วิชาการพูด 55
เตรียมตัวเตรียมใจไปสอบสัมภาษณ์
พวกเราคิดกันแล้วหรือยังว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไรดี คำถามนี้อาจดูธรรมดา "ก็ทำงานน่ะสิ" ใช่! แต่ก่อนจะ เข้าไปสู่ระบบการทำงาน เราต้องผ่านอะไรบ้าง ไม่เพียงแต่การกรอกใบสมัครสาธยายคุณลักษณะพิเศษ เราต้องเข้า สู่การสัมภาษณ์ซึ่งต้องใช้การพูดสนทนา ตอบคำถามสด ๆ ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง และเวลาครึ่งชั่วโมงนี้เองที่จะตัดสิน เวลาเรียนทั้ง ๔ ปีของเรา เราจะยอมเหรอกับคำตอบขององค์กรที่ว่า "งานของเรายังไม่เหมาะกับคุณ" นั่นเพราะงาน ไม่เหมาะกับเราหรือเราไม่เหมาะกับงาน ความหมายก็ไม่ต่างกันนัก เพียงแต่แบบแรกฟังดูดีและไม่ทำลายจิตใจมากนัก แต่ก็คงไม่มีใครปรารถนาประโยครักษาน้ำใจนี้เป็นแน่
วันนี้ ดิฉันมีวิธีการเตรียมตัวเพื่อสร้างความมั่นใจและเทคนิคที่จะทำให้เราได้เปรียบผู้สมัครท่านอื่น ไม่ยากเลยนะคะ เพียงเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ที่ดิฉันพบเจอจากหนังสือ คู่มือการสมัครงาน ฉบับทองของอาจารย์ ถาวร โชติชื่น ผู้คัดเลือกคนเข้าทำงานและแนะนำวิธีหางานให้กับนิสิตนักศึกษาตามสถาบันต่าง ๆ ทั่วประเทศ หลักการเตรียมตัวนี้มี ๕ หลัก ๕ รู้ ซึ่งดิฉันตั้งชื่อเอาว่า ๕ รู้พิชิตตำแหน่งเป้าหมาย ประกอบด้วย
๑. รู้ตนเอง
๒. รู้วิชา
๓. รู้องค์กร
๔. รู้งาน
๕.รู้คำถาม
ข้อแรก รู้ตนเอง หมายถึง การรู้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเอง และถ่ายทอดได้ดี บางคนคิดว่าง่ายจะตายเรื่องของตัวเอง ทำไมจะไม่รู้ และบางคนที่ว่านี้ก็ตกม้าตายตั้งแต่คำถามแรก "เล่าประวัติความเป็นมาของคุณหน่อยสิครับ" ตันเลย ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน อะไรบ้าง แต่การเล่าให้น่าสนใจ ไม่เยิ่นเย้อ ต้องมีการเตรียมตัวมาก่อนเพื่อจัดลำดับเรื่อง ความคิดให้ลงตัว และใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง
เรื่องที่ควรพูดก็คือ ชีวิตความเป็นอยู่ ครอบครัว การศึกษา ประวัติการทำงาน และกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเรื่องทั้งหมดต้องไม่โกหก ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง แต่ก็ต้องมีการใช้วิธีที่ถูกต้อง เพราะไม่เช่นนั้นเรื่องดีๆที่พูดอยู่อาจมีอันตกไป เพราะคำเพียงคำเดียว เหมือนบางคนจีบสาวคนรักก็สาธยายข้อดีข้อเสียอย่างตรงไปตรงมา
พวกเราคิดกันแล้วหรือยังว่าเรียนจบแล้วจะไปทำอะไรดี คำถามนี้อาจดูธรรมดา "ก็ทำงานน่ะสิ" ใช่! แต่ก่อนจะ เข้าไปสู่ระบบการทำงาน เราต้องผ่านอะไรบ้าง ไม่เพียงแต่การกรอกใบสมัครสาธยายคุณลักษณะพิเศษ เราต้องเข้า สู่การสัมภาษณ์ซึ่งต้องใช้การพูดสนทนา ตอบคำถามสด ๆ ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง และเวลาครึ่งชั่วโมงนี้เองที่จะตัดสิน เวลาเรียนทั้ง ๔ ปีของเรา เราจะยอมเหรอกับคำตอบขององค์กรที่ว่า "งานของเรายังไม่เหมาะกับคุณ" นั่นเพราะงาน ไม่เหมาะกับเราหรือเราไม่เหมาะกับงาน ความหมายก็ไม่ต่างกันนัก เพียงแต่แบบแรกฟังดูดีและไม่ทำลายจิตใจมากนัก แต่ก็คงไม่มีใครปรารถนาประโยครักษาน้ำใจนี้เป็นแน่
วันนี้ ดิฉันมีวิธีการเตรียมตัวเพื่อสร้างความมั่นใจและเทคนิคที่จะทำให้เราได้เปรียบผู้สมัครท่านอื่น ไม่ยากเลยนะคะ เพียงเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ที่ดิฉันพบเจอจากหนังสือ คู่มือการสมัครงาน ฉบับทองของอาจารย์ ถาวร โชติชื่น ผู้คัดเลือกคนเข้าทำงานและแนะนำวิธีหางานให้กับนิสิตนักศึกษาตามสถาบันต่าง ๆ ทั่วประเทศ หลักการเตรียมตัวนี้มี ๕ หลัก ๕ รู้ ซึ่งดิฉันตั้งชื่อเอาว่า ๕ รู้พิชิตตำแหน่งเป้าหมาย ประกอบด้วย
๑. รู้ตนเอง
๒. รู้วิชา
๓. รู้องค์กร
๔. รู้งาน
๕.รู้คำถาม
ข้อแรก รู้ตนเอง หมายถึง การรู้ข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเอง และถ่ายทอดได้ดี บางคนคิดว่าง่ายจะตายเรื่องของตัวเอง ทำไมจะไม่รู้ และบางคนที่ว่านี้ก็ตกม้าตายตั้งแต่คำถามแรก "เล่าประวัติความเป็นมาของคุณหน่อยสิครับ" ตันเลย ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน อะไรบ้าง แต่การเล่าให้น่าสนใจ ไม่เยิ่นเย้อ ต้องมีการเตรียมตัวมาก่อนเพื่อจัดลำดับเรื่อง ความคิดให้ลงตัว และใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง
เรื่องที่ควรพูดก็คือ ชีวิตความเป็นอยู่ ครอบครัว การศึกษา ประวัติการทำงาน และกิจกรรมทางสังคม ซึ่งเรื่องทั้งหมดต้องไม่โกหก ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง แต่ก็ต้องมีการใช้วิธีที่ถูกต้อง เพราะไม่เช่นนั้นเรื่องดีๆที่พูดอยู่อาจมีอันตกไป เพราะคำเพียงคำเดียว เหมือนบางคนจีบสาวคนรักก็สาธยายข้อดีข้อเสียอย่างตรงไปตรงมา