โรคกายที่มีผลกับดวงตา : ตาติดเชื้อเนื่องจากสเตียรอยด์

น้องเอ็ม นายเจษฏา(นามสมมุติ) อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง มาตรวจสายตาเนื่องจากมีเพื่อนแนะนำมา
จากการซักประวัติ น้องเอ็มเป็นโรคม่านตาอักเสบ (Uveitis) ซึ่งปัจจุบัน จักษุแพทย์เจ้าของไข้ ทำการรักษาโดยใช้ยา Steroid อยู่
            การตรวจสายตา ไม่เห็นความผิดปกติแต่อย่างใด โดยน้องเอ็มมีสายตายาวและเอียงเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องใช้แว่น จากการตรวจสุขภาพตา พบ Ciliary Injection และ Infiltration ที่ กระจกตาทั้งสองตา และบริเวณ Palpebral Conjunctiva มีตุ่มหนองหลายหัวบริเวณตาซ้าย แต่คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ จากการสอบถาม หลังจากตื่นนอนประมาณ 3 วัน ที่ผ่านมาจนวันนี้ สังเกตมีขี้ตาสีเขียวมากผิดปกติ และมีอาการตาแดงร่วมด้วย ซึ่งอาการดังกล่าวน่าจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงแนะนำให้น้องเอ็มไปพบจักษุแพทย์เจ้าของไข้เป็นการด่วน เนื่องจากการที่รับประทาน Steroid อยู่นั้น จะไปกดภูมิคุ้มกันของร่างกาย อาจทำให้การติดเชื้อลุกลามรุนแรงได้กว่าคนปกติ
            อนึ่ง การใช้ยาสเตียรอยด์ ไม่ว่าจะเป็นชนิดรับประทานหรือหยอดตา ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด ต้องไปพบแพทย์ตามที่นัด และไม่ใช้ยาต่อเนื่องไปโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์(ซึ่ง คนไข้จำนวนไม่น้อยมักจะทำ เพราะเห็นว่าแพทย์จ่ายยาตัวเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงมักไปซื้อยาใช้เอง เนื่องจากราคาถูกกว่าเพราะไม่ต้องเสียค่าแพทย์ ) การใช้สเตียรอยด์เป็นเวลานานโดยไม่ควบคุม อาจทำให้เกิดโรคต้อหินหรือต้อกระจกทำให้ตาบอดได้  การ ไปพบจักษุแพทย์ คนไข้จะได้รับการตรวจประเมินความเสี่ยงต่อการใช้ยาอย่างใกล้ชิด และจักษุแพทย์จะทำการแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีถ้ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ในทางตรงข้าม การใช้ยาสเตียรอยด์ ไม่ควรหยุดยาเองเมื่อเห็นว่าอาการดีขึ้นนานแล้ว เนื่องจากการหยุดใช้ยาสเตียรอยด์ ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไปโดยมีแพทย์เป็นผู้แนะนำ การหยุดยาเองโดยทันทีส่วนใหญ่จะทำให้โรคที่รักษากำเริบขึ้นมาอีกซึ่งมักจะมี อาการรุนแรงขึ้นกว่าครั้งแรก และจะต้องเริ่มต้นทำการรักษาใหม่ทั้งหมด

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘