วิชาการพูด 09
ฝรั่งคนนี้มีดีที่เขารักไทย
เพื่อน ๆ ครับ หากว่าเพื่อน ๆ เคยเจอฝรั่งตัวใหญ่ผมบางที่ชอบบอกพวกเราว่าภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ตามรายการโทรทัศน์หรือรายการโชว์ต่าง ๆ นั้น เพื่อนคงจะยังไม่ทราบนะครับว่าเขาเป็นใครแต่ถ้าหากพูดถึงรายการ Talk of the town หรือรายการ English is easy แล้วเพื่อน ๆ คงจะร้องอ๋อใช่ไหมล่ะครับว่าเขาคนนี้คือใคร ใช่แล้วครับเขาคือฝรั่งอารมณ์ดีที่ชื่อแอนดรูว์ บิ๊กส์ นั้นเอง จากการที่เขามักจะเสนอทัศนะและมุมมองอย่างตรงไปตรงมาแบบฝรั่งและมีความคิดที่แวกแนวออกไปทำให้ผู้ชายคนนี้เป็นที่สะดุดตาของใครต่อใครหลาย ๆ คน และด้วยหัวใจที่รักประเทศไทย
สุดชีวิตจากคอลัมน์ต่าง ๆ ในหนังสือที่เขาเขียนหรือรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฝรั่งขี้เล่น อารมณ์ดีคนนี้เข้ามาอยู่กลางดวงใจของคนไทยหลาย ๆ คน รวมทั้งตัว
กระผมด้วยเช่นกัน
ย้อนหลังไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว มีฝรั่งออสซี่นายหนึ่งนามว่า แอนดรูว์ บิ๊กส์ ต้องการเดินทาง
เพื่อไปหาประสบการณ์แปลกใหม่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่บังเอิญเหลือเกินที่การเดินทางครั้งนั้นจำเป็นต้องแวะเมืองไทยอย่างน้อย 3 วัน เพราะเป็นข้อบังคับของตั๋วเครื่องบินที่เข้าซื้อหามาด้วยราคาที่ถูกกว่าสายการบินอื่น
จากระยะเวลา 3 วัน ที่ไม่เต็มใจอยู่เมืองไทยนัก กลับกลายเป็น 3 เดือนที่เขาตระเวนไปตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อดูโบราณสถานของไทยที่เคยอ่านเจอในหนังสือแนะนำประวัติศาสตร์ไทย หลังจากนั้นก็บินไปลอนดอนตามจุดมุ่งหมายเดิม แต่อยู่ได้ไม่นานก็บินกลับมาเมืองไทยอีก เรียกว่าหลงเสน่ห์เมืองไทยเราเข้าแล้วก็ว่าได้
จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 7 ปี ที่เขากินอาหารไทย พูดภาษาไทย เขียนภาษาไทย
เรียนภาษาไทยเคยมีแฟนเป็นคนไทย และติดนิสัยคนไทย แต่สิ่ง ๆ หนึ่งที่ความเป็นไทยไม่สามารถกลืนกินเขาได้คือทัศนะและมุมมองแบบตรงไปตรงมาของฝรั่ง เริ่มต้นจากบทความในหนังสือเนชั่นสุดสัปดาห์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่ได้เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง
ที่ Longman ให้คำนิยามเกี่ยวกับกรุงเทพฯ ว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโสเภณีและวัดสวย เขาก็ได้ให้ทัศนะว่า Longman ไม่ผิดเพราะว่าความจริงแล้วก็คือชื่อเสียงของคนกรุงเทพฯ ที่เราไม่ควรปฏิเสธสิ่งที่ควรจะทำก็คือแก้ปัญหานี้เพราะถ้าเราไม่อยากให้ใครนึกถึงกรุงเทพว่าเป็นแหล่งของโสเภณีเขาก็ควรแก้ไม่ให้มีมากกว่า
จากคอลัมน์นี้ทำให้เขาได้รับการมอบหมายและไว้วางใจให้เขียนคอลัมน์ในฉบับต่อ ๆ
มา จนถึงปัจจุบันนี้เขาได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักของใครหลาย ๆ คน ข้อเขียนในคอลัมน์ของ
เขามีทั้งวิจารณ์ ชื่นชม เสนอแนะ ติเตียนสภาพสังคมไทยต่าง ๆ นา ๆ แต่สิ่ง ๆ หนึ่งที่เขาได้แสดงให้พวกเราได้รับรู้ก็คือ เขาไม่เคยมีอคติต่อคนไทยหรือต่อสังคมไทยเลย แต่เขาถ่ายทอดทัศนะของเขาตามความคิดของเขาเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีข้อเสนอแนะทางแก้ที่ดีกว่ามากมายให้แก่สังคมไทยอีกด้วย เขามักจะยืนยันอยู่เสมอว่าคอลัมน์ที่เขาเขียนนั้นเป็นแค่ความคิดเห็นของเขาเท่านั้นซึ่งมันอาจจะถูกหรือผิดก็ได้
สิ่ง ๆ หนึ่งที่เขาไม่เหมือนใครคือการหาข้อมูลในการพูด หรือการนำไปเขียนในคอลัมน์ต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่เขาจะได้ข้อมูลมาจากการฟังเพราะเขาจะชอบฟังคนไทยพูดคุยกัน เนื่องจากคนไทยเหล่านั้นมักจะไม่รู้ว่าเขาฟังภาษาไทยออก มันจึงเป็นวิธีการเก็บข้อมูลที่ดีมากสำหรับเขา
สิ่ง ๆ นี้นี่เองที่ทำให้กระผมคิดว่าการหาข้อมูลนั้นไม่ใช่แค่การอ่านหรือการดูเท่านั้น แต่การฟังและนำมาประยุกต์ใช้กับความคิดของเราก็เป็นการเก็บข้อมูลที่ดีมากอีกเช่นกัน
ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่กระผมรู้สึกประทับใจในตัวเขามาก ก็คือในคอลัมน์ของเขาฉบับหนึ่งได้บอกว่า คนไทยเวลาเห็นฝรั่งเดินมากับผู้หญิงไทยแล้วมักจะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นโสเภณีไปหมด
ซึ่งจริง ๆ แล้ว คนไทยส่วนใหญ่ก็จะคิดอย่างนั้นจริง ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นความจริงอย่างนั้น
แต่การที่คนไทยคิดอย่างนี้แล้วชอบนินทา ดูหมิ่น หรือว่าให้ผู้หญิงคนนั้นต่าง ๆ นา ๆ ในทัศนะของคุณแอนดรูว์ มองว่า ทำไมเราต้องไปวุ่นวายกับชีวิตของคนแปลกหน้าด้วย ชีวิตเราน่าเบื่อจนกระทั่งเราต้องเอาใจใส่ในเรื่องของชาวบ้านด้วยหรือ? และเขาก็ยังยกสุภาษิตฝรั่งบทหนึ่งที่น่า
สนใจไว้สำหรับเรื่องนี้ก็คือ “ หากคุณไม่เคยทำผิดเลย คุณจึงจะมีสิทธิ์ว่าคนอื่น ”
นอกจากนั้นถ้าหากใครได้ดูเขาทางรายการโทรทัศน์ในฐานะพิธีกรหรือแขกรับเชิญต่าง ๆ
แล้ว ก็จะเห็นว่า ฝรั่งที่ชื่อแอนดรูว์คนนี้เป็นคนที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ อย่างเช่นรายการ รายการหนึ่ง
ที่เขาจะต้องมาแสดงทัศนะคู่กับคุณกฤษณะ จากรายการสาระขัน เขาก็จะสามารถหาเหตุผลมาหักร้างประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจและมักจะแฝงด้วยคติแง่คิดต่าง ๆ ให้ผู้ชมที่ชมรายการได้รู้สึกประทับใจอยู่เสมอ ๆ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝรั่ง แต่อย่างหนึ่งที่เขาก็มักจะบอกอยู่ตลอดเวลาก็คือเขาเป็นคนไทยและกล้าพูดได้ว่าเขาเป็นคนไทยอย่างเต็มภาคภูมิ ในกรณีนี้เขาก็ได้ให้เหตุผลที่ฟังดูแล้วน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่งว่า ตามหลักชีววิทยาได้บอกไว้ว่า เซลล์ในรายกายของคนจะเปลี่ยนทุก ๆ 7 ปีเพราะฉะนั้นตอนนี้เขาก็เป็นคนไทยแล้ว ชีวิตเขาตอนนี้เต็มไปด้วยส้มตำ ปลาร้า ไก่ย่าง ลาบซกเล็กไปหมดแล้ว
จากตรงนี้นี่เองที่ทำให้กระผมรู้สึกภูมิใจในความเป็นคนไทยของผมเป็นยิ่งนัก เพราะขนาดฝรั่งตาน้ำข้าวที่อยู่ไกลแสนไกลยังอยากจะเป็นคนไทย ในขณะที่พวกเราหลายคนกำลัง
มองข้ามความเป็นไทย และหลงใหลอยู่ในวัฒนธรรมตะวันตกเพิ่มมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วถ้าหาก
เราหันกลับมาดูในประเทศของเราก็จะเห็นวัฒนธรรม ปฎิมากรรม และสิ่งสวยงามอีกมากมายใน
ประเทศไทย ซึ่งไม่น้อยหน้าใครและยังน่าค้นหามากยิ่งกว่าอีกด้วย
จนถึงวันนี้คุณแอนดรูว์ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นลูกพ่อขุนอย่างเต็มตัว
และวิชาหนึ่งที่เขาบอกว่าชอบมากก็คือวิชาวรรณคดีไทยเพราะมี กาพย์ โคลง กลอน ฉันท์ ซึ่งมีการสัมผัสคำ มีความไพเราะและงดงามทางภาษายิ่งนัก แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็บอกว่าวิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่ยากมากที่สุดเช่นกัน แต่หลายครั้งที่เรามักจะได้ยินเขาพูดว่า “ ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ” แต่ ณ วันนี้หากกระผมได้มีโอกาสเจอเขาก็อยากจะบอกเขาว่า “ ภาษาไทยง่ายนิดเดียว ”เช่นกัน
เพื่อน ๆ ครับ หากว่าเพื่อน ๆ เคยเจอฝรั่งตัวใหญ่ผมบางที่ชอบบอกพวกเราว่าภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ตามรายการโทรทัศน์หรือรายการโชว์ต่าง ๆ นั้น เพื่อนคงจะยังไม่ทราบนะครับว่าเขาเป็นใครแต่ถ้าหากพูดถึงรายการ Talk of the town หรือรายการ English is easy แล้วเพื่อน ๆ คงจะร้องอ๋อใช่ไหมล่ะครับว่าเขาคนนี้คือใคร ใช่แล้วครับเขาคือฝรั่งอารมณ์ดีที่ชื่อแอนดรูว์ บิ๊กส์ นั้นเอง จากการที่เขามักจะเสนอทัศนะและมุมมองอย่างตรงไปตรงมาแบบฝรั่งและมีความคิดที่แวกแนวออกไปทำให้ผู้ชายคนนี้เป็นที่สะดุดตาของใครต่อใครหลาย ๆ คน และด้วยหัวใจที่รักประเทศไทย
สุดชีวิตจากคอลัมน์ต่าง ๆ ในหนังสือที่เขาเขียนหรือรายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฝรั่งขี้เล่น อารมณ์ดีคนนี้เข้ามาอยู่กลางดวงใจของคนไทยหลาย ๆ คน รวมทั้งตัว
กระผมด้วยเช่นกัน
ย้อนหลังไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว มีฝรั่งออสซี่นายหนึ่งนามว่า แอนดรูว์ บิ๊กส์ ต้องการเดินทาง
เพื่อไปหาประสบการณ์แปลกใหม่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่บังเอิญเหลือเกินที่การเดินทางครั้งนั้นจำเป็นต้องแวะเมืองไทยอย่างน้อย 3 วัน เพราะเป็นข้อบังคับของตั๋วเครื่องบินที่เข้าซื้อหามาด้วยราคาที่ถูกกว่าสายการบินอื่น
จากระยะเวลา 3 วัน ที่ไม่เต็มใจอยู่เมืองไทยนัก กลับกลายเป็น 3 เดือนที่เขาตระเวนไปตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อดูโบราณสถานของไทยที่เคยอ่านเจอในหนังสือแนะนำประวัติศาสตร์ไทย หลังจากนั้นก็บินไปลอนดอนตามจุดมุ่งหมายเดิม แต่อยู่ได้ไม่นานก็บินกลับมาเมืองไทยอีก เรียกว่าหลงเสน่ห์เมืองไทยเราเข้าแล้วก็ว่าได้
จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลา 7 ปี ที่เขากินอาหารไทย พูดภาษาไทย เขียนภาษาไทย
เรียนภาษาไทยเคยมีแฟนเป็นคนไทย และติดนิสัยคนไทย แต่สิ่ง ๆ หนึ่งที่ความเป็นไทยไม่สามารถกลืนกินเขาได้คือทัศนะและมุมมองแบบตรงไปตรงมาของฝรั่ง เริ่มต้นจากบทความในหนังสือเนชั่นสุดสัปดาห์ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ที่ได้เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง
ที่ Longman ให้คำนิยามเกี่ยวกับกรุงเทพฯ ว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยโสเภณีและวัดสวย เขาก็ได้ให้ทัศนะว่า Longman ไม่ผิดเพราะว่าความจริงแล้วก็คือชื่อเสียงของคนกรุงเทพฯ ที่เราไม่ควรปฏิเสธสิ่งที่ควรจะทำก็คือแก้ปัญหานี้เพราะถ้าเราไม่อยากให้ใครนึกถึงกรุงเทพว่าเป็นแหล่งของโสเภณีเขาก็ควรแก้ไม่ให้มีมากกว่า
จากคอลัมน์นี้ทำให้เขาได้รับการมอบหมายและไว้วางใจให้เขียนคอลัมน์ในฉบับต่อ ๆ
มา จนถึงปัจจุบันนี้เขาได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักของใครหลาย ๆ คน ข้อเขียนในคอลัมน์ของ
เขามีทั้งวิจารณ์ ชื่นชม เสนอแนะ ติเตียนสภาพสังคมไทยต่าง ๆ นา ๆ แต่สิ่ง ๆ หนึ่งที่เขาได้แสดงให้พวกเราได้รับรู้ก็คือ เขาไม่เคยมีอคติต่อคนไทยหรือต่อสังคมไทยเลย แต่เขาถ่ายทอดทัศนะของเขาตามความคิดของเขาเท่านั้น นอกจากนั้นยังมีข้อเสนอแนะทางแก้ที่ดีกว่ามากมายให้แก่สังคมไทยอีกด้วย เขามักจะยืนยันอยู่เสมอว่าคอลัมน์ที่เขาเขียนนั้นเป็นแค่ความคิดเห็นของเขาเท่านั้นซึ่งมันอาจจะถูกหรือผิดก็ได้
สิ่ง ๆ หนึ่งที่เขาไม่เหมือนใครคือการหาข้อมูลในการพูด หรือการนำไปเขียนในคอลัมน์ต่าง ๆ นั้น ส่วนใหญ่เขาจะได้ข้อมูลมาจากการฟังเพราะเขาจะชอบฟังคนไทยพูดคุยกัน เนื่องจากคนไทยเหล่านั้นมักจะไม่รู้ว่าเขาฟังภาษาไทยออก มันจึงเป็นวิธีการเก็บข้อมูลที่ดีมากสำหรับเขา
สิ่ง ๆ นี้นี่เองที่ทำให้กระผมคิดว่าการหาข้อมูลนั้นไม่ใช่แค่การอ่านหรือการดูเท่านั้น แต่การฟังและนำมาประยุกต์ใช้กับความคิดของเราก็เป็นการเก็บข้อมูลที่ดีมากอีกเช่นกัน
ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่กระผมรู้สึกประทับใจในตัวเขามาก ก็คือในคอลัมน์ของเขาฉบับหนึ่งได้บอกว่า คนไทยเวลาเห็นฝรั่งเดินมากับผู้หญิงไทยแล้วมักจะคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นโสเภณีไปหมด
ซึ่งจริง ๆ แล้ว คนไทยส่วนใหญ่ก็จะคิดอย่างนั้นจริง ๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นความจริงอย่างนั้น
แต่การที่คนไทยคิดอย่างนี้แล้วชอบนินทา ดูหมิ่น หรือว่าให้ผู้หญิงคนนั้นต่าง ๆ นา ๆ ในทัศนะของคุณแอนดรูว์ มองว่า ทำไมเราต้องไปวุ่นวายกับชีวิตของคนแปลกหน้าด้วย ชีวิตเราน่าเบื่อจนกระทั่งเราต้องเอาใจใส่ในเรื่องของชาวบ้านด้วยหรือ? และเขาก็ยังยกสุภาษิตฝรั่งบทหนึ่งที่น่า
สนใจไว้สำหรับเรื่องนี้ก็คือ “ หากคุณไม่เคยทำผิดเลย คุณจึงจะมีสิทธิ์ว่าคนอื่น ”
นอกจากนั้นถ้าหากใครได้ดูเขาทางรายการโทรทัศน์ในฐานะพิธีกรหรือแขกรับเชิญต่าง ๆ
แล้ว ก็จะเห็นว่า ฝรั่งที่ชื่อแอนดรูว์คนนี้เป็นคนที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ อย่างเช่นรายการ รายการหนึ่ง
ที่เขาจะต้องมาแสดงทัศนะคู่กับคุณกฤษณะ จากรายการสาระขัน เขาก็จะสามารถหาเหตุผลมาหักร้างประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจและมักจะแฝงด้วยคติแง่คิดต่าง ๆ ให้ผู้ชมที่ชมรายการได้รู้สึกประทับใจอยู่เสมอ ๆ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะเป็นฝรั่ง แต่อย่างหนึ่งที่เขาก็มักจะบอกอยู่ตลอดเวลาก็คือเขาเป็นคนไทยและกล้าพูดได้ว่าเขาเป็นคนไทยอย่างเต็มภาคภูมิ ในกรณีนี้เขาก็ได้ให้เหตุผลที่ฟังดูแล้วน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่งว่า ตามหลักชีววิทยาได้บอกไว้ว่า เซลล์ในรายกายของคนจะเปลี่ยนทุก ๆ 7 ปีเพราะฉะนั้นตอนนี้เขาก็เป็นคนไทยแล้ว ชีวิตเขาตอนนี้เต็มไปด้วยส้มตำ ปลาร้า ไก่ย่าง ลาบซกเล็กไปหมดแล้ว
จากตรงนี้นี่เองที่ทำให้กระผมรู้สึกภูมิใจในความเป็นคนไทยของผมเป็นยิ่งนัก เพราะขนาดฝรั่งตาน้ำข้าวที่อยู่ไกลแสนไกลยังอยากจะเป็นคนไทย ในขณะที่พวกเราหลายคนกำลัง
มองข้ามความเป็นไทย และหลงใหลอยู่ในวัฒนธรรมตะวันตกเพิ่มมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วถ้าหาก
เราหันกลับมาดูในประเทศของเราก็จะเห็นวัฒนธรรม ปฎิมากรรม และสิ่งสวยงามอีกมากมายใน
ประเทศไทย ซึ่งไม่น้อยหน้าใครและยังน่าค้นหามากยิ่งกว่าอีกด้วย
จนถึงวันนี้คุณแอนดรูว์ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นลูกพ่อขุนอย่างเต็มตัว
และวิชาหนึ่งที่เขาบอกว่าชอบมากก็คือวิชาวรรณคดีไทยเพราะมี กาพย์ โคลง กลอน ฉันท์ ซึ่งมีการสัมผัสคำ มีความไพเราะและงดงามทางภาษายิ่งนัก แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็บอกว่าวิชาภาษาไทยเป็นวิชาที่ยากมากที่สุดเช่นกัน แต่หลายครั้งที่เรามักจะได้ยินเขาพูดว่า “ ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ” แต่ ณ วันนี้หากกระผมได้มีโอกาสเจอเขาก็อยากจะบอกเขาว่า “ ภาษาไทยง่ายนิดเดียว ”เช่นกัน