สงคราม 3 ก๊ก ของวงการมือถือไทย และศึกเซ็กเพ็ก 900

ชื่อหัวข้อน่าสนุกไหมครับ?
เนื่องจากผมเพิ่งฝึกเล่นหุ้นไม่นาน เลยได้เข้าเว็บบอร์ดและได้คุยกับคนมากมาย ซึ่งส่วนตัวสนใจหุ้นกลุ่มสื่อสารมานานแล้วครับ เนื่องจากชอบติดตามข่าวสามค่าย ผมขออนุญาตหยิบเนื้อหาที่น่าสนใจ ที่ผมเจอในเว็บบอร์ดนอกห้อง Pantip แต่เพราะเป็นความบังเอิญที่ผมก็ได้รู้จักรุ่นพี่ที่เขาพูดถึง ซึ่งรุ่นพี่ที่ผมเคารพท่านนี้ก็ได้เล่าเรื่องเดียวกัน ผมเลยขอนำเนื้อหาคล้ายๆนี้ เอามาลงที่ Pantip ด้วยครับ ขอบคุณ มา ณ ที่นี้
-------------------------
วันก่อนผมได้มีโอกาสเจอและคุยเรื่องหุ้นกับรุ่นพี่ที่เป็นนักลงทุนขาใหญ่ ระดับหลายสิบล้าน และมีความเข้าใจวงการมือถือไทยอย่างมาก เพราะเคยทำงานอยู่กับดีแทคมาก่อนนานหลายปี เคยสู้รบกับเอไอเอสและทรูมาอย่างดุเดือดจนพอเข้าใจนิสัยและยุทธวิธีของคู่ แข่งดี แต่พี่เขาได้ตัดสินใจลาออกเพราะไม่เห็นด้วยกับหลายๆนโยบายของผู้บริหาร รวมถึงนโยบายเรื่องคน ที่เขามองว่าเริ่มผิดพลาดตั้งแต่ปี 2553 ลากยาวมาจนถึงปัจจุบันที่ทำให้เห็นขุนพลที่ชำนาญในการรบและทันเกมรุ่นก่อนๆ ของดีแทค ค่อยๆ ลาออกจนไม่เหลือใครที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดไทยพอที่จะสู้รบกับ เอไอเอส และทรู ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อในปัจจุบันนี้

เขาทำนายว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเหตุการณ์และแนวทางของดีแทคในปัจจุบัน ดีแทคจะกลายเป็นผู้เล่นรายเล็กภายใน 5 ปี ส่วนแบ่งตลาดอาจเหลือแค่ 15% เอไอเอสยังคงเป็นเบอร์หนึ่ง แต่ส่วนแบ่งตลาดจะใกล้เคียงกับทรูมากขึ้น ถ้าผมจำไม่ผิด สถานการณ์ที่รุ่นพี่บอกว่าน่าจะเห็นคือ ดีแทค 15% ทรู 40% และ เอไอเอส 45%

เขาวิเคราะห์สถานการณ์ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาได้อย่างน่าสนใจ ผมจะพยายามแชร์เท่าที่ผมพอจำได้นะครับ

ก่อนการประมูลนั้นจริงๆ แล้วดีแทคได้เปรียบที่สุดเพราะมีโอกาสได้คลื่นเก่าของคนอื่น ใดยที่ตัวเองไม่เสียคลื่นเลย

แต่การที่ กสทช ให้ มีการแยกการประมูลคลื่น1800 ที่ทรูมีลูกค้ามากกว่า 2 ล้านราย และคลื่น 900ที่เอไอเอสมีลูกค้ามากกว่า 10 ล้านราย ออกจากกัน และดีแทคไม่ได้ไปค้านกสทช. นั้น ได้ช่วยทำให้ เอไอเอสและทรูกลับมาได้เปรียบ ดีแทคเพราะถ้าประมูล พร้อมกัน 4 ใบโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าใครได้ใบอะไร โอกาสที่ดีแทคจะตะลุมบอนแย่งใบอนุญาต 1800 มาจากทรู และใบอนุญาต 900 มาจากเอไอเอสจะเกิดขึ้นได้มากขึ้น เพราะระหว่างการประมูลจะไม่มีใครรู้ว่าใครได้ใบอะไรจนจะประมูลครบทั้ง 4 ใบอนุญาต และเอไอเอสและทรูจะคุมเกมลำบากขึ้นมาก ดีแทคควรไปค้านกสทช แต่กลับไม่ไป

และการจัดการประมูลคลื่น 1800 ก่อนคลื่น 900 เป็นเดือนสามารถ ช่วยให้เอไอเอสคุมเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จ มากกว่าทรู เพราะเอไอเอสสามารถลุยทรูให้หมดเงินในการประมูลคลื่น 1800 ที่ทรูจำเป็นต้องได้ก่อน แล้วค่อยมาจัดการกับดีแทคในการประมูลคลื่น 900 ที่เอไอเอสจำเป็นต้องได้ทีหลังการที่แยกประมูลแบบนี้จึงจะทำให้ ดีแทคเสียเปรียบที่สุด ทรูได้เปรียบรองลงมา และเอไอเอสได้เปรียบที่สุด

นี่คือเกมก่อนการประมูล ที่ผู้บริหารดีแทคชุดนี้ไม่ทัน

พอมาตอนประมูล ดีแทคก็แพ้อย่างราบคาบ ด้วยการที่ไม่ได้ใบอนุญาตสักใบ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก่อนการประมูล ถ้าดีแทคสู้ให้ได้ทั้ง 2 ใบสถานการณ์ของดีแทคจะพลิกขึ้นมาเป็นบวกและสามารถชิงความเป็นหนึ่งจากเอไอ เอสได้ง่ายเพราะตอนนั้น ดีแทคเป็นเจ้าเดียวที่ไม่ได้ถูกบังคับให้เอาคลื่นความถี่ในมือมาประมูลให้ คู่แข่งแบบเอไอเอสและทรู พูดง่ายๆ คือ ถ้าดีแทคประมูลได้ทั้งสองใบ ดีแทคจะมีอาวุธเดิมครบมือและจะได้อาวุธจาก ทรูและเอไอเอสมาอีกด้วยถ้าเป็นไปตามนี้ ไม่มีเหตุผลที่ดีแทคจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ไม่ได้

แต่พอผลประมูลออกมาแบบนี้ ดีแทคเลยอยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤติสุด เพราะการที่ไม่ได้อาวุธเพิ่มเลย และอาวุธที่ตัวเองมีจะหมดอายุถึง 2 ใบภายใน 3 ปีนั้นทำให้สถานการณ์พลิกกลับจากการมีโอกาสทองที่จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ได้ กลายเป็นมีโอกาสที่จะล้มหายตายจากได้อย่างสูงภายใน 5 ปี

มันเลยไม่น่าแปลกใจที่หุ้นของดีแทค ดิ่งลงต่ำกว่า 30 บาทจากเดิมมากกว่า 100บาท พูดง่ายๆราคาหุ้นลงหนักกว่า ทรู หรือ เอไอเอส มากๆเพราะนักลงทุนย่อมนิยมบริษัทที่มีอนาคตมั่นคงและแน่นอนถึงแม้อาจจะต้อง จ่ายแพง มากกว่าบริษัทที่ไม่จ่ายเงินอะไรเลยแต่อนาคตเกิน 3 ปีออกไปขาดความมั่นคงและความแน่นอน

เลยไม่แปลกว่าทำไมราคาหุ้นดีแทคถึงขึ้นมาที่ 48จาก 30 หลังจากมีข่าวว่าแจสจะทิ้งใบประมูลและดีแทคอาจได้คลื่น แต่พอผู้บริหารดีแทคบอกว่าจะไม่ประมูล หุ้นก็ตกมาที่ 43 ภายในไม่กี่วัน

นักลงทุนเป็นห่วงว่า ถ้าดีแทคไม่ได้คลื่น ดีแทคอาจเหลือแค่ คลื่น 2100 ในอีก 3 ปีซึ่งจะทำให้อนาคตของดีแทคขาดความชัดเจน

แต่จะบอกว่าผู้บริหารดีแทคไม่ได้พยายามในการประมูลรอบที่ผ่านมาเลยก็คงไม่ ใช่ เพราะการปรากฏตัวของแจสนั้น อาจเป็นแผนการระดับสุดยอดคมปัญญา ที่ดีแทคและทรู ไม่สามารถที่ต้านทานได้

กรณีว่าแจส มีการเล่นเกมการเงินหรือทำผิดอะไรบ้างคงต้องรอคณะกรรมการ 9 ท่าน สรุปผลว่าจะจับอะไรกับบริษัทที่ถูกเรียกว่าเป็น หุ้นแห่งทศวรรษ โดย ดร. นิเวศน์ ได้หรือเปล่า แต่ถ้าจะพยายาม คาดเดากลยุทธ์ของแจสจากพฤติกรรมก็คงประเมินได้ระดับหนึ่ง

1) กรณีคลื่น 1800 คุณพีทมาคุมการประมูลเองและมีการสู้ราคาอย่างดุเดือดมาก แต่สุดท้ายก็ยอมทิ้งใบไปเมื่อราคาสูงถึงจุดหนึ่ง
2) กรณีคลื่น 900 คุณพีทไม่มาเองแต่กลับส่งลูกน้องมาประมูลแค่ 3 คน อาจจะให้ดูคนละกะ กะละ 8ชั่วโมงให้ครบ 24 ชั่วโมง และไม่ต้องคิดอะไรมากให้กดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้คลื่น แบบที่กดทับราคาตัวเองทั้งๆ ที่ทรูและดีแทคหยุดแข่งราคาบน lot 1 ไปแล้ว
3) เอไอเอส ดีแทค และทรู คงต่างต้องการทุกคลื่น แต่ถ้าในเชิงความจำเป็น เอไอเอสมีความจำเป็นต้องการคลื่น 900 มากที่สุดเพราะมีลูกค้าเดิมติดอยู่มากกว่า 10 ล้านราย บวกกับการที่ปัจจุบัน เอไอเอสไม่มีคลื่น low band สำหรับการทำcoverage ส่วนทรูต้องการคลื่น 1800 เพราะมีลูกค้าเดิมมากกว่า 2 ล้านราย และต้องการคลื่น high bandสำหรับการเพิ่ม capacity เพราะคลื่น low band มี 850อยู่แล้ว ส่วนดีแทคต้องการคลื่น 900 มากที่สุดเพราะไม่มีคลื่น low band เป็นของตัวเอง เพราะ 850ใกล้หมดอายุแล้ว แต่ high band ยังพอมี 2100 เดิมอยู่ สรุป ทรูอยากได้คลื่น 1800 และดีแทคกับเอไอเอส อยากได้คลื่น 900
4) ในการประมูล แจสจะประมูลแข่งราคาบน lot ที่เอไอเอสไม่ได้ประมูล ทั้งในกรณีคลื่น 900 และ1800 ซึ่งประเด็นนี้น่าสงสัยมากๆ

ถ้าเราประติดประต่อเรื่อง เราจะเห็นว่า แจสเข้ามาสู้ราคาคลื่น 1800 กับทรูใน lot 1 จน ถึงจุดหนึ่งพีทก็ตัดสินใจ ทิ้งใบอนุญาตให้ทรู

พอทรูได้ใบอนุญาต 1800 ในราคาที่สูง ถ้าประเมินสถานการณ์การเงินของทรูตามที่เป็น โอกาสที่ทรูจะมีเงินพอที่จะสู้ในการประมูลคลื่น 900 ในวงเงินที่สูงเทียบเท่าดีแทค และเอไอเอสก็คงยากมากๆ

เพราะฉะนั้นถ้าใช้ตรรกะประเมิน การสู้คลื่น 900 ก็คงเป็นการสู้รบระหว่าง เอไอเอสและดีแทค และเอไอเอสคงประเมินว่า งบ 75000 ล้านน่าจะเอาชนะทั้ง ดีแทคและทรูได้ อาจเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้บอร์ดเอไอเอสให้แค่ 75000 ล้าน

เลยเกิดปรากฏการณ์ แจสประมูลทุกราคา ใน lot 1ของคลื่น 900 ทั้งๆ ที่ทุกคนรู้ว่าดีแทคเป็นรายเดียวที่สามารถใช้ได้เต็ม 10 mhz

มันเหมือนจะมีการวางแผนไว้ก่อนว่า ต้องทำให้ทรูหมดเงินกับคลื่น 1800 ก่อนให้ได้ เพื่อให้ไม่มีเงินพอสู้คลื่น 900 และ แจสจะสู้ทุกราคาบน lot 1ของคลื่น 900 เพื่อไม่ให้ดีแทคได้ lot 1 ของคลื่น900 ไปใช้ และจะจบที่ แจสได้ lot 1 ของคลื่น 900และ เอไอเอสได้ lot 2 ของคลื่น 900.

การที่แจส ไม่ประมูลแข่งคลื่น 1800 และ 900 บน lotที่ เอไอเอสต้องการ และไม่ได้สู้ราคาแบบที่ได้ สู้รบกับทรูและดีแทคบนอีก lot มันทำให้สงสัย ว่ามันบังเอิญหรือจงใจ แต่เรื่องนี้คงต้องให้คณะกรรมการ 9 ท่านตรวจสอบว่าทำไม

แต่สุดท้าย แผนการทุกอย่างก็พังลงเมื่อทรูได้ประมูล lot 2 จนชนะเอไอเอสอย่างเกินความคาดหมายของทุกคนที่พอจะอ่านงบการเงินเป็นเพราะทุก คนลืมไปว่าทรูสามารถเพิ่มทุนได้ในกรณีที่เงินหมด เพราะฉะนั้น 75000 ล้านของเอไอเอส เลยไม่พอ

เราเลยมาอยู่ในสถานการณ์วันนี้ที่ดีแทคไม่ได้คลื่นอะไร ทรูได้ 2 คลื่นและ เอไอเอสได้คลื่นเดียว

ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป รุ่นพี่เขาเชื่อว่าทรูจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 เอไอเอสตกเป็น เบอร์ 2 และ ดีแทคตกเป็นเบอร์ 3

ถ้าเอไอเอสโดดลงมาเอาคลื่น 900 lot 1 ตามที่ได้แสดงท่าทีล่าสุดไว้ เอไอเอสจะสามารถยังเป็นเบอร์ 1 ได้แต่ทรูจะขึ้นเบอร์ 2 แทนดีแทค และดีแทคตกเป็นเบอร์ 3

ถ้าดีแทคได้คลื่น 900 lot 1 ทรูและดีแทคจะต่างกินส่วนแบ่งตลาดของเอไอเอสจน ส่วนแบ่งตลาดของทั้ง 3 เจ้าจะใกล้เคียงกัน และเกิดสภาวะ 3 ก๊กขึ้นในวงการมือถือไทยอย่างแท้จริง

ตอนนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดของดีแทคคือการลงทุนกับคลื่น 900 เพื่อกันไม่ให้ตัวเองตกเป็นเบอร์ 3และสร้างสถานการณ์ 3 ก๊กให้เกิดขึ้นให้ได้

อุปมาคลื่น 900 เหมือนศึกเซ็กเพ็ก ที่เอไอเอสเหมือนโจโฉพลาดท่า และถูกเผาทัพใหญ่ ตอนนี้ทรูเลยได้โอกาสจะยึดดินแดน และดีแทคมีโอกาสที่จะเลือกว่า จะยอมให้ทรูได้ผลประโยชน์จากการเขมือบพื้นที่ของเอไอเอสอยู่ฝ่ายเดียวหรือดี แทคจะไปเข้าร่วมวงแย่งกินเอไอเอส แข่งกับทรูก่อนที่ทรูจะเติบใหญ่ไปมากกว่านี้

ตอนนี้ เอไอเอสพยายาม ที่จะหาวิธีกันไม่ให้ดีแทคโดดร่วมวงมาสู้กับตน และสงบศึกด้วยการเสนอลูกค้า roaming ให้ดีแทค และสนับสนุนให้ไม่มีการประมูลคลื่น 900 ในราคาแจส

คงต้องรอดูต่อไปว่า ดีแทคจะโดนสับขาหลอกหรือเปล่า

เป็นไปได้ว่า พอดีแทคปฏิเสธที่จะร่วมประมูลถ้าราคาแรกเริ่มเป็นราคาแจส เอไอเอสอาจจะถือโอกาสนี้เสนอตัวให้กสทชว่าตนจะ เอาคลื่นแจสในราคาแจสโดยไม่ต้องประมูล เพื่อเข้ามาแก้ใขสถานการณ์ให้ประเทศชาติ แถมยังป้องกันการโจมตีจากทรูได้สำเร็จอีก

แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ทรูและเอไอเอสจะแย่งส่วนแบ่งตลาดกันเองยาก และจะหันมากินพื้นที่ของดีแทคแทน

ฝันร้ายที่เห็นส่วนแบ่งตลาดของดีแทคเหลือแค่15% อาจจะกลายเป็นจริงก็ได้รอบนี้

ประมาณนี้ครับ คุยกันยาวหลายชั่วโมง แต่เนื้อหาบางอย่างเป็นความไม่พอใจต่อผู้บริหารดีแทคกับนโยบายหลายๆ อย่างของพวกเขาโดยเฉพาะเรื่องของคน แต่ผมขออนุญาตไม่แชร์นะครับเพราะอาจรุนแรงไปนิดนึง

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ที่เล่นหุ้นทุกท่านนะครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘