ที่มาของความอ้วน

“พลังงานที่ได้รับมีมากกว่าพลังงานที่เผาผลาญ”  (Overeating Underexercise)
จะ เห็นได้ว่า วิธีการต่าง ๆ ที่มีการใช้กันอยู่นั้น จะอ้างอิงจากคำพูดข้างต้นทั้งสิ้น ดังนั้นการลดความอ้วนจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 CONCEPT หลักใหญ่ ๆ คือ
1.การจำกัดพลังงานที่ได้รับ (Intake)
ด้วย การควบคุมอาหาร ทั้งชนิดและปริมาณของอาหาร มีหลักการเพื่อนำไปปฏิบัติแบบง่ายๆคือว่าถ้าจะควบคุมอาหารให้ได้ผลในเรื่องข องการลดน้ำหนัก ควรรับประทานอาหารทุกชนิดรวมแล้วไม่เกิน 20 กิโลแคลลอรี่ต่อน้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัมเช่นคนหนัก 60 กิโลกรัมจะควบคุมอาหารให้ได้ผลจริงควรรับอาหารทุกชนิดเข้าไปไม่เกิน 1200 กิโลแคลลอรี่ต่อวัน ใช้ยา ที่ให้รับประทานอาหารได้น้อยลง(ส่วนใหญ่เป็นยาที่ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วน กลางจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 จ่ายให้ได้โดยแพทย์เท่านั้นและแพทย์ต้องซื้อยาผ่านทางคณะกรรมการอาหารและยา เท่านั้นแหล่งยาประเภทนี้ที่มาจากทางอื่นล้วนแล้วแต่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น) ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Phentermine , Diethylpropion ปัจจุบันมียาใหม่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา ยาตัวนี้เข้ามาในประเทศไทยได้ประมาณ 2 ปี(นับถึงปี 2546) คือ Sibutramine การออกฤทธิ์คล้ายคลึงกับกลุ่มที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทแต่มีรายงานเรื่องผลข้ างเคียงน้อยกว่ามาก นับว่าเป็นยาที่ยังมีความปลอดภัยสูงอยู่ แม้นว่าจะมีรายงานผลข้างเคียงเรื่องของการทำให้ความดันโลหิตสูงแต่ก็เป็น เพียงส่วนน้อยการใช้ยาตัวนี้ในประเทศไทยยังมีปัญหาอยู่คือ
1.ราคายังสูงมาก
2.ยัง มีการลักลอบขายตามร้านขายยาซึ่งทำให้ไม่ทราบแหล่งที่มาแน่นอน อาจจะเป็นยาปลอมที่ไม่มีสรรพคุณในการรักษาใดๆเลยหรือเป็นยาจริงที่มีการลักล อบนำเข้าเพื่อหลบเลี่ยงภาษี ก่อนใช้ยาตัวนี้อย่างน้อยที่สุดผู้จะใช้ยาควรจะได้รับการตรวจวัดชีพจรและ ความดันโลหิตก่อนใช้ยาช่วยลดการดูดซึมอาหารประเภทไขมัน ได้แก่ Oristat ออกฤทธิ์โดยยับยั้งเอนไซม์ที่ช่วยย่อยไขมัน(Lipase) ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดักจับไขมัน ไม่ให้ดูดซึมหรือดูดซึมได้น้อยลงได้แก่ Chitosan(ผลิตจากเปลือกของสัตว์ทะเลที่มีเปลือกหุ้มแข็งเช่น หอย ปู) Glucomannan (ผลิตโดยสกัดจากหัวบุก) ใช้อาหารจำกัดพลังงาน ทดแทนอาหารปกติ (อาหารแคลลอรี่ต่ำ) ผ่าตัดกระเพาะให้เล็กลง เพื่อให้รับอาหารได้น้อยลง ผ่าตัดลำไส้ออกให้สั้น เพื่อลดการดูดซึม
2.เร่งการเผาผลาญพลังงาน (Output) ด้วยการ
2.1 ออกกำลังกายให้มากขึ้นและสม่ำเสมอ ออกให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วัน วันละ 20-30 นาทีอย่างต่อเนื่อง
2.2 ใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่เร่งการเผาผลาญลดการสะสมของไขมัน ได้แก่
Collagen ช่วยเสริมสร้างกล้มเนื้อทำให้กล้ามเนื้อเวลาถูกใช้งานจะเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น
CLA (Conjugated Linoleic Acid) คือกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ รับเข้าสู่ร่างกายได้โดยการรับประทานเพียงอย่างเดียวกลไกการออกฤทธิ์ ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานใหม่ที่เข้าสู่ร่างกายโดยการยับยั้งการเกิดเอนไซม ์(enzyme) Lipo-protein Lipase ซึ่งเป็นสาเหตุของการสะสมไขมันในร่างกายและเผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมอยู่ตามส ่วนต่างๆโดยเพิ่มฮอร์โมนที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ Lipase(เอนไซม์ช่วยย่อยไขมันสร้างจากตับอ่อน)ที่สำคัญคือช่วยเสริมสร้างเซลล ์กล้ามเนื้อให้แข็งแรงกระชับและได้สัดส่วน
Garcinia extract (สารสกัดจากส้มแขก) ช่วยลดโอกาสการสะสมเป็นไขมันของน้ำตาลส่วนเกิน เนื่องจากถ้าเรารับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลมากเกินไปจนร่างกายไม่สามา รถนำมาใช้เป็นพลังงานได้หมด แป้งและน้ำตาลเหล่านั้นจะถูกสะสมเป็นไขมันในร่างกาย Garcinia จะให้สาร HCA (Hydroxycitric acid) ซึ่งมีบทบาทในเพิ่มการเผาผลาญอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลที่เหลือมากไปจะถูก เปลี่ยนไปเป็นกลัยโคเจน(Glycogen) เก็บสะสมไว้ที่ตับและเนื้อเยื่อโดยรอบเพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำรอง พร้อมทั้งยังช่วยลดความอยากอาหารทำให้รับประทานอาหารได้ลดลง
L-Carnitine (แอล-คาร์นิทีน) มีคุณสมบัติในการเร่งการสลายไขมันในร่างกาย L-Carnitine เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งในร่างกายทำหน้าที่นำพากรดไขมันอิสระ(Free fatty acid) และไขมันในรูปไขมันสะสมไปเผาผลาญเป็นพลังงานโดยการเผาผลาญจะเกิดขึ้นในระดับ เซลล์ นอกจากนี้ L-Carnitine ยังมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตบริเวณเส้นเลือดเล็กๆเป็นการ ช่วยลำเลียงออกซิเจน จึงเสริมประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงาน
Chromium (โครเมี่ยม) ส่วนใหญ่ที่ใช้ได้ผลดีอยู่ในรูปของ Chromium Picolinate ทำหน้าที่เร่งการเผาผลาญแป้งและน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงาน อีกทั้งยังช่วยยับยั้งความอยากอาหารโดยเฉพาะของหวาน Chromium เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นชนิด หนึ่งของร่างกายช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนอินซูลิน(Insulin) ในเลือดโดยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลิน(ผู้ที่ขาดอินซูลินจะเป็นเบา หวาน) และช่วยเสริมความสามารถของเซลล์ในการนำเอาน้ำตาลในเลือดไปใช้ด้วยกลไกที่ทำ ให้อินซูลินในเลือดอยู่ในระดับพอเหมาะตลอดเวลาและไม่เกิดการแปรปรวนมากนัก เมื่อระดับอินซูลินในเลือดอยู่ในระดับพอเหมาะสามารถนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์ ก่อให้เกิดพลังงานสูงกว่าปกติถึง 20 เท่า ศูนย์ควบคุมในสมองก็จะไม่กระตุ้นให้เกิดความต้องการอาหารเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีวิธีการต่าง ๆ มากมาย แต่คนส่วนใหญ่ก็จะพยายามหาเครื่องทุ่นแรงยอมเสียเงินเสียทองมากมาย โดยหวังว่าจะได้มาซึ่ง “ยามหัศจรรย์” แท้จริงแล้ว…ในโลกนี้ไม่มี
วิธี การที่ประหยัดได้ผลดีปราศจากผลข้างเคียง ซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติอยู่คือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ปรับวิถีชีวิตโดยการออกกำลังกายให้มากขึ้น ไม่ว่าคุณจะลดความอ้วนด้วยวิธีใดก็ตาม จะได้ผลก็ต่อเมื่อมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค และความต่อเนื่องของขั้นตอนการลดความอ้วนนั้น ๆ ร่วมด้วย

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘