ขจัดเซลลูไลท์ ไขมันส่วนเกินที่น่ารังเกียจ

ใครที่อายุเกิน 15 ก็เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยว่าจะได้รู้จักกับคุณเซลลูไลท์อย่างแน่นอน แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดไปว่าการที่ร่างกายมีเซลลูไลท์ไม่ได้หมายความว่าคุณ น้ำหนักเกินเสมอไปนะคะ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้เป็นที่พึงปรารถนาของสาวๆ เพราะมันจะทำให้ผิวเป็นลูกคลื่น เนื้อไม่เนียมสวย จึงมีแตคนอยากจะกำจัดมันออกไป เราลองมาทำความเข้าใจกับมันก่อนดีกว่า ว่าเจ้าเซลลูไลท์เนี่ยคืออะไร และจะกำจัดมันได้อย่างไร

วงการเสริมสวยได้ให้คำจำกัดความเซลลูไลท์ว่าคือ ของเสียหรือสารพิษที่จับตัวอยู่ในรูปเซลไขมัน แต่วงการแพทย์ได้บอกว่าเซลลูไลท์ก็คือไขมันของผู้หญิงที่จะกลายมาเป็นต้น เหตุของโรค แต่ที่แน่ๆ เซลลูไลท์จะมีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิง คือเซลลูไลท์จะปรากฏตัวหรือชัดขึ้นด้วยแรงขับฮอร์โมนที่มากกว่าปกติ เช่น ฮอร์โมนในวัยรุ่น ขณะตั้งครรภ์ หรือเมื่อใช้ยา ผู้หญิงจะมีเซลลูไลท์เพราะเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงกระตุ้นร่างกายให้ เก็บไขมันสำรองบริเวณขาอ่อน ตะโพก ในเวลาที่มีเด็กอยู่ในท้องหรือให้นมลูก เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กขาดสารอาหาร
เซลลูไลท์ประกอบด้วยอะไรบ้าง นักวิจัยได้ทำการวิเคราะห์ไขมันที่ได้จากผู้หญิง 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีเซลลูไลท์และกลุ่มที่ไม่มี พบว่าไม่มีความแตกต่างกันเลย นั่นอาจเป็นเพราะว่าไขมันแลเซลลูไลท์มีวิธีการเก็บที่ต่างกัน ปกติไขมันจะมีแถบเนื้อเยื่อหลายๆ แถบยึดจับไว้ ทำให้ถูกแบ่งเป็นห้องโดยปริยาย เมื่อไขมันเพิ่มขึ้น แถบเนื้อเยื่อจะตึงเพราะต้องพยายามรัดดึงไขมันจำนวนมากจนโป่งนูนขึ้น แต่ว่าในแต่ละห้องไม่ได้มีเฉพาะไขมันบรรจุอยู่เท่านั้น ถ้าการหมุนเวียนโลหิตไม่ดี อาหารกิน สภาพแวดล้อมเลวร้าย และมีความเครียด เหล่านี้ทำให้ผนังเซลเต็มไปด้วยของเสียที่เป็นพิษสะสม ของเหลวส่วนเกินไม่สามารถถ่ายเทออกได้ ลักษณะที่กล่าวมานี้เอง ส่งผลให้ไขมันจับตัวเป็นก้อนและนูน ทำให้พื้นผิวไม่เรียบนั่นเอง
มาดูกันดีกว่าว่าเราจะกำจัดเซลลูไลท์ได้อย่างไรกันบ้าง
1. ใช้เครื่องมือสลายไขมัน
วิธีทำ ตามร้านเสริมความงามต่างๆ จะมีเครื่องมือสลายไขมันด้วยเครื่องไฟฟ้า โดยวางเครื่องลงบนบริเวณที่มีเซลลูไลท์ แล้วเพิ่มแรงกดหรือเขย่าลงบนเลลูไลท์เพื่อสลายไขมัน
ผล เครื่องมือสามารถช่วยให้ดีขึ้นได้ แต่ก็ไม่รับประกันว่าจะได้ผล ส่วนใหญ่ต้องทำต่อเนื่องกันหลายๆ ครั้ง เป็นระยะเวลานาน และยังย้ำอีกว่าเซลลูไลท์จะกลับมาอีกแน่นอน ถ้าไม่ออกำลังกายและยังกินอาหารอย่างไม่ยั้ง
2. ฝังเข็มวิธีทำ ฝังเข็มที่ปราศจากเชื้อโรคลงบนบริเวณเซลลูไลท์ ประมาณ 3-5 มิลลิเมตรใต้ผิวหนัง เข็มเหล่านี้จะเชื่อมกับขั้วไฟฟ้าซึ่งจะส่งกระแสไฟฟ้าเพื่อทำลายเซลไขมัน และแพร่กระจายของเหลว
ผล หลังการรักษา 80% พบว่าขอเรียวขึ้น แต่การรักษาแบบนี้จะใช้ไม่ได้ผลกับผู้หญิงที่มีเซลลูไลท์จำนวนไม่มากนัก และถ้ายังไม่เปลี่ยนนิสัยการกิน ไขมันก็จะกลับมาอีก
3. พันต้นขา
วิธีทำ พันต้นขาหรือก้นด้วยพลาสติกให้แน่น เพิ่มความร้อนสูงเข้าสู่บริเวณดังกล่าาว เพื่อให้เหงื่อออก และลดปริมาณเซลลูไลท์ได้
ผล ไม่ได้ผลอะไรเลย เซลลูไลท์ไม่สามารถไหลออกมาเป็นเหงื่อได้ หลายเซ็นต์ที่สูญเสียไปไม่ใช่เซลลูไลท์ แต่เป็นของเหลว การรักษาแบบนี้ไม่ได้ผล และไม่ได้ประโยชน์อะไร ดื่มน้ำปกติต้นขาก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม ที่สำคัญก็ไม่ควรงดดื่มน้ำเด็ดขาด เพราะมีผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและผิวพรรณตามมามากมาย
4. ขัดผิววิธีทำ ขัดผิวด้วยแปรงหรือใยขัดผิวระหว่างอาบน้ำจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิต และช่วยปรับปรุงผิวบริเวณที่เป็นเซลลูไลท์ให้ดูดีขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามบอกว่า การขัดผิวในลักษณะเคลื่อนที่เป็นวงกลมช่วยได้ (ขัดติดต่อกัน 5 นาที สัปดาห์ละครั้งจะดีกว่าการขัดในเวลาสั้นๆ หลายๆ ครั้ง) นอกจากนี้ควรใช้เจลอาบน้ำหรือสบู่ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อป้องกันไม่ให้ ผิวแห้งหรือระคาย
ผล ศัลยแพทย์ด้านความงามกล่าวว่า การหมุนเวียนโลหิตที่ไม่ดีจะทำให้เปลือดสะสมอยู่ที่ต้นขาและตะโพก และส่งผลให้ไขมันบริเวณดังกล่าวโป่งออกมาได้ วิธีแก้ก็ควรจะทำตัวให้กระฉับกระเฉง และหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตช้าลง เช่น การสมชุดที่คับติ้วและใส่ส้นสูงเป็นเวลานาน
5. เซลลูไลท์ครีมและโลชั่นวิธีทำ ใช้ครีมหรือโลชั่นทาผิว คล้ายๆ กับมาสก์หน้าเพื่อให้ใบหน้าตึง
ผล ผลิตภัณฑ์บางชนิดก็อาจจะช่วยให้เซลลูไลท์ดูเบาบางลงได้บ้าง ด้วยการปรับปรุงสภาพผิว
6. ออกกำลังกาย
วิธีทำ การออกกำลังกายเบาๆ ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะช่วยปรับปรุงบริเวณที่ได้รับผลกระทบจากเซลลูไลท์ได้ การออกกำลังดังกล่าว ได้แก่ การเดินออกกำลังว่ายน้ำ ขี่จักรยาน ครั้งละ 1 ชั่วโมง 3 ครั้ง ต่อ 1 สัปดาห์
ผล ใช้เวลาอยู่บ้างเหมือนกัน ผู้หญิงส่วนใหญ่จะลดไขมันที่ทรวงอกได้ก่อน
นอก จาก 6 วิธีนี้แล้วยังมีวิธีอื่นอีกหรือไม่ คำตอบคือมีค่ะ คือน้ำ น้ำจะช่วยทำความสะอาดร่างกาย ช่วยระบบประสาททำงานดีขึ้น  น้ำยังช่วยต้านการเก็บของเหลวซึ่งอาจจะทำให้ต้นขาเป็นก้อนได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำแทนการกินขนมขบเคี้ยว จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการกินมากเกินไปได้ จริงๆ แล้วที่คุณรู้สึกก็คือความกระหายนั่นเอง ควรดื่มน้ำให้มากพอ ประมาณ 2 - 3 ลิตร ต่อวันค่ะ แต่ถ้าหากมีคนมาแนะนำให้คุณลดน้ำหนักแบบกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตแต่น้อย ก็อย่าใส่ใจ เพราะการลดน้ำหนักแบบนี้จะลดได้เร็วก็จริง แต่ที่คุณสูญเสียไปส่วนใหญ่คือของเหลว และในไม่ช้าน้ำหนักตัวของคุณก็จะกลับมาอีก นอกจากนี้การลดน้ำหนักแบบนี้ในระยะยาวจะทำให้การเผาผลาญช้าลงและลดน้ำหนัก ตัวได้ยาก อาหารที่จะช่วยคุณลดน้ำหนักและเซลลูไลท์ได้อย่างถาวรก็คือ อาหารที่ให้ธาตุอาหารครบทั้ง 5 หมู่อย่างสมดุลนั่นเอง

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘