วิธีการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักให้ได้ผลอย่างถาวร
โดย ปกติคนเราต้องการพลังงานต่อวันประมาณ 1500-2000 กิโลแคลอรี่ ขึ้นอยู่กับเพศและวัยของแต่ะคน ดังนั้นการที่เรากินอาหารเข้าไปมากเกินไป หรือว่าใช้พลังงานน้อยเกินไปในแต่ละวันก็จะทำให้เราอ้วนได้ และการลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือ การออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปนั่นเอง ซึ่งข้อนี้เราทุกคนก็รู้กันอยู่ แต่จะออกกำลังกายอย่างไรให้ลดน้ำหนักอย่างได้ผลจริงๆ อย่างถาวรนั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและพฤติกรรมของเราด้วยค่ะ
ยกตัวอย่างเราต้องการลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม เราจะต้องรับประทานอาหารให้น้อยลงกว่าที่คุณเคยรับประทานวันละ 1,285 กิโลแคลอรี่ หรือใช้พลังงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 1,285 กิโลแคลอรี่ (อ้งอิงจากบทความ แคลอรี่และเมตาบอลิซึม การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก หรือเผาผลาญไขมัน จะต้องออกกำลังกายให้หัวใจเต้นในอัตรา 65-85% ของอัตราหัวใจเต้นสูงสุดของคุณคือ 220 ลบด้วยอายุของคุณ หรือออกกำลังจนรู้สึกเหนื่อย และหายใจหอบเป็นเวลา 20-30 นาที (อย่าลืม warm up ก่อนออกกำลังกายเพื่อลดอาการบาดเจ็บนะคะ) ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกค่ะ
เทคนิกการออกกำลังกายให้ได้ผลและไม่ท้อซะก่อน
คนที่มีน้ำหนักเกิน การออกกำลังกายแบบแอโรบิกจะเหมาะที่สุด เพราะคนที่อ้วนมักจะมีระบบการเผาผลาญต่ำ ทำให้ออกกำลังกายหนักๆ ไม่ไหว จึงควรออกกำลังกายแบบที่ไม่หนัก แต่บ่อยๆ และนานๆ จะดีกว่าค่ะ คุณสามารถเลือกสถานที่ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส หรือตามห้างสรรพสินค้าที่มีบริการเต้นแอโรบิกตอนเย็นก็ได้ค่ะ เลือกหาชุดสวยๆ มาใส่จะได้รู้สึกว่าอยากจะไปออกกำลังกาย
เคล็ดลับเพิ่มการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพอย่างถาวร
การออกกำลังกายแบบอันแอโรบิก (Anareobic) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันของร่างกายได้อย่างถาวร แต่ต้องทำเป็นประจำนะคะ เนื่องจากว่าการออกกำลังกายแบบอันแอโรบิกนี้จะใช้ออกซิเจนเพียงเล็กน้อย แต่จะใช้การเผาผลาญพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตมาใช้มากกว่า การออกกำลังกายแบบนี้เป็นการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ และมีความแข็งแรงมากขึ้น ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญพลังงานดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิกแบบนาทีต่อนาทีแล้วจะเผาผลาญ พลังงานได้มากกว่า แต่ก็ไม่ควรหักโหมออกกำลังกายแบบนี้หนักเกินไป เพราะจะมีผลต่อข้อต่อของเราในอนาคตได้ค่ะ การออกกำลังกายแบบอันแอโรบิกได้แก่ การยกน้ำหนักแบบต่างๆ นั่นเองค่ะ และที่สำคัญการยกน้ำหนักไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคความดันสูงค่ะ
ยกตัวอย่างเราต้องการลดน้ำหนัก 5 กิโลกรัม เราจะต้องรับประทานอาหารให้น้อยลงกว่าที่คุณเคยรับประทานวันละ 1,285 กิโลแคลอรี่ หรือใช้พลังงานเพิ่มขึ้นจากเดิม 1,285 กิโลแคลอรี่ (อ้งอิงจากบทความ แคลอรี่และเมตาบอลิซึม การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก หรือเผาผลาญไขมัน จะต้องออกกำลังกายให้หัวใจเต้นในอัตรา 65-85% ของอัตราหัวใจเต้นสูงสุดของคุณคือ 220 ลบด้วยอายุของคุณ หรือออกกำลังจนรู้สึกเหนื่อย และหายใจหอบเป็นเวลา 20-30 นาที (อย่าลืม warm up ก่อนออกกำลังกายเพื่อลดอาการบาดเจ็บนะคะ) ซึ่งการออกกำลังกายแบบนี้เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกค่ะ
เทคนิกการออกกำลังกายให้ได้ผลและไม่ท้อซะก่อน
คนที่มีน้ำหนักเกิน การออกกำลังกายแบบแอโรบิกจะเหมาะที่สุด เพราะคนที่อ้วนมักจะมีระบบการเผาผลาญต่ำ ทำให้ออกกำลังกายหนักๆ ไม่ไหว จึงควรออกกำลังกายแบบที่ไม่หนัก แต่บ่อยๆ และนานๆ จะดีกว่าค่ะ คุณสามารถเลือกสถานที่ออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส หรือตามห้างสรรพสินค้าที่มีบริการเต้นแอโรบิกตอนเย็นก็ได้ค่ะ เลือกหาชุดสวยๆ มาใส่จะได้รู้สึกว่าอยากจะไปออกกำลังกาย
เคล็ดลับเพิ่มการเผาผลาญไขมันอย่างมีประสิทธิภาพอย่างถาวร
การออกกำลังกายแบบอันแอโรบิก (Anareobic) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันของร่างกายได้อย่างถาวร แต่ต้องทำเป็นประจำนะคะ เนื่องจากว่าการออกกำลังกายแบบอันแอโรบิกนี้จะใช้ออกซิเจนเพียงเล็กน้อย แต่จะใช้การเผาผลาญพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตมาใช้มากกว่า การออกกำลังกายแบบนี้เป็นการสร้างกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อกระชับ และมีความแข็งแรงมากขึ้น ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญพลังงานดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิกแบบนาทีต่อนาทีแล้วจะเผาผลาญ พลังงานได้มากกว่า แต่ก็ไม่ควรหักโหมออกกำลังกายแบบนี้หนักเกินไป เพราะจะมีผลต่อข้อต่อของเราในอนาคตได้ค่ะ การออกกำลังกายแบบอันแอโรบิกได้แก่ การยกน้ำหนักแบบต่างๆ นั่นเองค่ะ และที่สำคัญการยกน้ำหนักไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคความดันสูงค่ะ