กระบวนการเผาผลาญอาหารช่วยในการลดความอ้วน

การ เผาผลาญพลังงานมีส่วนเกี่ยวข้องกับความอ้วนอย่างไรบ้าง คราวนี้เรามาเจาะลึกถึงขบวนการเผาผผลาญพลังงานในร่างกายเรา เพื่อจะได้ลดน้ำหนักอย่างถูกต้องกันซะทีนะคะ ขบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายเรา แบ่งออกเป็น 3แบบคือ

1. การใช้พลังงานพื้นฐาน ขะใช้ 65% ของพลังงานทั้งหมด ซึ่งเป็นพลังงานพื้นฐานที่ใช้ในขณะที่เรานอนอยู่เฉยๆ โดยใช้ในการหายใจ การเต้นของหัวใจ การสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นหากเราคิดว่าเราอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร จึงไม่จำเป็นต้องกินอาหารนั้นเป็นความคิดที่ผิด เพราะเมื่อร่างกายคิดว่าเรากำลังขาดแคลนอาหาร และเข้าสุ่กระบวนการอดอาหาร ร่างกายก็จะเผาผลาญน้อยลง ดังนั้น แม้จะกินน้อย แต่ก็ยังเผาผลาญไม่หมด จึงอ้วนได้ทั้งๆที่กินน้อยนั่นเองค่ะ

2. พลังงานที่ใช้การการเคลื่อนไหวร่างกาย ใช้ 25% ของพลังงานทั้งหมด เช่น เดิน วิ่ง เปลี่ยนอิริยาบถต่างๆ เป็นต้น

3. พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นขณะย่อยและดูดซึมอาหาร ใช้ประมาณ 10% ของพลังงานทั้งหมด

ดังนั้น ถ้าต้องการให้ร่างกายนำเอาพลังงานออกมาใช้ให้มากขึ้น ก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพของการเผาผลาญให้มากขึ้น เพื่อช่วยให้ลดความอ้วนได้ง่ายขึ้นโดย

1. อาหารที่ได้รับในแต่ละวันต้องไม่ต่ำกว่าที่ต้องใช้เป็นพลังงานพื้นฐาน (ในข้อ1) เช่น ใน 1 วัน เราต้องการใช้พลังงานประมาณ 2000 กิโลแคลอรี่ พลังงานพื้นฐานจะใช้ 65% ของทั้งหมด จึงเท่ากับ 1300 กิโลแคลอรี่ ดังนั้นถ้าลดอาหารให้ต่ำกว่า 1300 กิโลแคลอรี่ต่อวันจะมีผผลทำให้ร่างกายเผาผลาญอาหารน้อยลง ทำให้เราอ้วนได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ

2. เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นการเพิ่มพลังงานพื้นฐาน (ข้อ 1) เพราะกล้ามเนื้อคือแหล่งเผาผลาญพลังงานอันใหญ่ของเรา ถ้ากล้ามเนื้อมากขึ้นก้เท่ากับเราสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น แม้ว่าเราจะนอนอยู่เฉยๆ ก็ตาม

3. เพิ่มการเคลื่อนไหวระหว่างวัน หรือออกกำลังกายนั่นเอง เป็นการเพิ่มการใช้พลังงานในข้อ 2 ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้อีกทางหนึ่ง

4. เพิ่มอาหารกลุ่มโปรตีนมากกว่าปกติเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญให้มากขึ้นและยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย และที่สำคัญการย่อยโปรตีนนั้นเราต้องใช้พลังงานในการย่อยโปรตีนมากกว่าการ ย่อยนแป้งและน้ำตาล และยังใช้เวลาในการย่อยนานกว่า ทำให้อิ่มนานขึ้น