คอนแทคเลนส์ : กระจกตาขาดอ๊อกซิเจนเป็นเวลานาน กระจกตาขุ่น เซลล์กระจกตาชั้นในเสียหาย

คุณสมบัติ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง  กำลังจะไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ มาตรวจตาครั้งแรกเนื่องจากเพื่อนแนะนำมา ค่าสายตาข้างขวา -8.50 D.และตาซ้าย  -8.00 D. ตามลำดับ ใส่คอนแทคเลนส์มาเป็นระยะเวลา สิบกว่าปีแล้ว

            จากการตรวจค่าสายตาไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังใช้คอนแทคเลนส์ค่าสายตาเดิมได้ เมื่อตรวจสุขภาพตาด้วย Slit lamp ปรากฏว่ามีอาการกระจกตาขาดอ๊อกซิเจนบริเวณด้านบนส่วนที่อยู่ใต้หนังตาทั้งสองข้าง โดยกระจกตาเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น(ปกติกระจกตาต้องใส) โดย อาจารย์บอกว่าสังเกตเห็นนานพอสมควรแล้ว แต่คิดว่าเป็นสิ่งปกติ อนึ่ง การที่กระจกตาขาวขุ่นชี้ให้เห็นว่ามีการขาดอ๊อกซิเจนของกระจกตาเป็นระยะเวลา นาน สาเหตุเนื่องจาก อาจารย์ ใส่คอนแทคเลนส์ทั้งวัน ตั้งแต่ตื่นนอนและถอดก่อนเข้านอน เนื่องจากค่าสายตาของอาจารย์ค่อนข้างสูง ทำให้ขอบคอนแทคเลนส์ค่อนข้างหนาประกอบกับคอนแทคเลนส์ที่อาจารย์ใส่อยู่ใน ปัจจุบัน ทำจากวัสดุที่ยอมให้อ๊อกซิเจนซึมผ่านต่ำ และร่วมกับส่วนบนของกระจกตา ถูกหนังตาปิดอยู่เล็กน้อย(ปกติกระจกตาได้รับอ๊อกซิเจนจากอากาศ) จากหลายปัจจัยดังกล่าว ทำให้กระจกตาขาดอ๊อกซิเจน ร่างกายจึงพยายามส่งอ๊อกซิเจนไปบริเวณนั้นโดยการสร้างเส้นเลือดใหม่ขึ้น(Neovascularization) ทำให้กระจกตาขุ่น(ปกติกระจกตาสุขภาพดี ไม่ควรมีเส้นเลือดและต้องใสเพื่อให้แสงผ่านเข้าสู่ดวงตาได้)และเกิดเป็นฝ้าขาว (Pannus) ในที่สุด นอกจากเห็นฝ้าขาวที่กระจกตาแล้ว ยังตรวจพบสิ่งยืนยันว่ากระจกตาขาดอ๊อกซิเจนอีกอย่าง คือ เซลล์กระจกตาชั้นใน(Endothelium) บางส่วนตาย ทำให้เห็นเซลล์กระจกตาดังกล่าวมีขนาดไม่เท่ากัน(Polymegathism) อนึ่ง Endothelium มี หน้าที่รักษาสมดุลของน้ำในกระจกตา เพื่อคงความใสของกระจกตาไว้ ถ้าเซลล์ในชั้นนี้ถูกทำลายถึงระดับหนึ่ง จะทำให้สมดุลของน้ำในกระจกตาเสียไป กระจกตาเปลี่ยนจากใสเป็นขาวขุ่น และการมองเห็นลดลง

            ทาง ร้านได้แนะนำให้อาจารย์เปลี่ยนมาใช้คอนแทคเลนส์ที่ทำจากวัสดุ ซิลิโคนไฮโดรเจล ที่ยอมให้อ๊อกซิเจนซึมผ่านได้สูง เพื่อลดปัญหากระจกตาขาดอ๊อกซิเจน และมาตรวจซ้ำเพื่อดูว่าอาการกระจกตาขาดอ๊อกซิเจน น้อยลงหรือหมดไปหรือไม่