โรคกายที่มีผลกับดวงตา : เบาหวานขึ้นตา ไม่ยอมให้จักษุแพทย์ยิงเลเซอร์

คุณเอื้อมพร คนไข้หญิงอายุ 67 ปี มีปัญหาตามัว มาที่ศูนย์สุขภาพสายตา มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นครั้งแรกเนื่องจากลูกสาวพามา โดย  คุณเอื้อมพรเป็นเบาหวานมากว่า 10 ปีและผ่าต้อกระจกมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
            หลังจากการวัดสายตา พบว่ามีค่าสายตาเล็กน้อย และแว่นตาอันเดิมยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ตาแต่ละด้านของคนไข้เห็นได้ดีเพียง  20/40 และ 20/30-2  โดยการเห็นไม่ดีขึ้นหลังจากการใช้  Pin Hole ทางร้านจึงขอตรวจด้วย Slit lamp และเครื่องถ่ายภาพจอตาแต่คนไข้ไม่ให้ความร่วมมือ โดยบอกว่ากลัวสายตาจะเสีย
            จากการสอบถามเพิ่มเติม ได้ความว่า คนไข้ มีอาการเบาหวานขึ้นตา(Diabetic retinopathy) และ ได้รับการรักษาจากจักษุแพทย์หลายครั้งโดยการยิงเลเซอร์ แต่หลังจากการยิงเลเซอร์ทุกครั้งคนไข้กลับรู้สึกว่าตามัวมากขึ้น จนครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คุณเอื้อมพรไปพบจักษุแพทย์ ได้รับการวินิจฉัยว่าควรยิงเลเซอร์อีก แต่คนไข้ปฏิเสธการรักษาเนื่องจากไม่ต้องการให้การเห็นแย่ลงไปอีก
            ทางร้านอธิบายการตรวจของทางร้านโดยเครื่องมือ Slit lamp และ เครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา ว่าเป็นแสงเหมือนกับแสงโดยทั่วไป ไม่มีอันตรายกับดวงตา และจะไม่ทำให้การมองเห็นแย่ลง คนไข้จึงยอมให้ตรวจด้วยเครื่องมือดังกล่าวหลังจากใช้เวลาอธิบายประมาณ 15 นาที
            จากการตรวจด้วย Slit lamp ไม่พบความผิดปกติของเลนส์ IOL โดย พบเนื้อเยื่อเกาะเลนส์บ้างเล็กน้อย แต่ไม่อยู่บริเวณศูนย์กลาง จึงไม่น่าเป็นสาเหตุที่ทำให้การมองเห็นไม่ดี จากการตรวจด้วยเครื่องถ่ายภาพจอตา ปรากฏว่า มีเลือดออกที่จอตาทั้งสองตา และมี Aneurism และ Exudate เป็นบริเวณกว้าง และมีบางส่วนล้ำเข้ามาในจุดศูนย์กลางของการเห็น(Macula) ทาง ร้านจึงอธิบายถึงการรักษาโดยการยิงเลเซอร์ของจักษุแพทย์ว่า เป็นการรักษาที่จำเป็นต้องทำ โดยการยิงเลเซอร์ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องยิงเพื่อทำลายจอตาส่วนดีบางส่วนเพื่อรักษาจอตาในส่วนศูนย์กลาง การเห็นไว้ ไม่เช่นนั้น ถ้าจอตาขาดเลือดเนื่องจากเส้นเลือดฝอยอุดตัน(จากการมีไขมันในเส้นเลือดสูงซึ่งพบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน) จะ ทำให้เกิดการงอกของเส้นเลือดใหม่ที่เปราะแตกง่าย และจะทำให้เบาหวานขึ้นตามีความรุนแรงมากขึ้นด้วย ดังนั้นการที่จักษุแพทย์รักษาโดยการยิงเลเซอร์เป็นการรักษาที่เหมาะสมแล้ว ทางร้านจึงแนะนำให้กลับไปพบจักษุแพทย์เจ้าของไข้โดยเร็วที่สุด เพื่อทำการรักษาต่อ ไม่เช่นนั้นเบาหวานขึ้นตาจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆและอาจทำให้ตาบอดได้ในที่สุด
            นอก จากการชี้แจงการรักษาโดยการยิงเลเซอร์แล้ว ทางร้านยังแนะนำคนไข้ให้พยายามคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดและคุมความดัน โลหิตให้ได้ ซึ่งถ้าสามารถคุมได้จะทำให้อาการเบาหวานขึ้นตามีความรุนแรงลดลง และถ้าคุมได้ในระยะยาว อาจไม่ต้องถูกยิงเลเซอร์อีกก็เป็นได้ หลังจากอธิบาย คนไข้ยอมไปพบจักษุแพทย์เพื่อทำการรักษาเบาหวานขึ้นตาต่อไป และขอบคุณผู้ตรวจที่ให้คำแนะนำให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการรักษา โดยการยิงเลเซอร์ของจักษุแพทย์

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘