หลวงพ่อธัมมชโยวัดพระธรรมกาย ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด มาดูด้วยตัวเอง...จึงจะรู้ความจริง


ก่อนอ่านเปิดตา..เปิดใจด้วย 
คนเขียนไม่ได้เข้าข้างใคร

๕๐ ปี ที่วัดพระธรรมกายผงาด...
ถามว่าภาพลักษณ์ในประเทศ คนที่ไม่เข้าใจ ไม่ชอบ
และต่อต้านวัดนี้ ...เคยมาสัมผัสจริงๆ ด้วยตนเองหรือยัง??

ตอนเด็กๆ จำความได้ว่า ปี 2542 ข่าวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ รวมทั้ง TV
ลงข่าวประโคมเกี่ยวกับพระ ไม่ว่าจะเป็นพระยันตระ ฯลฯ
ได้รู้จักชื่อวัดพระธรรมกายและหลวงพ่อธัมมชโยก็เพราะสื่อต่างๆ


ผ่านไปหลายสิบปี...
คนก็ยังแห่เข้าวัดนี้เยอะ
ขึ้นเรื่อยๆ
สังเกต ใครไปวัดนี้
ใส่ชุดขาวล้วน 
ที่ทางวัดออกแบบ
และส่งเสริม
ให้ญาติโยมที่มาสวมใส่

พอได้มีโอกาสมาวัดนี้ด้วยตัวเองจริงๆ ...ถึงกับขนลุกเลย
เพราะวัดเงียบ สงบ...สะอาด
คนที่มายิ้มแย้มให้กัน ใส่ชุดขาวๆ ทักทาย ..มีเสียงสาธุๆ
เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่...คนภายนอกเข้าไม่ถึง 
เหมือนอยู่บนสวรรค์




ไม่ได้บอกว่าวัดอื่นๆ ทั่วประเทศต้องเป็นเหมือนวัดนี้
แค่ได้เรื่องระบบระเบียบ สะอาด ก็พอแล้ว
พระวัดนี้ก็ดูสงบเสงี่ยม ดูมีการศึกษา ... มีปัญญา
แต่ละปี มีเด็กเกรียนทำภาพล้อเลียนหลวงพ่อโจ๋งครึ่มทางเฟสบุ๊ค
ไม่เคยจะเห็นหลวงพ่อมาตอบโต้ด้วยตัวเอง

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม คนถึงไม่ชอบ ทั้งๆที่ไม่ได้มา 
หรือว่าเขาเชื่อ แต่สิ่งที่พูดต่อๆ กันมานะ ??
หรือว่ามีกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ ไม่อยากให้วัดทั่วประเทศ
เป็นแบบวัดพระธรรมกาย????

ตอนพิธีกรรมงานบุญ เห็นญาติโยมแห่ไปถวายหลวงพ่อ 
ไม่เห็นมีใครบังคับว่าต้องทำเป็นล้าน ทำบุญแค่ ๒๐ บาทก็ได้
ป้าข้างๆ ก็รวมกันใส่ซองถวายได้ ทุกคนจบทานบนศรีษะ 
ปลื้มในทานของตัวเอง

ต่อไปนี้มาดูกันว่าความจริง วัดนี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดนะ
ถ้าไปพิจารณาความดีของบุคคล คงจะมีทั้งดีและไม่ดี 
เพราะคนเข้าวัดนี้ ก็ใช่ว่าจะหมดกิเลส
ต้องไปดูว่า ประโยชน์ของวัดที่มีต่อผู้อื่น มีบ้างไหม?


หลวงพ่อธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
พร้อมคณะสงฆ์ลูกศิษย์




มาดูข่าวแต่ละข่าวที่ลงต่อว่าพระท่านสิ?!!!
  1. หลวงพ่อธัมมชโยยักยอกเงินวัด แปลกนะที่โดนข้อหานี้ทั้งที่       ท่านก็เป็น ผู้นำปัจจัยที่ญาติโยมถวายท่านตั้งแต่ยังไม่มีวัด             มาสร้างวัดพระธรรมกายขึ้น ท่านเป็นผู้เลี้ยงวัด วัดเจริญก้าวหน้ามาได้ถึงปัจจุบันเพราะญาติโยมศรัทธาในตัวท่าน ท่านนำปัจจัยที่ญาติโยมถวายท่านเป็นการส่วนตัวมาสร้างวัด สร้างศาสนสถานมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท แม้ปัจจุบันปัจจัยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของวัดพระธรรมกายก็มาจากที่ท่านบริจาค ให้วัดการ กล่าวหาว่าท่านยักยอกเงินวัด ก็เหมือนกับกล่าวหาว่าพ่อที่เป็นผู้ให้เงินลูกใช้ ยักยอกเอาเงินของตัวเองที่ให้ลูกไป เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ หากท่านต้องการปัจจัย แค่ลดการบริจาคให้วัดลงก็พอแล้ว ข้อกล่าวหาว่าท่านยักยอกเงินวัดจึงขัดแย้งกับความเป็นจริงปัจจัยที่กล่าวว่าคืนวัดนั้น ามจริง เป็นปัจจัยของคณะศิษยานุศิษย์ที่อยากให้เรื่องจบจึงร่วมกันทำคำร้องถึง อัยการสูงสุด และลงขันกันตั้งกองทุนบริจาคให้วัด มากกว่ามูลค่าของเงินที่เป็นเหตุแห่งคดี
  2. หลวงพ่อยักยอกที่ดินของวัด ญาติ โยมถวายที่ดินให้กับท่านเป็นการส่วนตัว เพราะศรัทธาในตัวท่าน ในโฉนดก็ระบุเช่นนั้น ผู้ถวายก็ยังมีชีวิตอยู่ไปให้การกับศาลยืนยันว่าถวายให้ท่านเป็นการส่วนตัว ที่เกิดเป็นคดีขึ้นมาเหมือนเป็นเรื่องการเมืองที่จะหาเรื่องให้ได้ เพื่อตัดปัญหาท่านจึงโอนที่ดินให้วัดแม้ ปัจจุบันก็มีญาติโยมมาถวายที่ดินแก่ท่านเป็นการส่วนตัวทุกเดือน กล่าวยืนยันท่ามกลางประชุมชนถึง ๓ ครั้ง ว่าท่านจะเอาไปทำอะไรก็ได้ จะไปขายก็ได้ ไปสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมก็ได้ อัดวีดีโอเป็นหลักฐานไว้ด้วย ท่านก็ให้โอนที่ดินเหล่านั้นเข้ามูลนิธิใช้ประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนาต่อไป ท่านไม่เคยไปดูที่ดิน ไม่รู้ด้วยว่าอยู่ตรงไหน เขาถวายมาก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการต่อไปเพื่อประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา

สรุปยังไง...!!!?
     เราสามารถสรุปได้อย่างชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ 
พระเทพญาณมหามุนี หรือหลวงพ่อธัมมชโย เป็นผู้อุทิศชีวิต
เพื่อพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน เราอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
กับวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของท่าน ย่อมเป็นสิทธิส่วนบุคคล 
แล้วแต่จริตความชอบของแต่ละคน แต่ไม่อาจกล่าวหาว่า ท่านมี
เจตนาไม่สุจริต เพราะผู้ที่มีเจตนาไม่สุจริต ทำเพื่อหวังลาภสักการะ
จะไม่ทำอย่างที่ท่านทำ และก็ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคน หรือ
สร้างศาสนสถาน เช่นการสร้างศาสนสถาน รองรับชาวพุทธได้ ๑ ล้าน
คน เป็นงานใหญ่ที่ต้องทำด้วยชีวิต เจดีย์ วิหาร ศาลา ศาสนสถาน
ต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาจะกลายเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา โดย
ไม่ต้องใช้งบประมาณแผ่นดินแม้แต่บาทเดียว

         การสร้างพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ผู้อุทิศชีวิต
พื่อพระพุทธศาสนากว่า ๕,๐๐๐ รูป/คน ญาติโยมผู้มีศรัทธาอุทิศตน
เพื่อพระพุทธศาสนานับล้านคน

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “ศีล รู้ได้ด้วยการอยู่ร่วม” 
คนที่อยู่ด้วยกันเป็นสิบ ๆ ปี ใครนิสัยเป็นอย่างไรจะรู้กันหมด 
ถ้าท่านไม่ดีจริงจะไม่มีทางสร้างพระ เณร อุบาสก อุบาสิกา
ที่อุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนาได้เช่นนี้ ชีวิตของใคร ใครก็รัก 
จะสละชีวิตของตนได้ต้องชัดเจนแล้วว่าสิ่งนั้นดีจริง 
มีคุณค่าจริงเท่านั้น
การกระทำเชื่อได้มากกว่าคำพูด
 คนเราจะพูดอย่างไรก็ได้ ทั้งทางดีทางร้าย 
“สิ่งที่เชื่อถือได้มากกว่าคำพูด คือ การกระทำ”
 โดยเฉพาะการกระทำที่ทำมาตลอดชีวิตกว่า ๕๐ ปี




โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘