ถอดเทปสัมภาษณ์ชีวิตคุณครูไม่ใหญ่ (ตอนที่ 2) หน้า 02

ท่านก็ชวนไปเลี้ยงที่หน้ามหาลัย สั่งเหล้ามาเลย ท่านก็นึกว่ากินเหล้า ท่านก็คงนึกว่าหลวงพ่อกินเหล้ามั้งถึงเล่นปาหี่ได้ ท่านไม่รู้อะไร ซึ่งหลวงพ่อไม่ได้กินเลย แต่ว่าไอ้ความรู้ที่สั่งสมมามันก็มาคล่องตัวในตอนนั้น นี่ท่านก็แจกเหล้าไปเรื่อยๆๆๆพอจะมาถึงหลวงพ่อ มันแปลกอยู่นะ เพื่อนๆของหลวงพ่อเค้ารักหลวงพ่อ จะแก้ให้ โห เป็นโรคกระเพาะ เป็นความดันสูง ท่านบอก "ความดันสูงกินแล้วก็ต่ำ" ท่านว่ายังงั้น "ความดันต่ำกินแล้วก็สูง" ท่านก็ว่าของท่านไปยังงั้น พอมาถึงหลวงพ่อ "ไม่ดื่ม" ท่านถาม "ทำไมไม่ดื่ม?" บอก "มีศีล รักษาศีล" ไอ้คำนี้เนี่ยพูดในวงเหล้าหลวงพ่อว่าเป็นคำที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเลย คำว่ารักษาศีลในวงเหล้าเนี่ย ใครว่าเข้าวงเหล้าแล้วจะต้องคล้อยตามสังคม กลัวเค้าไม่คบ หรือคุยกับเค้าไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย ไม่จริง เพราะหลวงพ่อเคยมาแล้วเนี่ย เพราะคำว่ารักษาศีลคำเดียวเนี่ยฉุดหมดทั้งวง เลิกเหล้าแล้วก็เข้าวัด เพราะคำว่ารักษาศีล ศีล ๕ แค่คำเดียวเนี่ยแหละ แล้วหลวงพ่อทัตตะท่านก็มาสารภาพในภายหลังว่า ถ้าหลวงพ่อหยิบแก้วเหล้านั้นจิบแม้แต่นิดเดียวคงไม่มีท่านอยู่ในวัดพระธรรมกาย เพราะว่าไม่มีบุคคลที่จะเป็นตัวอย่างในการรักษาศีล เพราะฉะนั้นการรักษาศีล ๕ ของเรานั้นเนี่ยสามารถจะเปลี่ยนแปลงชีวิตจิตใจของเค้าให้เกิดใหม่ได้ และก็ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องที่จะเป็นนักสร้างบารมีที่ดี เนี่ยในตอนช่วงนั้นหลวงพ่อใจเข้มแข็งอย่างงั้นเลย แม้แต่ครูบาอาจารย์นี่จะมาคะยั้นคะยอให้ดื่ม ไม่ดื่ม ก็จะบอกกับท่านดีๆ อย่างมากท่านก็จะล้อว่า "ศีล ๕ มีอะไรวะ?" ท่านแกล้งล้อไปงั้น พอเราพูดไปเรื่อยๆๆ เอ๊ะ รู้สึกท่านเกรงใจเหมือนกัน แปลกเหมือนกันนะ

ขี้เมาเนี่ยเกรงใจคนรักษาศีล เพื่อนหลวงพ่อเวลาไปกินเหล้า มันจะให้นั่งโต๊ะก็ได้ แต่เค้าตั้งฉายาให้อีกอย่างเวลาไปนั่งโต๊ะกับเพื่อนๆ ท่านเรียก "ขุนกับแกล้มวินาศ" กินแต่กับอย่างเดียวเท่านั้นน่ะ พอเพื่อนเมาเราก็จุก แล้วเวลาอาเจียนอาเจียนพร้อมกัน มันจุกมันล้น ไอ้นั่นเค้าอาเจียนเพราะเหล้าไอ้เราก็อาเจียนเพราะกับ จุก (หัวเราะ) ขุนกับแกล้มวินาศ แล้วตอนหลังมันไม่ชวนเข้าวงเหล้าอีกเลย เลิก มีกี่จานกี่จานเรียบหมดเลย เราก็รีบกินกับซะก่อนงั้นนะ (หัวเราะ) แล้วก็เป๊ปซี่ซักขวด ปรากฎว่ากับมันเข้าไม่ค่อยได้ มันจุก หลังๆมันก็ไม่เรียกเราเข้าวงแล้ว พอเราเข้าวงมันก็อายเรา ก็เป็นอย่างงั้น เนี่ยเพราะเหตุนั้นทำให้หลวงพ่อทัตตะท่านเข้าวัดแล้วก็มาเป็นกัลยาณมิตรให้กับพวกเราได้ เพราะไม่ดื่มเหล้าแก้วนั้น เสร็จแล้วทีนี้ท่านก็ตามหาสิ พอหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไป วันรุ่งขึ้น[หลวงพ่อทัตตะ]ตามหาแล้ว เอ๊ะแปลกดีเหมือนกันนะ ตามหาเลยว่า เอ๊ ชื่ออะไร อยู่ที่หอไหน ไปถามว่าหลวงพ่อ[คุณครูไม่ใหญ่]ชื่ออะไร อยู่ที่หอไหน ไปเที่ยวถามทั่ว ถามๆเรื่อยเลย ตามไปเจอที่หอ พอมาถึง "ไป" ท่านทำเสียงต่ำๆ เสียงที่ออกมาจากในคอ ทำคอเกร็งๆใหญ่ๆหน่อยนะ แล้วเสียงออกมา พูดเสียงเบส ต่ำๆ เสียงเขย่าวิญญาณอย่างงั้นนะ (หัวเราะ) แล้วก็พาไปเลี้ยง แต่ครั้งนี้เลี้ยงข้าว เลี้ยงข้าวนี้ก็คุยกันละ "เรียนสมาธิเป็นไง เรียนที่ไหน เรียนแล้วเป็นยังไง เรียนแล้วเอาไปใช้อะไรได้บ้าง" ท่านก็ เดี๋ยวก็มาชวนคุยอีกละ วันนึงมาหาตั้งหลายครั้ง หลวงพ่อทัตตะเนี่ย ไม่ทราบว่าหลวงพ่อเสน่ห์แรงอะไรอย่างงั้น (หัวเราะ) แล้วท่านจะเป็นคนขี่จักรยานแล้วให้หลวงพ่อซ้อนท้ายไป ซ้อนๆๆไป พอนั่งปั๊บก็ถามแต่ไอ้เรื่องสมาธิเนี่ย หลวงพ่อทัตตะ

หนักเข้าๆท่านก็ชวนไปนอนคอกวัว[หลวงพ่อทัตตะเรียนเกี่ยวกับปศุสัตว์] พอชวนหลายๆครั้งเข้าหลวงพ่อก็ใจอ่อน แต่อ่อนไปอยู่กับท่านนี่โดนท่านซัก ไปอยู่ไม่ได้ไปอยู่เฉยๆนะ โอ้โหย โดนซักซะอ่อนใจเลย ใจอ่อนประเดี๋ยวจะอ่อนใจเหมือนกันนะ แหม พอไปถึงวันแรกท่านให้นอนบนเตียงของท่านทั้งที่ท่านเป็นรุ่นพี่ ทำเตียง มุ้งกางอย่างดี ส่วนท่านนอนข้างล่าง แต่ยังไม่นอน พอนอนปั๊บก็ถามธรรมะเลย ถามปัญหาเลย คุยกันจนถึงตี ๓ เพราะงั้นชั่วโมงเช้าเรียนก็ไม่ได้เรียนหรอกเพราะนอนตี ๓ มันง่วงจะตาย "ไหน ไหนเดินบนน้ำดูซิ" "ไหน เอาฌานรองเท้าเลย" เนี่ยท่านจะให้ทำให้ดูไง "ไหน เอาฌานไว้เท้าเดินบนน้ำดู" "ไหน เหาะ....." (หัวเราะ) อะไรสารพัด  ......พิลึกกึกกือแล้วก็ไม่ซ้ำคำถาม และมันก็แปลกเหมือนกันทำไมหลวงพ่อตอบ.....ขนาดนี้ บางทีก็ถาม คำตอบอันนี้ถูกใจท่าน เพราะท่านไปถามครูบาอาจารย์หลายๆแห่งแล้วตอบท่านไม่ได้ ท่านถามว่า "นรก สวรรค์มีจริงมั้ย?" ครูบาอาจารย์อื่นท่านก็ตอบว่า "เอ๊ ในพระไตรปิฏกว่ามีนะ มันน่ามี" มักจะได้ยินอย่างงั้น ท่านก็เอ๊ ท่านไม่ชอบเท่าไหร่ ท่านเจอคำตอบแบบนี้ พอมาถามหลวงพ่อ หลวงพ่อก็บอกว่า "มี จะไปดูมั้ยหละ?" หลวงพ่อตอบไปเลยนะ "จะไปตอนนี้ก็ได้ ถ้านั่งให้ได้ถึงตอนนี้" "มันต้องไปดูด้วยกัน" แล้วก็ให้ทำจิตอย่างงี้ๆ เอ๊ะ ท่านชอบแฮะ แล้วท่านถามว่า "พรหมมีจริงมั้ย?" "มีจริง" "มีกี่หน้า?" จะเอาอะไรกับพรหมนักหนา "มีหน้าเดียว" (หัวเราะ) "แล้วทำอะไรถึงไปเกิดเป็นหรพม?" ท่านก็ว่าเรื่องธรรมะซักไปเรื่อย ไม่ซ้ำกันเลยอย่างเงี้ย โอ้โห เป็นปีๆ หลวงพ่อทนไม่ได้ทีก็กลับมาหอที ท่านก็อ้าวไปตามอีกแล้ว เราใจอ่อนก็มาอีกแล้ว (หัวเราะ)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘