ลดความอ้วน สำหรับคนที่มีรูปร่างแบบผลแอ๊ปเปิ้ล

คน ที่มีรูปร่างแบบผลแอ๊ปเปิ้ลนั้นจะมีโครงร่างใหญ่ ไหล่กว้าง แขนขาล่ำสัน ทำให้ดูแข้งแรง เหมือนนักกีฬา ลำตัวค่อนข้างตรง ไม่ค่อยมีส่วนโค้งส่วนเว้า ต้นขาและก้นเป็นกล้ามเนื้อ การที่คุณมีรูปร่างแบบนี้นั้น ก็เพราะฮอร์โมนคอร์ติโคสเทอโรน และฮอร์โมนอดรีนาลีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความอ้วน

เพราะฮอร์โมนทั้ง 2 ตัวนี้ ควบคุมระดับการเผาผลาญสารอาหารคาร์โบไฮเดรต คือจะบังคับให้ ไกลโคเจนที่สะสมไว้ที่ตับ และกล้ามเนื้อเปลี่ยนเป็นกลูโคสเพื่อนำมาใช้ต่อไป เมื่อต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นแผล่งผลิตฮอร์โมนทั้งสองชนิดนี้ทำงานผิดปกติ ก็ทำให้การเปลี่ยน ไกลโคเจนเป็นพลังงานน้อยลง สังเกตได้ว่า ยิ่งคุณมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ไขมันมักจะไปพอกพูนที่คอ ไหล่ ต้นแขน ลำตัว และหน้าท้อง ทำให้คุณยิ่งดูล่ำบึกเข้าไปใหญ่ค่ะ ทีนี้เรามาดูวิธีการลด และควบคุมน้ำหนัก ของคนที่มีรูปร่างแบบนี้กันค่ะ

1. อาหารที่เหมาะสมกับคนที่มีรูปร่างแบบผลแอ๊ปเปิ้ลคืออาหารมังสวิรัติ เพื่อทำให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่คุณก็ยังทานเนื้อสัตว์ได้ค่ะ แต่ต้องเป้นเนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำเช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดหนังหรือมัน
2. ควรงดอหารพวกข้าวหรือแป้งที่ผ่านการขัดสี ถั่วต่างๆ ที่มีเกลือผสม เนื่อสัตว์ที่มีคลอเลสเตอรอลสูง เบคอนเครื่องในสัตว์ ไส้กรอก หอยทุกชนิด นมสดธรรมดา นมช็อกโกแลต นมหวาน ครีม ชีส เนย กระทิ ไอศกรีม ผลไม้ที่อยู่ในน้ำเชื่อมหรือเคลือบน้ำตาล ผลไม้ดองทุกชนิด ไขมันจากสัตว์ และมาการีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ชา คอกเทล ช็กโกแลต และน้ำตาลทรายขัดขาว
3. ควรทานอาหารเหล่านี้แทนข้อ 2 ข้าวและธัญพืชที่ไม่ขัดสีหรือขัดสีน้อย เช่น ข้าวซ้อมมือลูกเดือย ข้าวโพด พาสต้าโฮลวีต ขนมปังโฮลวีต ถั่วทุกชนิดที่ไม่ใส่เกลือ เต้าหู้ เนื้อปลา เนื้อไก่ไม่ติดหนัง เนื้อหมูและเนื้อวัวทานได้นิดหน่อย ไข่ 3-4 ฟองต่อสัปดาห์ นมไขมันต่ำ น้ำเต้าหู้ นมแพะ ชีสไขมันต่ำ โยเกิร์ตไขมันต่ำ ผลไม้สด ผักสดทุกชนิด น้ำมันพืช น้ำ 6-12 แก้วต่อวัน น้ำแร่ โซดา น้ำสมุนไพร กาแฟ 1-2 แก้วต่อวัน น้ำผึ้งทานไม่เกินวันละ 1-2 ช้อนชา น้ำตาลทรายแดง

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘