Reversal Diet หุ่นสวย สุขภาพดี โดยไม่ต้องพึ่งยา
Reversal Diet คือ อาหารที่คืนสมดุลและสุขภาพที่ดีให้กับร่างกายอีกครั้ง
โค เลสเตอรอลคือสาเหตุของหลายๆ โรค ดังนั้นถ้าคุณกินอาหารที่มีไขมันร่างกายคุณจะสะสมไขมันเพิ่มขึ้นทำให้คุณ อ้วนง่ายดาย หากเทียบกับการกินแป้งจำนวนเท่ากัน อย่าลืมว่าไขมัน 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่ ขณะที่แป้งและโปรตีนให้พลังงานเพียงกึ่งเดียว คือ 4 แคลอรี่
จากการศึกษาในสัตว์ทดลองโดย Dr. Roy Walford ULCA และ Dr. Edward Masoro , University of Texas พบว่าสัตว์สามารถยืดอายุไปได้อีก 50 % ของอายุเฉลี่ย เมื่อถูกเลี้ยงดูด้วยอาหารที่ให้แคลอรี่น้อยลง เรื่องนี้จะเป็นจริงในคนหรือไม่อย่างไรไม่มีใครตอบได้ เพราะไม่มีใครศึกษา แต่มีผู้กำหนดอาหารชนิดนี้ไว้ดังนี้
1. ไขมันต่ำ และมีโคเลสเตอรอลต่ำกว่า 5% ต่อวัน
2. พลังงานที่ได้จากไขมันต้องน้อยกว่า 10 % ต่อวัน และควรเป็นไขมันไม่อิ่มตัว (Polyunsaturated หรือ monounsaturated )
3. พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต หรือ กลุ่มแป้ง ถึง 70 - 75 % ต่อวัน
4. พลังงานจากโปรตีน หรืออาหารหมู่ ถั่ว งา ธัญพืช 15 - 20 % ต่อวัน
วิธีการเลือกกินอาหารหมู่คาร์โบไฮเดรต
อาหารหมู่คาร์โบไฮเดรต หรือหมู่แป้ง นี้ยังแบ่งได้เป็น 2 พวก คือ พวกแป้งแบบชั้นเดียว และแป้งแบบหลายชั้นเชิง (เชิงซ้อน)
แป้ง ชั้นเดียว หรือ simple carbohydrate ได้แก่ แอลกอฮอล์ น้ำผึ้ง น้ำตาล ซึ่งจะให้พลังงานทันที่ที่ตกถึงท้อง ไม่ต้องเสียเวลาสันดาปให้วุ่นวาย เหนื่อยแรง กินเท่าไรก็ไม่ค่อยรู้สึกอิ่ม ไม่อยู่ท้อง จึงมักกินมากกว่าจำเป็นในแต่ละวัน เมื่อเหลือใช้ในร่างกายยังแปรรูปไปเป็นไขมันได้ง่ายด้วย
ส่วนแป้งหลาย ชั้น(เชิงซ้อน) หรือ complex carbohydrate คือ พวกธัญพืช เช่น ข้าว มัน เผือก แครอท ลูกเดือย เป็นต้น อาหารเหล่านี้เมื่อสันดาปจำต้องใช้พลังงานความร้อนในร่างกายจำนวนมากเพื่อ ย่อยให้กลายเป็นน้ำตาล ต้องใช้เวลา และเนื่องจากมีกากมากจึงทำให้อิ่มท้องอยู่นานและอิ่มไว ไม่ต้องรับประทานมากก็รู้สึกอิ่ม นอกจากนี้ยังแปรเป็นไขมันได้ยากกว่าแบบแรก
วิธีการเลือกกินอาหารหมู่โปรตีนการ รับประทานโปรตีนมากมีผลเสียต่อร่างกายพอๆ กับการขาดโปรตีน เราพบว่าสัตว์ทดลองที่เลี้ยงด้วยโปตีนสูงมากๆ ตายเร็วกว่าพวกที่กินธัญพืชอย่างเดียว
โปรตีนเมื่อย่อยแล้วจะได้กรดอะ มิโน (amino acids ) ทั้งสิ้น 22 ชนิด ซึ่งสามารถสร้างโปรตีนได้หลายล้านแบบ ถ้าจะเปรียบเทียบกับตัวอักษร และพยัญชนะที่สามารถสร้างคำได้เป็นล้านคำนั่นเอง ร่างกายคนเราผลิตกรดอะมิโน ได้เองอยู่แล้วถึง 13 ตัว อีก 9 ตัวเรียกว่า กรดอะมิโนจำเป็น (essential amino acids) ผลิตเองไม่ได้ต้องได้จากอาหารเท่านั้น ใน 9 ตัวนี้มีเพียง 3 ตัวเท่านั้นที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อร่างกาย คือ lysine , tryptophan และ methionine ทั้งในธัญพืชหรือเนื้อสัตว์ให้กรดอะมิโน เพียงแต่โปรตีนจากสัตว์มักจะแถมไขมันอิ่มตัว และ โคเลสเตอรอลมาด้วย ซึ่งข้าวที่เรากินกันทุกวันนี่แหละมี tryptophan และ methionine สูง แต่ lysine ต่ำมาก ตรงข้ามอาหารประเภทถั่ว มี lysine สูง แต่ tryptophan และ methionine ต่ำ
จึงมีการแนะนำให้กินข้าว 2 ส่วน ถั่ว งา ชนิดต่างๆ 1 ส่วน ก็จะได้โปรตีนค่อนข้างครบ ขณะเดียวกันก็ลดของมันของหวานลงให้มาก สำหรับไข่ ดิฉันรู้สึกว่าเราจะกลัวไข่กันจนเกินเหตุ วิธีปรุงไข่ดูจะน่ากลัวกว่าตัวไข่เอง อย่างน้อยไข่ขาวก็เป็นอาหารโปรตีนสุดวิเศษมีกรดอะมิโนครบถ้วนทุกตัว
ดัง นั้นจึงขอแนะนำให้กินไข่ขาวได้วันละ 2 - 3 ฟอง อย่าเจียว อย่าทอด ใช้ดาวไข่ในน้ำ ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ชนิดพวกต้องใส่น้ำตาล เช่น ไข่ลูกเขย หรือ ไข่พะโล้ควรหลีกเลี่ยงให้มาก
นอกจากไข่ก็เห็นจะเป็นนมที่มีโปรตีน สูง หากเป็นนมพร่องไขมัน หรือนมขาดมันเนย ชนิดที่เรียกว่า Skim milk เป็นประโยชน์ แต่รสชาติไม่มันไม่หอม หลายคนไม่ชอบ แต่นมประเภทนี้คุณนำมาใช้แทนกะทิทำแกงแบบไทยๆ เราได้ เช่น แกงเขียวหวาน พะแนงต่างๆ และทำของหวานได้ด้วย
การเลี่ยงการกินไขมันนั้นการปรุง แต่งอาหารเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน โดยเฉพาะน้ำมันที่ใช้ทอด เจียว ผัด เป็นตัวกระสายน้ำเอาโคเลสเตอรอลฝากไว้กับอาหารทุกจาน ดิฉันขอเน้นตรงนี้เสียเลยว่าตับของเราเป็นอวัยวะที่สร้างโคเลสเตอรอลให้ร่าง กายเราได้อย่างพอเพียง คุณไม่จำเป็นต้องเติมแต่งด้วยการกินโคเลสเตอรอลเพิ่มแต่ประการใดเลย
โดย สรุปแล้วอาหารหวนคืนสุขภาพก็คือ อาหารมังสวิรัต ที่มีกรรมวิธีการปรุงชนิดที่ใช้ไขมันน้อยที่สุด บวกกับไข่ขาว และนมขาดมันเนยนั่นเอง
โค เลสเตอรอลคือสาเหตุของหลายๆ โรค ดังนั้นถ้าคุณกินอาหารที่มีไขมันร่างกายคุณจะสะสมไขมันเพิ่มขึ้นทำให้คุณ อ้วนง่ายดาย หากเทียบกับการกินแป้งจำนวนเท่ากัน อย่าลืมว่าไขมัน 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่ ขณะที่แป้งและโปรตีนให้พลังงานเพียงกึ่งเดียว คือ 4 แคลอรี่
จากการศึกษาในสัตว์ทดลองโดย Dr. Roy Walford ULCA และ Dr. Edward Masoro , University of Texas พบว่าสัตว์สามารถยืดอายุไปได้อีก 50 % ของอายุเฉลี่ย เมื่อถูกเลี้ยงดูด้วยอาหารที่ให้แคลอรี่น้อยลง เรื่องนี้จะเป็นจริงในคนหรือไม่อย่างไรไม่มีใครตอบได้ เพราะไม่มีใครศึกษา แต่มีผู้กำหนดอาหารชนิดนี้ไว้ดังนี้
1. ไขมันต่ำ และมีโคเลสเตอรอลต่ำกว่า 5% ต่อวัน
2. พลังงานที่ได้จากไขมันต้องน้อยกว่า 10 % ต่อวัน และควรเป็นไขมันไม่อิ่มตัว (Polyunsaturated หรือ monounsaturated )
3. พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต หรือ กลุ่มแป้ง ถึง 70 - 75 % ต่อวัน
4. พลังงานจากโปรตีน หรืออาหารหมู่ ถั่ว งา ธัญพืช 15 - 20 % ต่อวัน
วิธีการเลือกกินอาหารหมู่คาร์โบไฮเดรต
อาหารหมู่คาร์โบไฮเดรต หรือหมู่แป้ง นี้ยังแบ่งได้เป็น 2 พวก คือ พวกแป้งแบบชั้นเดียว และแป้งแบบหลายชั้นเชิง (เชิงซ้อน)
แป้ง ชั้นเดียว หรือ simple carbohydrate ได้แก่ แอลกอฮอล์ น้ำผึ้ง น้ำตาล ซึ่งจะให้พลังงานทันที่ที่ตกถึงท้อง ไม่ต้องเสียเวลาสันดาปให้วุ่นวาย เหนื่อยแรง กินเท่าไรก็ไม่ค่อยรู้สึกอิ่ม ไม่อยู่ท้อง จึงมักกินมากกว่าจำเป็นในแต่ละวัน เมื่อเหลือใช้ในร่างกายยังแปรรูปไปเป็นไขมันได้ง่ายด้วย
ส่วนแป้งหลาย ชั้น(เชิงซ้อน) หรือ complex carbohydrate คือ พวกธัญพืช เช่น ข้าว มัน เผือก แครอท ลูกเดือย เป็นต้น อาหารเหล่านี้เมื่อสันดาปจำต้องใช้พลังงานความร้อนในร่างกายจำนวนมากเพื่อ ย่อยให้กลายเป็นน้ำตาล ต้องใช้เวลา และเนื่องจากมีกากมากจึงทำให้อิ่มท้องอยู่นานและอิ่มไว ไม่ต้องรับประทานมากก็รู้สึกอิ่ม นอกจากนี้ยังแปรเป็นไขมันได้ยากกว่าแบบแรก
วิธีการเลือกกินอาหารหมู่โปรตีนการ รับประทานโปรตีนมากมีผลเสียต่อร่างกายพอๆ กับการขาดโปรตีน เราพบว่าสัตว์ทดลองที่เลี้ยงด้วยโปตีนสูงมากๆ ตายเร็วกว่าพวกที่กินธัญพืชอย่างเดียว
โปรตีนเมื่อย่อยแล้วจะได้กรดอะ มิโน (amino acids ) ทั้งสิ้น 22 ชนิด ซึ่งสามารถสร้างโปรตีนได้หลายล้านแบบ ถ้าจะเปรียบเทียบกับตัวอักษร และพยัญชนะที่สามารถสร้างคำได้เป็นล้านคำนั่นเอง ร่างกายคนเราผลิตกรดอะมิโน ได้เองอยู่แล้วถึง 13 ตัว อีก 9 ตัวเรียกว่า กรดอะมิโนจำเป็น (essential amino acids) ผลิตเองไม่ได้ต้องได้จากอาหารเท่านั้น ใน 9 ตัวนี้มีเพียง 3 ตัวเท่านั้นที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อร่างกาย คือ lysine , tryptophan และ methionine ทั้งในธัญพืชหรือเนื้อสัตว์ให้กรดอะมิโน เพียงแต่โปรตีนจากสัตว์มักจะแถมไขมันอิ่มตัว และ โคเลสเตอรอลมาด้วย ซึ่งข้าวที่เรากินกันทุกวันนี่แหละมี tryptophan และ methionine สูง แต่ lysine ต่ำมาก ตรงข้ามอาหารประเภทถั่ว มี lysine สูง แต่ tryptophan และ methionine ต่ำ
จึงมีการแนะนำให้กินข้าว 2 ส่วน ถั่ว งา ชนิดต่างๆ 1 ส่วน ก็จะได้โปรตีนค่อนข้างครบ ขณะเดียวกันก็ลดของมันของหวานลงให้มาก สำหรับไข่ ดิฉันรู้สึกว่าเราจะกลัวไข่กันจนเกินเหตุ วิธีปรุงไข่ดูจะน่ากลัวกว่าตัวไข่เอง อย่างน้อยไข่ขาวก็เป็นอาหารโปรตีนสุดวิเศษมีกรดอะมิโนครบถ้วนทุกตัว
ดัง นั้นจึงขอแนะนำให้กินไข่ขาวได้วันละ 2 - 3 ฟอง อย่าเจียว อย่าทอด ใช้ดาวไข่ในน้ำ ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ชนิดพวกต้องใส่น้ำตาล เช่น ไข่ลูกเขย หรือ ไข่พะโล้ควรหลีกเลี่ยงให้มาก
นอกจากไข่ก็เห็นจะเป็นนมที่มีโปรตีน สูง หากเป็นนมพร่องไขมัน หรือนมขาดมันเนย ชนิดที่เรียกว่า Skim milk เป็นประโยชน์ แต่รสชาติไม่มันไม่หอม หลายคนไม่ชอบ แต่นมประเภทนี้คุณนำมาใช้แทนกะทิทำแกงแบบไทยๆ เราได้ เช่น แกงเขียวหวาน พะแนงต่างๆ และทำของหวานได้ด้วย
การเลี่ยงการกินไขมันนั้นการปรุง แต่งอาหารเป็นเรื่องสำคัญมากเช่นกัน โดยเฉพาะน้ำมันที่ใช้ทอด เจียว ผัด เป็นตัวกระสายน้ำเอาโคเลสเตอรอลฝากไว้กับอาหารทุกจาน ดิฉันขอเน้นตรงนี้เสียเลยว่าตับของเราเป็นอวัยวะที่สร้างโคเลสเตอรอลให้ร่าง กายเราได้อย่างพอเพียง คุณไม่จำเป็นต้องเติมแต่งด้วยการกินโคเลสเตอรอลเพิ่มแต่ประการใดเลย
โดย สรุปแล้วอาหารหวนคืนสุขภาพก็คือ อาหารมังสวิรัต ที่มีกรรมวิธีการปรุงชนิดที่ใช้ไขมันน้อยที่สุด บวกกับไข่ขาว และนมขาดมันเนยนั่นเอง