มารู้จัก GAP กันเถอะ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ GAP กันก่อน

    GAP ก็คือ บริเวณของราคาในกราฟที่ไม่ได้นำมาเทรด (และจะเกิดเป็นช่องว่างให้เห็นในกราฟ (ตามภาพด้านล่าง) โดยทั่วไปนั้นจะเกิดขึ้นกับราคาปิดและราคาเปิดของวันถัดไปในตลาด ซึ่งปัจจัยหนึ่งของการเกิด Gap มีสาเหตุมาจากการประกาศตัวเลขผลประกอบการหลังจากที่ตลาดปิดไปแล้ว หากผลประกอบการนั้นสูงกว่าผลประกอบการที่ตลาดได้คาดการณ์เอาไว้อย่างมีนัยสำคัญ (((( ((((((หรือ ผลประกอบการดีเกินคาด ในวันถัดมานักลงทุนจะตั้งราคาซื้อให้สูงขึ้นจากราคาปิดวันก่อนทำให้ช่วงราคาที่ขาดหายไป หมายความว่าเกิด Gap ขึ้นนั่นเอง Gap นั้นใช้เป็นหลักฐานหรือข้อพิสูจน์ว่าต้องมีปัจจัยสำคัญบางอย่างส่งผลต่อกับปัจจัยพื้นฐาน หรือ จิตวิทยาการลงทุน ที่มาพร้อมกับกับนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในตลาด (หรือในหุ้น)  



ทีนี้เราก็รู้กันแล้วนะครับว่า GAP มีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ต่อมาเราจะมาดูกันว่าแล้ว GAP เนี่ยโดยทั่วไปนั้นมีด้วยกันกี่แบบ

โดยทั่วไปนั้น GAP จะมีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ ได้แก่


1. Common Gap : เป็น Gap ที่เห็นได้ตามปกติ โดยทั่วไปมักจะเกิดก่อนการประกาศจ่ายปันผล และปริมาณการซื้อขายเบาบาง ซึ่ง Gap ประเภทนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ภายในไม่กี่วัน หรือ ไม่กี่สัปดาห์ก็จะถูก ปิด Gap” ดังกล่าว ดังภาพ


2. Breakaway Gap : Gap ประเภทนี้จะเกิดบริเวณแนวรับ และ แนวต้าน 


Breakaway Gap ขาลง : สังเกตได้จากแท่งเทียนวันถัดไปนั้นเปิดกระโดดลงหลุดแนวรับลงมา แล้วไม่มีการปิด Gap เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น พร้อมกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มมากขึ้น


Breakaway Gap ขาขึ้น : สังเกตได้จากแท่งเทียนวันถัดไปนั้นเปิดกระโดดทะลุแนวต้านขึ้นไป แล้วไม่มีการปิด Gap เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น พร้อมกับปริมาณการซื้อขาย (Volume) ที่เพิ่มมากขึ้น

3. Runaway Gap : Runaway Gap นั้นจะเกิดตามแนวโน้มของตลาด (หรือหุ้น) ที่มันเคลื่อนที่ 


Runaway Gap เกิดขึ้นกับแนวโน้มขาลง ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเกิด Gap


Runaway Gap เกิดขึ้นกับแนวโน้มขาขึ้น ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเกิด Gap

4. Exhausting Gap : มักจะเกิดขึ้นใกล้ๆ กับการเกิดการเปลี่ยนแนวโน้มทั้งขาขึ้น และ ขาลง
ลักษณะคือ ในแนวโน้มขาขึ้นจะเกิดคล้ายกับ Runaway Gap แต่จะมีการปิด Gap อย่างรวดเร็ว และ ปริมาณการซื้อขายที่สูงมาก พร้อมกับราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง ในทิศทางขาลงจะเกิดขึ้นเหมือนกันแต่กลับทิศกัน


Exhausting Gap ในแนวโน้มขาขึ้น ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และเกิดรูปแบบการกลับตัวแนวโน้มระยะสั้นของแท่งเทียนในรูปแบบ Shooting Star


Exhausting Gap ในแนวโน้มขาลง ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นเกิดการปิด Gap อย่างรวดเร็วและแท่งเทียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ตัวอย่างกระทู้ธรรม ธรรมศึกษาชั้นตรี 5

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันเสาร์ ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘