พาดหัววันนี้ Apple ขู่จัดการขบวนการ Jailbreak

เพื่อนส่งลิงก์เกี่ยวกับข่าวนี้มาให้ได้อ่านเป็นข่าวเกี่ยวกับ Apple ต้องการที่จะหาทางต่อกรกับวงการเจลเบรค ครั้งแรกที่อ่านหัวข้อข่าวนี้ทำให้ตกใจเหมือนกันว่า “นี่เราจะเจลเบรคไม่ได้อีกแล้วเหรอ” จนเพื่อนผมบอกว่า “อ่านข่าวนี้แล้วก็เสียวๆเหมือนกันนะเนี่ย” สำหรับเนื้อหาข่าวบางส่วนเดี๋ยวผมจะอ้างอิงเอาส่วนที่สำคัญมาให้อ่านแล้วกัน นะครับ

แอปเปิล (Apple) ประสบความสำเร็จแล้วในการพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับทั้งเครื่องที่ถูกเจาะระบบ ซึ่งเจ้าของไม่รู้ตัว และเครื่องเจลเบรกที่เจ้าของตั้งใจทำไว้ ล่าสุดยื่นเรื่องขอรับสิทธิบัตรเทคโนโลยีวิธีการหลากหลายเพื่อการระบุตัวตน และการปิดการทำงานโปรแกรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความเคลื่อนไหวใหม่ล่าสุดที่แปลได้อีกนัยหนึ่งว่า ค่ายไอทีผลไม้กำลังหาทางตัดทางโตขบวนการเจลเบรก (jailbreak) หรือการ”แหกคุก”ที่สาวก iPhone และ iPad ทั่วโลกนิยมชมชอบ…..
ที่ผ่านมา แอปเปิลไม่สามารถดำเนินการทางกฎหมายใดๆได้เพราะรัฐบาลสหรัฐฯเปิดเสรีด้วยการ ตีความให้การเจลเบรกเป็นเรื่องไม่ผิดกฎหมาย โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพิ่งออกแถลงการณ์เมื่อกลางเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ว่าการดัดแปลงเครื่องเพื่อให้สามารถใช้โปรแกรมที่ถูกกฎหมายนั้นสามารถทำได้ อย่างถูกต้อง ทำให้การเจลเบรกเพื่อใช้โปรแกรมข้ามค่ายอย่าง Google Voice บน iPhone รวมถึงการปลดล็อกเครื่องเพื่อใช้บริการเครือข่ายอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องผิด แม้แอปเปิลจะไม่ยินยอมก็ตาม…..
เป็นข้อความบางส่วนที่ผมเอามาให้ชม จากนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคลจากผมนะครับโดยอาศัยจากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการนี้โดยตรง
ผมมองว่าการเจลเบรคถ้าเอาเข้าใจจริงๆนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ผิดนะ ครับ มันก็เหมือนการที่เราเอารถยนต์มาแต่งโดยใส่ล้อแม็ก ใส่สิ่งสวยงามหรืออื่นๆจากที่ทางศูนย์ไม่มีให้เท่านั้นเอง บางคนอาจจะปรับแต่งเพิ่มแรงม้าให้รถซะอีก ไอโฟนก็เหมือนกันครับการเจลเบรคมันก็เหมือนการที่เราปรับแต่งไอโฟนให้สามารถ ทำในสิ่งที่ไอโฟนควรทำได้
การเจลเบรคยังคงถูกกฎหมายตราบใดที่เราไม่ได้ใช้แอปพลิเคชันที่ละเมิด ลิขสิทธิ์ หรือที่เราเรียกว่าโปรแกรมแค็ก(crack) นั่นเอง การใช้แอปพลิเคชันแค็กมันเป็นการละเมิดสิทธิ์ที่ผิดแบบเต็มประตูครับ จุดนี้ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลย
การเจลเบรคนั้นเป็นสิ่งที่ดีอยู่เยอะแต่ในทางกลับกันก็มีความเสี่ยงและก็ มีข้อเสียเช่นกัน ได้แก่ เสี่ยงต่อการทำงานผิดพลาดของอุปกรณ์ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์, เสี่ยงต่อความปลอดภัยของข้อมูลและความเสี่ยงต่อการโดนคุกคามจากผู้ที่ไม่ หวังดี เนื่องจากเจลเบรคเป็นการหาช่องโหว่ของไอโฟนแล้วก็ทำการดัดแปลง ซึ่งแอ็คเกอร์ถ้าไม่หวังดีก็จะใช้ช่องนี้จัดการเราได้เช่นกัน
อ่านมาถึงจุดนี้ผมมองเลยว่าแอปเปิ้ลไม่น่าจะทำแบบนั้นได้เพราะมีสิทธิ์ ที่จะโดนฟ้องสูงมาก อย่าลืมว่ากฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคที่อเมริกาสูงกว่าบ้านเรากี่ร้อยเท่า เรื่องนี้ถ้าเกิดจริงต้นแอปเปิ้ลมีหวังโยกเยกแน่นอน
ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับแล้วท่านหละคิดว่าไงบ้าง โพสบอกได้ที่ส่วนคอมเมนต์นะครับ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘