ทานยา ก่อน หรือ หลังอาหาร วิธีการสำคัญไฉน

Image : https://myageingparent.com/health/medical/helping-elderly-take-medicine-safely/

ดังนั้นเราจะกำหนดเวลาไปด้วยว่า ทานก่อนอาหารหรือหลังอาหารนานเท่าใด จึงจะได้ผลตามที่ต้องการ 
การ ที่จะทราบว่าการทานยาก่อนอาหาร หรือหลังอาหารสำคัญอย่างไรนั้น เราต้องทราบก่อนว่าขั้นตอนที่ยาจะไปออกฤทธิ์นั้นเป็นอย่างไร เวลาเรากินยาเข้าไป
ถ้าเป็นยาเม็ดหรือแคปซูล ยานั้นจะแตกออก เป็นส่วนเล็ก ๆ ก่อน แล้วละลายในน้ำ ซึ่งอยู่ในกระเพาะและทางเดินอาหาร หลังจากนั้นก็จะถูกดูดซึมเข้าผนังทางเดินอาหาร เข้าสู่กระแสเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายต่อไป แต่ถ้าเป็นยาน้ำขบวนการนี้ก็จะเร็วขึ้น
ยาจะออกฤทธิ์เมื่อได้เข้าไปอยู่ในกระแสเลือดแล้ว และ ต้องมีปริมาณสูงพอด้วย อาหารบางอย่างมีผลต่อการดูดซึมของยา ยาบางตัวก็มีผลต่อกระเพาะอาหาร เช่น ทำให้เกิดการระคายเคือง ดังนั้น การกินยาก่อนหรือหลังอาหาร จึงมีความสำคัญขึ้นกับว่าต้องการผลการของยาในแง่ใด โดยปกติเมื่อกระเพาะมีอาหารอยู่เต็ม ยาจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้น้อยกว่า และใช้เวลามากกว่าเมื่อกระเพาะว่าง
ถ้าเราทานยาก่อนอาหารทันที, หลังอาหารทันที หรือทานยาพร้อมอาหาร จะมีความหมายแทบจะไม่แตกต่างกัน ซึ่งถือว่ากินยาในช่วงเวลาที่กระเพาะอาหารไม่ว่างเหมือนกัน ดังนั้นเราจะ กำหนดเวลาไปด้วยว่า ทานก่อนอาหารหรือหลังอาหารนานเท่าใด จึงจะได้ผลตามที่ต้องการ
วันนี้ผู้เขียน ขอแบ่งวิธีการทานยา ไว้พอให้เข้าใจกันดังนี้ ตามบทความของ พอ. สังสิทธิ์ วรชาติกุลกองเภสัชกรรม รพ. ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ลำปาง

ทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง

ทานก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง Image : http://www.typosthes.gr/gr/LifeStyle/article/40767/5-tropoi-gia-amesi-xalarosi-apo-to-stres-tis-imeras-/

เพราะเราต้องการให้ได้รับยาขณะที่ท้องว่าง เพื่อให้ยาดูดซึมได้ดีที่สุด ยาพวกที่ต้องทานแบบนี้ได้แก่ เพนนิซิลลิน, แอมพิซิลิน, ไรแฟมพิซิล เป็นต้น
บางทีเราก็ต้องการให้ยาออกฤทธิ์ก่อนอาหารตกถึงกระเพาะ (จะ กินก่อนอาหารนานเท่าใดขึ้นกับเวลาตั้งแต่เริ่มกินจนถึงเวลาที่ยาออกฤทธิ์ ซึ่งยาแต่ละตัวจะแตกต่างกันบ้าง) เช่น ยาที่ลดการเกร็ง หรือบีบตัวของกระเพาะและทางเดินอาหารคนที่เป็นโรคกระเพาะนั้นมักจะปวดท้อง เมื่ออาหารตกไปถึงกระเพาะ เพราะอาหารเป็นตัวกระตุ้นให้กระเพาะลำไส้บีบตัวมากขึ้น
จึงต้องให้ยาออกฤทธิ์ ลดการบีบตัวของกระเพาะลำไส้ โดยกินยาก่อนอาหารประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อ ให้ยาออกฤทธิ์พอดีเวลาอาหาร ซึ่งจะบรรเทาอาการปวดท้องได้ ยังมียาที่กระตุ้นให้เกิดการอยากอาหาร ก็ต้องทานก่อนอาหารประมาณ 1/2 ชั่วโมง พอยาออกฤทธิ์ จะทานอาหารได้มากขึ้น

กินหลังอาหารทันที = กินก่อนอาหารทันที = กินพร้อมอาหาร

 กินหลังอาหารทันที = กินก่อนอาหารทันที = กินพร้อมอาหาร Image : http://www.opposingviews.com/i/health/food-and-nutrition/seven-reasons-you-eat-better-king

ยาบางตัวหากกินตอนท้องว่างจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารมาก ทำ ให้คลื่นไส้อาเจียน แต่ถ้าทานพร้อมอาหารจะช่วยลดการระคายเคืองได้ ยาพวกนี้ได้แก่ ยาแก้ปวดชนิดต่าง ๆ เช่น  ยาแก้ปวดข้อ เช่น เพนนิลบิวทาโซน, ไอบูโปรเฟน, อินโดเมดทาซิน เป็นต้น

กินยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง

 กินยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง Image : http://funnymalaysia.hornbill.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/2013/09/beforevitamin.jpg

ยาบางชนิดจะออกฤทธิ์นาน เมื่อกินหลังอาหาร เช่น ยาลดกรดซึ่งมีผู้ทดลองได้ผลว่า ถ้าให้ยาในขณะที่ท้องว่าง ยาจะออกฤทธิ์นานประมาณ 30 นาที แต่ถ้าให้ยาหลังอาหาร 1 ชั่วโมง ยาจะออกฤทธิ์นาน 4 ชั่วโมง ดังนั้นจึงกำหนดให้กินหลังอาหาร 1 ชั่วโมง

ยาทานก่อนนอน

ยาทานก่อนนอน Image : http://www.webmd.com/children/ss/children-sleep-problems (13219)

ยาบางชนิดทานแล้วทำให้ง่วงมึนงง เช่น ยาคลายกังวล, ยาแก้แพ้ซึ่งเป็นส่วนผสมของยาแก้หวัด ลดน้ำมูก จึงควรทานก่อนนอน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ปลอดภัยในขณะทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือขับรถในเวลากลางวันแล้ว ยังทำให้หลับได้อย่างสบายในเวลากลางคืนอีกด้วย

Image : http://rihn.org.uk/blog/precision-medicine-and-challenges-for-manufacturing-and-supply/

จึงสรุปได้ว่า จะทานยาก่อนอาหาร หรือหลังอาหารขึ้นกับวัตถุประสงค์ในการให้ยานั้น ๆ ออกฤทธิ์ให้ได้ผลมากที่สุด มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ส่วนจะก่อน - หลังนานเท่าใดนั้น ขึ้นกับเวลาตั้งแต่เริ่มกินยาจนถึงเวลาที่ยาถูกดูดซึมเข้าผนังทางเดินอาหาร หมด หรืออาจเลยไปถึงเวลาที่ยาออกฤทธิ์แล้วแต่ว่าเราต้องการผลอันไหน
คง จะเห็นแล้วว่า เวลาทานยาก่อนหรือหลังอาหารมีความสำคัญเพียงใด ดังนั้นเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด ผู้ป่วยควรกินยาตามเวลาที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ผลดีก็จะตกอยู่กับตัวของผู้ป่วยเอง และที่สำคัญที่สุดควรปรึกษาเภสัชกรณ์ทุกครั้งในการทานยาให้ถูกวิธี หรืออ่านฉลากให้ละเอียดก่อนหากต้องไปซื้อยามารับประทานเอง

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จากพอ. สังสิทธิ์ วรชาติกุลกองเภสัชกรรม รพ. ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ลำปาง  ในบทความสาระน่ารู้ https://web.ku.ac.th/saranaroo/chap3a.htm
ขอขอบคุณภาพหน้าบทความสวย ๆ จาก
http://lathropdentalcenter.com/wp-content/uploads/2014/05/katy-tx-general-dentist.jpg

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘