น้ำมนต์




ในบทสวดพระปริตรเจ็ดตำนาน หรือบทสวดสิบสองตำนาน มีอยู่บทหนึ่งที่สำคัญ คือบทรัตนปริตร หรือบทรัตนสูตร ด้วยหากจะทำพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ จะขาดบทนี้ไม่ได้ขั้นตอนการประกอบพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ พระภิกษุจะตั้งขันน้ำที่จะนำมาประกอบพิธีเจริญน้ำพระพุทธมนต์ในเขตบริเวณ พิธี ล้อมรอบด้วยสายสิญจน์ จุดเทียน และสวดเจริญพระพุทธมนต์เมื่อสวดมาถึงบทรัตนสูตร ให้พระเถระที่เป็นประธานสงฆ์หยดเทียนน้ำมนต์ ในตอนเริ่มบทที่มีคำสวดขึ้นต้นว่า
           "ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วายานิวะ อันตะลิกเข สัพเพวะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ..."
           เมื่อจะดับเทียนน้ำพระพุทธมนต์ ให้ดับในท้ายบทรัตนสูตร มีคำสวดลงท้าย ดังนี้
           "...ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วายานิวะ อันตะลิกเข, ตะถาคะตัง เทวะมะนุสสะปูชิตัง สังฆังนะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุฯ"
           บทรัตนสูตรเป็นบทที่ว่าด้วยอานุภาพแห่งรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
           ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล เมืองไพสาลี ประสบภัยพิบัติร้ายแรง ๓ ประการ คือ โรคระบาด อมนุษย์ และความฝืดเคืองเรื่องอาหารชาวเมืองไพสาลีนิมนต์พระพุทธเจ้า ให้มาช่วยปัดเป่าภัยพิบัติ
           ครั้นเมื่อได้ตอบรับคำทูลเชิญและเสด็จไปเมืองไพสาลี ทรงตรัสเรียกพระอานนท์ ว่า "อานนท์ เธอจงเรียนเอารัตนสูตรนี้แล้วไปสวดในกำแพงเมือง"
           พระอานนท์เถระเมื่อได้เรียนรัตนสูตรแล้ว ก็ถือบาตรน้ำมนต์ของพระพุทธองค์ ไปยืนอยู่ที่ประตูเมือง รำลึกถึงพระพุทธคุณ จากนั้นจึงประพรมน้ำมนต์ไปทั่วพระนครภัยทั้ง 3 ประการในเมืองไพสาลีก็อันตรธานไปอย่างรวดเร็ว ชาวเมืองที่กำลังเจ็บไข้ก็ทุเลา
           คำว่า "น้ำมนต์" พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙) ราชบัณฑิต และเจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ได้ให้ความหมายไว้ว่าน้ำมนต์ คือน้ำที่ผ่านพิธีน้ำมนต์มาแล้ว น้ำที่เสกเพื่ออาบ กิน หรือประพรม เป็นต้น ใช้ว่าน้ำมนตร์ ก็มี
           น้ำมนต์ ปกติจะสำเร็จด้วยการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ในงานพิธีมงคลต่างๆ หรือการเสกของพระภิกษุหรือคฤหัสถ์ผู้ทรงวิทยาคุณ กล่าวคือผ่านการทำสมาธิที่แน่วแน่และพระปริตที่เป็นมนต์ทางศาสนามาแล้ว
           น้ำมนต์ นิยมนำมาอาบ ดื่ม หรือประพรมที่ศีรษะ ภายในบ้าน บริเวณบ้าน ป้ายร้านค้า เป็นต้น โดยนับถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ เป็นน้ำสิริมงคล นำความสวัสดีมีโชคมาให้ ตลอดถึงกำจัดปัดเป่าอัปมงคล อันตราย ภัยพิบัติต่างๆ ได้
           น้ำมนต์ เมื่อเวลาเรารู้สึกดวงไม่ดี มีเคราะห์ หรือเจ็บป่วย นำพระกริ่งปวเรศ หรือพระกริ่ง (องค์แทนพระพุทธเจ้าไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้า)  อาราธนาบารมีของพระองค์ท่านทำน้ำพระพุทธมนต์ ดื่ม รด อาบ กินเพื่อความสวัสดี มีชัยปราศจากโรคภัยและเคราะห์
Cr.; http://www.komchadluek.net/detail/20130426/156975.html

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘