ปิด EDGE ใน iPhone 2G 3G 3GS
สาเหตุหลักของการเปิด EDGE คือมาจากตัว OS เองที่จะทำการเปิดโดยอัตโนมัติ มีหลายคนที่ลองใส่ค่า APN แล้วพบว่าทำให้แบตหมดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจาก OS พยายามที่จะต่อ EDGE ให้ได้ จึงทำให้เสียพลังงานตรงจุดนี้ครับซึ่งพบว่า iPhone หลังชาร์จเต็มจะอยู่ได้ประมาณ 90 นาที
ดังนั้นอย่างที่บอกครับ ยังไม่มีแนวทางที่ตายตัว(นอกจากแก้ที่ตัว OS คงต้องให้ Apple ทำ) แต่ว่าก็มีทางออกที่สามารถจะช่วยได้ ต้องทดลองดูครับ ผลที่ได้เป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเราครับยังไงก็ทดลองตามขั้นตอนต่อไปนี้นะครับ
ขั้นที่ 1 เลือกเมนู Setting> Notifications เป็น Off
ขั้นที่ 2 เมนู Setting>Mail, Contacts, Calendars> Fetch New Data> Push ตั้งเป็น Off
ขั้นที่ 3 ปิด EDGE ด้วยเครื่องมือ BossPref หรือ SBSettings (เครื่องผมใช้ BossPref นะครับ) โดยการติดตั้งโปรแกรม BossPref ก่อนดังนี้
(วิธีติดตั้งสำหรับคนที่ยังไม่ได้ลงโปรแกรมนี้นะครับ หากลงแล้วก็ข้ามไปที่ขั้นที่ 4 ได้เลย)
3.1 เปิดโปรแกรม Cydia ขึ้นมา
3.2 เลือก Search ที่มุมมล่างขวาด้วยคำว่า Bosspref
3.3 กด Install ที่มุมบนขวา จากนั้นเลือก Confirm หลังจากติดตั้งเสร็จเครื่องอาจจะให้กด Return to Cydia หรือไม่ก็ Reboot ไอโฟนครับ
3.4 เปิดโปรแกรม BossPref ขึนมา ที่เมนู EGDE เลือกเป็น Off (ตามรูปด้านล่างครับ) แล้วกดออกไปที่ Home
ขั้นที่ 4 เลือกเมนู Setting> Airplan Mode เลือกเป็น On จากนั้นรอประมาณ 10 วินาที
ขั้นที่ 5 เลือกเมนู Setting> Airplan Mode เลือกเป็น Off จากนั้นรอสัญญาณโทรศัพท์
ขั้นที่ 6 เปิด BossPref(หรือ SBSettings) แล้วเช็คดูจะเป็น Data IP: N/A / Wi-fi IP N/A
ขั้นที่ 7 ทดสอบเข้าเว็บด้วย Safari จะพบว่าเปิดหน้าเว็บไม่ได้ แล้วลองเช็ค Data IP จาก BossPref ดูอีกทีครับ
ขั้นตอนทั้งหมดอ้างอิงจากเว็บของผู้พัฒนาคือ TheBigBoss.Org
และจากความเห็นของผู้ใช้พบว่า
1) บางคนปิด EDGE ผ่าน SBSettings แล้วได้ผลดี
2) บางคนบอกว่าวิธีนี้ทำแล้วใช้ได้ผลกับเขาเหล่านั้น
3) บางคนก็บอกว่าใส่ค่า APN แล้วแบตก็ไม่ได้หมดเร็ว แต่บางคนก็บอกว่าหมดเร็ว
ดังนั้น TheBigBoss ได้บอกต่อว่า “เรายังไม่มีวิธีการที่จะแก้ปัญหานี้แบบตายตัว”
ความคิดเห็นของผู้เขียน(ผมเอง)
1. หากท่านเป็นลูกค้าของเครือข่ายมือถือใดๆ หาก ไม่มีความต้องการที่จะใช้ EDGE ก็ไปขอยกเลิกจากทางเครือข่ายของท่านซะ เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายของ EGDE นั้นบานปลา (บางคนหลายพันเลยแหละ)
2. หากต้องการที่จะใช้ EDGE ผมแนะนำสำหรับลูกค้า DTAC(เพราะผมใช้รายเดือนอยู่ครับเลยบอกได้) ว่า ให้ศึกษาโปรโมชั่นสำหรับแพ็คเก็จ EGDE มันมีหลายราคาเหมือนกัน ตอนนี้ผมใช้ Fun Pack (100 SMS, 5MMS, 10 HR EDGE) ราคา 100 บาท สำหรับแพ็คเก็จซึ่งพบว่าแต่ละเดือนก็ใช้ไม่เกินครับ หากต้องการใช้มากกว่านี้ก็เลือกเอาตามความเหมาะสมนะครับ สำหรับลูกค้า AIS, True อย่าน้อยใจนะครับ ยังไงก็ขอคำแนะนำจากสมาชิกช่วยๆมาแชร์ประสบการณ์จุดนี้กันด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก TheBigBoss.org
**——–**
อัปเดต 10 สิงหาคม 2552
อีกวิีธีสำหรับการปิด EDGE โดยวิธีนี้ได้รับความเห็นจากพี่ยุ้ย(Yui) ผู้อ่านบทความของเรานี่เอง มาดูกันครับเปิด Safari แล้วเข้าไปที่เว็บ http://iphonenodata.com/
เลือก Disable EDGE/3G
จากนั้นกด Install
เลือก Install Now
โปรแกรมจะให้เรากรอกรหัสผ่าน 4 หลัก
เมื่อ Profiles ติดตั้งเสร็จ บริการ EDGE/3G จะไม่สามารถใช้งานได้(ถูกปิดไว้) ตัวโปรแกรมจะแสดงแบบนี้
เมื่อเ้ข้าไปดูที่ Settings> General> Profile จะแสดง Disable-EDGE-3G
ถ้าหากต้องการจะเปิด EDGE/3G ก็ให้คลิกเข้าไปที่ Profile แล้วกด Remove
อยากให้ทดลองทั้ง 2 วิธี โดยทำร่วมกันนะครับ ถ้าได้ผลอย่างไรผมอยากทราบเสียงตอบกลับ ช่วยกลับมาบอกกันด้วยนะครับว่าผลที่ได้เป็นอย่างไร
ขอบคุณที่มา iphonenodata.com
อัปเดต 12 สิงหาคม 2552 (วันแม่)
วิธีการครับ ติดตั้ง BossPref แล้วปิด EDGE จากโปรแกรมนั้นครับ ต่อไปให้ติดตั้ง iphonenodata ตามวิธีที่สองหากต้องการเล่นเน็ต ให้เปิด EDGE จากโปรแกรม BossPref และไม่ต้อง remove โปรไฟล์ disable-edge-3g ออกนะครับ
หากต้องการเลิกเล่นเน็ต ก็ปิด EDGE ที่ BossPref เท่านั้นครับ
ปล. ถ้าเครื่องคุณติดตั้ง Internet Tethering มันจะไม่สามารถปิดได้(อันนี้เป็นคอมเมนต์จากผู้ใช้ครับ) ดังนั้นถ้าจะปิดก็ต้อง remove profile ของ tethering ออกครับ
ทดสอบได้ผลอย่างไรบอกด้วยนะครับ