสงที่จะส่องตรงมาโดยเฉพาะแสงจากด้านหลัง ของจอคอมพิวเตอร์ ควรให้แสงเข้ามาด้านข้าง (ด้านขวาก็จะดี)ถ้าเป็นไปได้ให้ติดแผ่นป้องกันรังสี รวมทั้งปรับความสว่างของจอให้เหมาะสมกับดวงตาการอยู่ หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็น เวลานาน ไม่เพียงทำให้เกิดอาการปวดตาเท่านั้นแต่อาจเป็นสาเหต ุของโรคต้อหินในอนาคต ด้วย โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่สายตาสั้น นอกจากนี้จอคอมพิวเตอร์ที่สั่นไหว หรือเป็นคลื่นนั้นควรจะยกไปซ่อมซะควรละสายตาจากจอบ้า งเป็นครั้งเป็นคราว กะพริบตาเป็นระยะเพราะดวงตาของคุณต้องการความชุ่มชื้ น

Click the image to open in full size.

โรคเส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับ ปรับระดับความสูงของเก้าอี้หรือโต๊ะที่วางคอมพิวเตอร ์ เพื่อให้ข้อศอกอยู่ในมุม 90 - 100 องศา วางคีย์บอร์ดให้เหมาะเวลาใช้คีย์บอร์ดจะได้ไม่ต้องงอ มือให้อยู่ในท่าที่ไม่ สะดวกสบายควรวางข้อมือบนโต๊ะหน้าคีย์บอร์ด ถ้าหากจำเป็นควรพิมพ์คีย์บอร์ดและใช้เมาส์อย่างเบามื อ ถ้ามีเวลาก็ออกกำลังกายข้อมือและนิ้วบ้างหากสามารถทำ งานด้วยวิธีการอื่นโดย ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะและทำซะ

Click the image to open in full size.

ปวดคอและหลัง สำรวจ ท่านั่งเวลาทำงานของตัวเองควรนั่งตัวตรง ห่างจากจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 18 - 24 นิ้ว เก้าอี้ที่ดีควรจะมีล้อสามารถปรับพนักพิงได้ และต้องมีที่วางแขนโต๊ะควรจะมีพื้นที่ว่างสำหรับวางเ ครื่องมืออื่นๆ ในการทำงาน

Click the image to open in full size.

อันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และหลอดภาพของจอคอมพิวเตอร์เมื่อเราเปิดเครื่องใช้ก็ จะมีรังสีแผ่ออกมา จึงไม่ควรนั่งใกล้จอเกินไปโดยเฉพาะเวลาใช้แล็ปท็อปซึ ่งทำให้เราต้องนั่งใกล้ เครื่องมากกว่าพีซีถ้าเป็นไปได้ให้ใช้แผ่นป้องกันรัง สีหรือเลือกใช้จอ คอมพิวเตอร์ที่ไม่แผ่พลังรังสีไฟฟ้าออกมา แม้ราคาจะแพงกว่าแต่ปลอดภัยกว่า หากไม่ใช้เครื่องก็ควรปิด โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ในห้องนอน (โดยเฉพาะจอ CRT โบราณยิ่งต้องระวัง)

ต่อไป โรคที่น่าจะเป็นกันมาก เพราะเล่นเกมอยู่ไม่กินข้าว ทุกครั้งที่แม่เรียกกินข้าว จะต้องบอกขอเวลาเดี๋ยวน ผมก็เป็นครับ ก็ทำไงได้ ยังไม่ได้ Save เลย เดี๋ยวต้องเล่นใหม่ ...

Click the image to open in full size.

โรคกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารหมายถึงภาวะที่มีแผลเยื่อบุกระเพาะแล ะลำไส้ถูกทำลายถึงแม้ ว่าจะเรียกว่าโรคกระเพาะ แต่สามารถเป็นได้ทั้งที่กระเพาะและลำไส้ ว่าถ้าเป็นเฉพาะเยื่อบุกระเพาะเรียก gastritis แต่ถ้าเป็นแผลถึงชั้นลึก muscularis mucosa เรียก ulcer ถ้าแผลอยู่ที่กระเพาะเรียก gastric ulcer ถ้าแผลอยู่ที่ลำไส้เล็กเรียก duodenal ulcer โรคกระเพาะพบได้ทุกวัย

สาเหตุของโรคกระเพาะอาหาร มีมากมายแต่เชื่อกันว่าสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากมีกรดใน กระเพาะอาหารมาก และเยื่อบุกระเพาะอาหารอ่อนแอลง

1. เชื่อโรค Helicobacter pylori เป็นเชื้อรูปแท่งติดสีน้ำเงิน มีความสามรถอยู่ในสภาวะกรดได้ดี
2. สาเหตุที่กระเพาะอาหารมีกรดมากขึ้น เกิดขึ้นเนื่องจากสิ่งต่อไปนี้กระตุ้นให้กรดหลั่งมาก
* กระตุ้นของปลายประสาท เกิดจากความเครียด วิตกกังวลและอารมณ์
* การดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบียร์ ยาดอง
* ชา กาแฟ และน้ำดื่มที่มี Caffeine จะทำให้กรดหลั่งออกมามาก
* การสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่ทำให้เกิดการหลั่งกรดออกมามาก
* การกินอาหารไม่เป็นเวลา
* ภาวะที่มีกรดหลั่งออกมามาก เช่นโรค Zollinger-Ellisson syndrome กรดที่หลั่งออกมามากจะทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารทำให้ เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
3. มีการทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหาร เกิดจาก
* การกินยาแก้ปวด ลดไข้ แก้ปวดกระดูก ปวดกล้ามเนื้อ ยาชุดที่มีแอสไพริน และยาสเตียรอยด์ ยาลูกกลอนต่างๆโดยเฉพาะสารที่ระคายกระเพาะ เช่น ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID แม้วว่าจะให้ยาโดยการฉีดหรืออมใต้ลิ้นก็มีโอกาสเกิดแ ผลที่กระเพาะ เนื่องจากนี้จะไปกระตุ้นให้เกิด cyclooxigenase II (Cox II) ซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบที่กระเพาะ
* การกินอาหารเผ็ดจัด และเปรี้ยวจัดจากน้ำสมสายชู
* การดื่มแอลกอฮอล์ ได้แก่ เหล้า เบี้ย ยาดอง
4. ประวัติเป็นโรคกระเพาะในครอบครัวหากครอบครัวไหนมีโรค กระเพาะ คนในครอบครัวนั้นก็จะมีโอกาสเกิดโรคกระสูง

ตอนแรกคือไม่กินข้าวกินปลา คราวนี้ดูกินไม่ยอมลุกบ้างดีกว่าครับ ข้าวอยู่หน้าคอมลุกไม่ขึ้น เขาเรียกว่า couch potato (มันฝรั่งนั่งไม่ลุก...ฮิทฮิท)

Click the image to open in full size.

โรคอ้วน หมายถึงสภาวะร่างกายที่มีไขมันสะสมไว้ตามอวัยวะต่างๆ มากจนเกินไป

ที่มาของโรค

* กรรมพันธุ์ - ถ้าพ่อและแม่อ้วนทั้งคู่ลูกจะมีโอกาสอ้วนถึงร้อยละ 80 แต่ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งที่อ้วนลูกจะมีโอกาสอ้วน ถึงร้อยละ 40 แต่ไม่ควรที่จะวิตกกังวลจนเกินเหตุ ไม่ใช่ว่าคุณจะสิ้นโอกาสผอมหรือหุ่นดี
* นิสัยจากการรับประทานอาหาร - คนที่มีนิสัยการรับประทานอาหารไม่ดี หรือที่เรียกกันว่า กินจุบจิบ ไม่เป็นเวลาก็ทำให้อ้วนขึ้นได้
* การไม่ออกกำลังกาย - ถ้ารับประทานอาหารที่ มากเกินพอดี แต่มีการออกกำลังกาย บ้างก็อาจทำให้ยืดเวลาความอ้วน แต่ถ้ารับประทานอาหารที่มากเกินพอดีแล้วนั่งๆ นอนๆ โดยไร้ซึ่งการยืดเส้นยืดสาย ในไม่ช้าก็จะเกิดการสะสมไขมันในร่างกาย
* อารมณ์และจิตใจ - มีบางคนที่รับประทานอาหารตามอารมณ์และจิตใจ เช่น กินอาหารเพื่อดับความโกรธแค้น กลุ้มใจ กังวลใจ บุคคลเหล่านี้จะรู้สึกว่าอาหารทำให้ใจสงบ จึงยึดอาหารไว้เป็นสิ่งที่สร้างความสบายใจ - แต่ในทางกลับกัน บางคนที่รู้สึกเสียใจ กลุ้มใจ ก็กินอาหารไม่ได้ ถ้าในระยะเวลานานๆ ก็มีผลทำให้เกิดการขาดอาหาร ฯลฯ
* ความไม่สมดุลกับความรู้สึกอิ่ม ความหิว ความอยากอาหาร - เมื่อใดที่ความอยากกินเพิ่มขึ้นเมื่อนั้นการบริโภคก็ จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถึงขั้น "กินจุ" ในที่สุดก็จะทำให้เกิดความอ้วน
* เพศ - ผู้หญิงสามารถอ้วนได้ง่ายกว่าผู้ชาย เพราะโดยธรรมชาติมักสรรหาอาหารมากินได้ตลอดเวลา อีกทั้งผู้หญิงจะต้องตั้งครรภ์ทำให้น้ำหนักตัวมากขึ้ น เพราะต้องกินอาหารมากขึ้น เพื่อบำรุงร่างกายและทารกในครรภ์ และหลังคลอดบุตรแล้วก็ไม่สามารถลดน้ำหนักลงให้เท่ากั บเมื่อก่อนตั้งครรภ์ได้
* อายุ - เมื่ออายุมากขึ้น โอกาสที่จะอ้วนก็เพิ่มขึ้น ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งอาจเกิดจากการใช้พลังงานน้อยลง
* กระบวนการทางเคมีที่เกิดกับร่างกาย
* ยา - ผู้ป่วยบางโรคนั้น จะได้รับสเตียรอยด์เป็นเวลานานก็ทำให้อ้วนได้ และในผู้หญิงที่ฉีดยาหรือใช้ยาคุมกำเนิด ก็ทำให้อ้วนได้เหมือนกัน

Click the image to open in full size.

โรค มากมายจริงๆเลยนะครับ ยิ่งทันสมัยก็ยื่งมีผลเสีย ยังไงก็หนีไม่พ้น ได้เพียงรักษาร่างกายให้สมบูรณ์เสมอ แค่ออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 1 วันก็ยังดี

ขอบคุณครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘