ลดน้ำหนักแบบแอทกิ้นส์ให้ถูกวิธี ภาค 2
ครั้งที่แล้วเราพูดถึง"ลดความอ้วน โดยใช้สูตรโลคาร์บอย่างถูกวิธี" วันนี้มาทำความรู้จักกับการลดน้ำหนักแบบแอทกิ้นส์อีกครั้งหนึ่งจาก โดย นพ.สมยศ กิตติมั่นคง จากหนังสือ เมื่อหมอต้องลดความอ้วนค่ะ คุณหมอได้อธิบายไว้แบบเข้าใจง่ายๆ ใครสนใจรายละเอียดก็ไปหาหนังสือมาอ่านได้นะคะ
คุณหมอเล่าว่าร่างกายของเราปกติแล้วจะใช้น้ำตาลในร่างกายเป็นแหล่ง พลังงานอันดับแรก ส่วนที่เกินก็จะไปสะสมเป็นไขมัน และร่างกายของคนเราก็ไม่ค่อยจะนำไขมันที่สะสมเอาไว้มาใช้กันซํกเท่าไหร่ เพื่อที่จะลดไขมันที่สะสมเอาไว้เป็นส่วนเกินนี้ เราจึงต้องลดการบริโภคน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตนั่นเองค่ะ ซึ่งก็เป็นวิธีการกินแบบแอทกิ้นส์ไดเอ็ท (Atkins Diet) นั่นเองค่ะ วิธีนี้จะทำให้ร่างกายใช้ไขมันที่สะสมในร่างกายแทน ทำให้ไขมันลดลง และความอ้วนก็ลดลงด้วย
คุณหมอสรุปขั้นตอนการลดน้ำหนักไว้เป็น 4 ขั้นตอนค่ะ
1. ใน 2 สัปดาห์แรกให้กินแบบแอทกิ้นส์ค่ะ คือ กินแต่โปรตีนและไขมันได้ไม่อั้น งดอาหารพวกแป้งให้เหลือน้อยที่สุดไม่เกิน 5-10% ของอาหารมื้อนั้น
2. ค่อยๆ เริ่มมากินอาหารพวกแป้งได้มากขึ้น แต่ต้องเพิ่มทีละน้อยค่ะ โดยเพิ่มได้เพียง 25 กรัมต่อวัน สัปดาห์ที่ 2 กินคาร์โบไฮเดรตได้ 30-35 กรัมต่อวัน มาเรื่อยๆ จนน้ำหนักไม่ลดลงจากนั้นเริ่มลดคาร์โบไฮเดรตล 5 กรัมต่อวัน จนน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ
3. รักษาระดับน้ำหนักให้คงที่ โดยกินคาร์โบไฮเดรตเพิ่ม 10 กรัมต่อสัปดาห์ จนน้ำหนักตัวคงที่
4. ขั้นตอนนี้เราสามารถกินอาหารได้หลากหลาย แต่ต้องควบคุมการกินคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้น้ำหนักตัวคงที่ค่ะ
การ กินแบบนี้อาจมีปัญหากับบางคนค่ะ เนื่องจากไตจะทำงานหนักในการขับของเสียออกจากร่างกาย กรดยูริกในร่างกายสูงเกินไปทำให้บางคนมีอาการโรคเก๊าท์กำเริบค่ะ
การ กินอาหารแบบแอทกิ้นส์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเผาผลาญพลังงานในร่าง กาย ปกติร่างกายจะใช้พลังงานจากกลูโคสก่อนเสมอ เมื่อเรากินคาร์โบไฮเดรตน้อยลงมากๆ ร่างกายจะหันไปใช้พลังงานจากไขมันในร่างกายแทน ทำให้เกิดสารที่เรียกว่า คีโตน ซึ่งร่างกายจะปล่อยออกมาทางปัสสาวะและลมหายใจ ซึ่งทำให้มีผลต่อฮอร์โมนอินซูลินไม่ให้สร้างไขมันเพิ่มขึ้นอีกด้วย (ปกติอินซูลินจะทำหน้าที่ดึงน้ำตาลในกระแสดเลือดที่เกิดจากอาหารที่เรากิน นำไปสร้างเป็นไขมันสะสมเอาไว้)
คุณหมอเล่าว่าร่างกายของเราปกติแล้วจะใช้น้ำตาลในร่างกายเป็นแหล่ง พลังงานอันดับแรก ส่วนที่เกินก็จะไปสะสมเป็นไขมัน และร่างกายของคนเราก็ไม่ค่อยจะนำไขมันที่สะสมเอาไว้มาใช้กันซํกเท่าไหร่ เพื่อที่จะลดไขมันที่สะสมเอาไว้เป็นส่วนเกินนี้ เราจึงต้องลดการบริโภคน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตนั่นเองค่ะ ซึ่งก็เป็นวิธีการกินแบบแอทกิ้นส์ไดเอ็ท (Atkins Diet) นั่นเองค่ะ วิธีนี้จะทำให้ร่างกายใช้ไขมันที่สะสมในร่างกายแทน ทำให้ไขมันลดลง และความอ้วนก็ลดลงด้วย
คุณหมอสรุปขั้นตอนการลดน้ำหนักไว้เป็น 4 ขั้นตอนค่ะ
1. ใน 2 สัปดาห์แรกให้กินแบบแอทกิ้นส์ค่ะ คือ กินแต่โปรตีนและไขมันได้ไม่อั้น งดอาหารพวกแป้งให้เหลือน้อยที่สุดไม่เกิน 5-10% ของอาหารมื้อนั้น
2. ค่อยๆ เริ่มมากินอาหารพวกแป้งได้มากขึ้น แต่ต้องเพิ่มทีละน้อยค่ะ โดยเพิ่มได้เพียง 25 กรัมต่อวัน สัปดาห์ที่ 2 กินคาร์โบไฮเดรตได้ 30-35 กรัมต่อวัน มาเรื่อยๆ จนน้ำหนักไม่ลดลงจากนั้นเริ่มลดคาร์โบไฮเดรตล 5 กรัมต่อวัน จนน้ำหนักตัวลดลงเรื่อยๆ
3. รักษาระดับน้ำหนักให้คงที่ โดยกินคาร์โบไฮเดรตเพิ่ม 10 กรัมต่อสัปดาห์ จนน้ำหนักตัวคงที่
4. ขั้นตอนนี้เราสามารถกินอาหารได้หลากหลาย แต่ต้องควบคุมการกินคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้น้ำหนักตัวคงที่ค่ะ
การ กินแบบนี้อาจมีปัญหากับบางคนค่ะ เนื่องจากไตจะทำงานหนักในการขับของเสียออกจากร่างกาย กรดยูริกในร่างกายสูงเกินไปทำให้บางคนมีอาการโรคเก๊าท์กำเริบค่ะ
การ กินอาหารแบบแอทกิ้นส์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการเผาผลาญพลังงานในร่าง กาย ปกติร่างกายจะใช้พลังงานจากกลูโคสก่อนเสมอ เมื่อเรากินคาร์โบไฮเดรตน้อยลงมากๆ ร่างกายจะหันไปใช้พลังงานจากไขมันในร่างกายแทน ทำให้เกิดสารที่เรียกว่า คีโตน ซึ่งร่างกายจะปล่อยออกมาทางปัสสาวะและลมหายใจ ซึ่งทำให้มีผลต่อฮอร์โมนอินซูลินไม่ให้สร้างไขมันเพิ่มขึ้นอีกด้วย (ปกติอินซูลินจะทำหน้าที่ดึงน้ำตาลในกระแสดเลือดที่เกิดจากอาหารที่เรากิน นำไปสร้างเป็นไขมันสะสมเอาไว้)