การบำรุงรักษาและปรับแต่ง Windows

การบำรุงรักษาและปรับแต่ง Windows
เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น และมีอายุการใช้งานนานขึ้น

สิ่งหนึ่งที่คอมพิวเตอร์แตกต่างจากโทรทัศน์ก็คือ เมื่อใช้งานไป คอมพิวเตอร์จะทำงานช้าลงเรื่อย ๆ
เนื่องจากการทำงานของระบบ Windows จะสร้างไฟล์ต่าง ๆ ขึ้นมาโดยเราไม่รู้ตัว
การบำรุงรักษาและปรับแต่ง Windows จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น และมีอายุการใช้งานนานขึ้น
วิธีต่อไปนี้เป็นวิธีง่าย ๆ และปลอดภัยที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองครับ

ขอออกตัวนะครับว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ ที่เขียนเรื่องนี้ก็หวังเพียงว่าน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้าง
หากพบสิ่งใดผิดพลาดบกพร่อง รบกวนช่วยแจ้งให้ทราบ เพื่อจะได้แก้ไขปรับปรุงต่อไป ขอบคุณมากครับ
สามารถดาวน์โหลดไฟล์ (21 หน้า มีภาพประกอบ) ได้ที่
http://sites.google.com/site/lovethisman123/articles/windows

Windows ในที่นี้หมายถึง Windows XP Professional Service Pack 3 ซึ่งใช้ได้กับ Service Pack 2 ด้วย
ถ้าอยากรู้ว่าเราใช้ Windows อะไร
ให้คลิกขวา My Computer บน Desktop (หน้าจอแรกเมื่อเปิดเครื่องเรียบร้อยแล้ว) > คลิก Properties
จะมีหน้าต่างบอกให้ทราบว่าเราใช้ Windows อะไร

1. ใช้โปรแกรม Disk Cleanup ทำความสะอาด Windows
การทำงานของ Windows จะสร้างไฟล์ชั่วคราว (temporary file)
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าใช้โปรแกรม Internet Explorer
Windows จะเก็บไฟล์ของเว็บเพจที่เราดูไว้ที่โฟลเดอร์ Temporary Internet Files
หรืออีกตัวอย่างคือ ไฟล์ที่เราลบ (delete) ทิ้ง
ปกติ Windows จะยังไม่ลบไฟล์นั้นจริง ๆ แต่จะเก็บไว้ในถังขยะ (Recycle Bin) ก่อน
เมื่อเวลาผ่านไป ไฟล์เหล่านี้จะยิ่งสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ กินพื้นที่และอาจทำให้ทำงานช้าลง

เราสามารถลบไฟล์เหล่านี้โดย
ปิดโปรแกรมอื่น ๆ ทั้งหมด (ถ้าเปิดอยู่) แล้วไปที่
Start (มุมซ้ายล่างของหน้าจอ) > All Programs > Accessories > System Tools > Disk Cleanup > เลือก drive ที่ต้องการ (แนะนำให้เริ่มทำจาก drive C: ก่อน เสร็จแล้วจึงเลือก drive อื่น) > OK

รอสักครู่ขณะ Windows กำลังสแกนค้นหาไฟล์

จะมีหน้าต่างขึ้นมาบอกว่ามีไฟล์อะไร ขนาดเท่าไหร่ สามารถคลิกเลือกเครื่องหมายถูกได้ทุกช่อง
เราสามารถลบไฟล์เหล่านี้ได้อย่างสบายใจ
ไม่ต้องกังวลว่าปลอดภัยหรือไม่ จะกระเทือนการทำงานของคอมพิวเตอร์หรือไม่
เพราะเป็นไฟล์ที่ Windows บอกแล้วว่าเป็นไฟล์ชั่วคราว

ดูคำอธิบายของไฟล์แต่ละประเภทได้โดยคลิกที่ชื่อไฟล์นั้น

คลิก OK > จะมีหน้าต่างขอคำยืนยัน คลิก Yes

เราสามารถใช้ Disk Cleanup ได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่รู้สึกว่าคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง
แนะนำว่าน่าจะทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งานโปรแกรม
อาจทำ shortcut (ทางลัด) ไว้บน Desktop (หน้าจอเมื่อเราเปิดเครื่องเรียบร้อยแล้ว)
โดยไปที่ Start > All Programs > Accessories > System Tools > Disk Cleanup
คลิกขวาที่ชื่อโปรแกรม > เลือก Send To > Desktop (create shortcut)
Windows จะสร้าง shortcut เพิ่มให้บน Desktop
การสร้าง shortcut ไม่ได้เป็นการย้าย แต่เป็นการ copy (ป้ายชื่อโปรแกรม) เพิ่ม
เราสามารถคลิกเปิดโปรแกรมนี้จากหน้า Desktop ได้เลย

ก่อนใช้ Disk Cleanup เราอาจทำความสะอาดข้อมูลการท่องอินเทอร์เน็ต
สำหรับ Internet Explorer (ผมใช้ Version 7.0.5730.13) ไปที่
Tools > Internet Options > General > Browsing History > Delete > Delete All > Yes

สำหรับ Firefox ไปที่
Tools > Clear Private Data > คลิกทุกช่อง > Clear Private Data Now

โปรแกรม Firefox เป็นโปรแกรมท่องอินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่า ปลอดภัยกว่า ดีกว่า Internet Explorer
สามารถขยายภาพ (zoom) หน้าเว็บเพจได้ และมีเวอร์ชั่นภาษาไทยให้เลือกด้วย
ดาวน์โหลดฟรีได้ที่
http://www.mozilla.com
Version ล่าสุด 3.0.10 ขนาดไฟล์ 7.1 MB

หลังจากติดตั้ง Firefox แล้วติดตั้งโปรแกรมเสริม (plugin) ด้วย
ที่สำคัญคือ Adobe Flash Player
ซึ่งสามารถช่วยให้เราดูเว็บไซต์ซึ่งใช้ไฟล์ Flash (ตัวอย่างเช่น YouTube) ได้

ให้เปิดโปรแกรม Firefox (ไม่ใช้ Internet Explorer เพราะจะได้ Flash Payer แตกต่างกัน)
แล้วไปที่
http://www.adobe.com
คลิก Get Adobe Flash Player > Agree and install now
> เลือกที่เก็บไฟล์ > หลังจากดาวน์โหลดเสร็จ ให้ติดตั้งโปรแกรมโดยคลิกสองครั้งและทำตามขั้นตอนที่ขึ้นมา

Version ล่าสุด 10.0.22.87 ขนาด 1.8 MB โปรแกรมนี้ฟรีครับ

นอกจาก Disk Cleanup แล้วยังมีโปรแกรมช่วยทำความสะอาดอื่น ๆ ซึ่งต้องติดตั้งเพิ่มเติม
ที่นิยมกันได้แก่ CCleaner และ Advanced System Care
ซึ่งทำความสะอาดได้มากกว่า Disk Cleanup แต่การใช้งานต้องมีความรู้และความระมัดระวัง
เนื่องจากโปรแกรมเหล่านี้สามารถทำความสะอาด Registry (ฐานข้อมูลของ Windows)
อาจใช้โปรแกรมเหล่านี้เป็นทางเลือกสุดท้าย เมื่อเครื่องทำงานช้าผิดปกติมาก และยังไม่อยากลง Windows ใหม่

สามารถดาวน์โหลดได้ที่
http://www.download.com
เป็นเว็บไซต์ที่มีผู้นิยมดาวน์โหลดมากที่สุดในโลก หรือไปที่เว็บไซต์ของโปรแกรมโดยตรง

CCleaner
Version ล่าสุด 2.19.900 ขนาดไฟล์ 3.08 MB
http://www.ccleaner.com

Advance System Care
Version ล่าสุด 3.3.1 ขนาดไฟล์ 7.27 MB
http://www.iobit.com

2. ใช้โปรแกรม Disk Defragmenter จัดเรียงข้อมูล
Windows จะเลือกว่าจะเก็บไฟล์ต่าง ๆ ไว้ตรงไหน
ซึ่งอาจจะกระจัดกระจายไปบน hard disk ไม่ได้เรียงติดต่อกัน
ทำให้เวลาทำงานหัวอ่านของ hard disk ต้องเคลื่อนที่มากขึ้น ทำงานหนักขึ้น
และทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง
โปรแกรมนี้จะช่วยจัดเรียงข้อมูลบน hard disk ใหม่
ให้ไฟล์ต่าง ๆ เรียงต่อเนื่องกันมากขึ้น
ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น และยืดอายุการใช้งานของ hard disk

ก่อนจะใช้ควรใช้โปรแกรม Disk Cleanup ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกก่อน
ให้ปิดโปรแกรมอื่น ๆ ทั้งหมด (ถ้าเปิดอยู่) ก่อนแล้วไปที่
Start > All Programs > Accessories > System Tools > Disk Defragmenter
คลิกเลือก drive แนะนำให้เลือก drive C: ก่อน เสร็จแล้วจึงเลือก drive อื่น

คลิก Defragment
โปรแกรมจะเริ่มทำงานโดยแสดงการจัดเรียงไฟล์ก่อนและหลังเปรียบเทียบให้ดูด้วย
สีแดงเป็นไฟล์ที่กระจัดกระจาย (fragmented files)
สีน้ำเงินเป็นไฟล์ที่เรียงต่อเนื่องกัน
สีเขียวเป็นไฟล์สำคัญของระบบที่ใช้โปรแกรมนี้ย้ายไม่ได้

ขณะกำลังทำงาน ไม่ควรเปิดใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ
บางครั้งโปรแกรมนี้อาจใช้เวลานาน ถ้าจำเป็นต้องปิดคอมพิวเตอร์ก่อน สามารถคลิก Stop ได้
เมื่อโปรแกรมทำงานเสร็จแล้วจะมีข้อความขึ้นมารายงาน ให้คลิก Close

หลังจากติดตั้งโปรแกรมใหม่หรือถอดโปรแกรมอะไรออก ควรใช้โปรแกรมนี้จัดเรียงข้อมูลใหม่ทุกครั้ง
หรืออาจทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง

3. ใช้โปรแกรม PageDefrag ช่วยจัดเรียงข้อมูล
ปกติ Windows จะสร้าง paging file
เพื่อช่วยการทำงานในกรณีที่ใช้หน่วยความจำมากกว่าหน่วยความจำหลัก (RAM)
paging file เหล่านี้อาจจะเรียงกระจัดกระจาย ทำให้ทำงานช้าลง
เนื่องจากโปรแกรม Disk Defragmenter ไม่สามารถจัดเรียง paging file ได้
จึงต้องใช้โปรแกรม PageDefrag
ซึ่งนอกจากจะจัดเรียง paging file แล้วยังช่วยจัดเรียง Registry (ฐานข้อมูลของ Windows) ด้วย

ดาวน์โหลดได้ฟรีที่
http://technet.microsoft.com/en-au/sysinternals/bb897426.aspx
Version ล่าสุด 2.32 ขนาดไฟล์ 70 KB
โดย Microsoft จะไม่สนใจตรวจสอบ Windows ของเราว่าเป็นของแท้หรือไม่

โปรแกรมนี้ใช้งานโดยไม่ต้องติดตั้ง เพียงแต่เปิดโปรแกรมขึ้นมา
เลือก Defragment at next boot > OK > Restart คอมพิวเตอร์

โปรแกรมจะทำงานก่อนเข้าหน้าจอตามปกติ

เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
แนะนำให้สร้างโฟลเดอร์ไว้ที่ที่เราจะไม่เคลื่อนย้ายอีก (ผมสร้างไว้ใน C:\Program Files)
แล้วทำ shortcut ไว้บน Desktop

เราสามารถเปลี่ยนชื่อ shortcut ได้ เช่นจากชื่อเดิม pagedfrg เป็น PageDefrag
การเปลี่ยนชื่อนี้เพื่อให้เข้าใจง่าย และเปลี่ยนเฉพาะ shortcut ไม่ได้เปลี่ยนชื่อไฟล์จริง ๆ
เปรียบเหมือนเปลี่ยนป้ายบอกทางไปสถานที่แห่งหนึ่ง ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวสถานที่นั้น ๆ
(shortcut เปรียบเหมือนป้ายบอกทางไปหาโปรแกรม)

4. ลด effect ของ Windows
ปกติเวลาเปิดคอมพิวเตอร์ Windows จะมี effect ต่าง ๆ มากมายเพื่อให้หน้าจอดูสวยงาม
ซึ่ง effect เหล่านี้ทำให้เครื่องช้าลง เราสามารถปิด effect ต่าง ๆ ได้โดย

คลิกขวา My Computer (มุมซ้ายบนของ Desktop) >
เลือก Properties > Advanced > Performance > Settings > Visual Effects Adjust for best performance
(พอคลิกแล้วจะเห็นว่าเครื่องหมายถูกหน้าช่อง effect ต่าง ๆ จะหายไปหมด)
> คลิก Apply > OK

จะเห็นว่าแถบบาร์ด้านล่างหน้าจอจะเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีเทา
ถ้าอยากให้ Windows ดูเป็นแบบเดิม (บาร์สีน้ำเงิน) อาจเลือกคลิกเลือก effect เฉพาะ 2 ช่องล่างคือ
Use drop shadows for icon labels on the desktop
Use visual styles on windows and buttons
(พอคลิกเลือกแล้วสังเกตว่า Adjust for best performance จะเปลี่ยนเป็น Custom)
คลิก Apply > OK

5. ไม่ให้โปรแกรมที่ไม่จำเป็นทำงานเองเมื่อเปิดคอมพิวเตอร์
เมื่อเราเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา มีบางโปรแกรมจะทำงานเองอัตโนมัติ โดยเราไม่รู้ตัว
ถ้าโปรแกรมนั้นเรายังไม่ได้ใช้ ก็จะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานโดยไม่จำเป็น
เราสามารถกำหนดไม่ให้โปรแกรมเหล่านี้ทำงานเอง เมื่อเราเปิดคอมพิวเตอร์ โดยไปที่

Start > Run > พิมพ์ msconfig > OK > Startup > คลิกเอาเครื่องหมายถูกตรงช่องโปรแกรมที่ไม่ต้องการให้ทำงานเองออก (โปรแกรมไหนถ้าเราไม่รู้จักหรือไม่แน่ใจ ควรปล่อยให้มีเครื่องหมายถูกไว้อย่างเดิม)
> Apply > Close

หลังจากนั้นจะมีหน้าต่างขอให้เรา Restart คอมพิวเตอร์ คลิก Restart
หลังจาก Restart เรียบร้อยแล้ว จะมีข้อความขึ้นมาแจ้งให้ทราบว่าเราได้แก้ไขค่า System Configuration Utility
คลิกช่อง Don’t show this message or launch the System Configuration Utility when Windows start
> OK

6. ปิด Automatic Updates ของ Windows
Automatic Updates เป็นบริการที่มีประโยชน์สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows แท้หรือถูกลิขสิทธิ์
จะ มีการดาวน์โหลดโปรแกรมตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของเราว่าใช้ของแท้หรือไม่ (Windows Genuine Advantage) ถ้าพบว่าเราไม่ใช้ของแท้จะมีข้อความขึ้นมาเตือนตอนเปิดคอมพิวเตอร์ หน้า Desktop จะกลายเป็นสีดำ และมีข้อความเตือนที่มุมขวาล่างของหน้าจอ

การเปิด Automatic Updates อาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง
เราสามารถปิด Automatic Updates โดยไปที่
Start > Control Panel > Automatic Updates > Turn Off Automatic Updates

การ ปิด Automatic Updates นี้ จะมีผลเฉพาะการ update Windows เท่านั้น ไม่มีผลต่อการ update โปรแกรมอื่น ๆ เช่น โปรแกรมป้องกันไวรัส ซึ่งสามารถ update อัตโนมัติได้ตามปกติ

เมื่อเราปิด Automatic Updates แล้วจะมีข้อความขึ้นมาเตือนที่มุมขวาล่าง

ถ้าไม่ต้องการให้ปรากฏข้อความนี้ขึ้นมารบกวน ให้ไปที่
Start > Control > Panel > Security Center > Change the way Security Center alerts me > คลิกเครื่องหมายถูกช่อง Automatic Updates ออก > OK

สำหรับการปิด Automatic Updates ที่สมบูรณ์นั้น ควรปิด service ด้วย (ดูข้อ 8)

7. ปิด Windows Firewall
Windows Firewall ทำหน้าที่ป้องกันการบุกรุกจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นหรือจากอินเทอร์เน็ต
แต่ เนื่องจาก Windows Firewall ทำหน้าที่นี้ไม่ค่อยดีนัก เช่นป้องกันขาเข้าแต่ไม่ป้องกันขาออก (ปล่อยให้เอาข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของเราออกไปได้) จึงควรปิด Windows Firewall และติดตั้งโปรแกรม Firewall อื่นมาทำหน้าที่แทน

การปิด Windows Firewall ทำได้โดยไปที่
Start > Control Panel > Windows Firewall > General > Off

เช่นเดียวกับ Automatic Updates
เมื่อเราปิด Windows Firewall แล้วจะมีข้อความขึ้นมาเตือนที่มุมขวาล่าง
ถ้าไม่ต้องการให้ปรากฏข้อความนี้ขึ้นมารบกวน ให้ไปที่
Start > Control > Panel > Security Center > Change the way Security Center alerts me > คลิกเครื่องหมายถูกช่อง Windows Firewall ออก > OK

สำหรับการปิด Windows Firewall ที่สมบูรณ์นั้น ควรปิด service ด้วย (ดูข้อ 8)

โปรแกรม Firewall ที่ขอแนะนำคือ Comodo
ดาวน์โหลดฟรีได้ที่
http://www.personalfirewall.comodo.com
Version ล่าสุด 3.9.76924.507 ขนาดไฟล์ 72.2 MB

8. ปิดบริการ (service) ที่ไม่จำเป็น
เมื่อเราเปิดคอมพิวเตอร์นั้น จะมีบริการ (service) ของโปรแกรมต่าง ๆ ทำงานโดยเราไม่รู้ตัว
ซึ่งส่งผลให้คอมพิวเตอร์ทำงานมากขึ้นและช้าลง บาง service นั้นไม่จำเป็น เราสามารถปิดได้โดยไปที่
Start > Run > พิมพ์ services.msc > คลิกสองครั้ง (double click) ตรง service ที่เราจะปิด > Stop > เลือก Startup type เป็น Disabled > Apply > OK

service ที่น่าปิดคือ Automatic Updates และ Windows Firewall
สำหรับการปิดและปรับค่า service อื่น ๆ นั้น ขอแนะนำให้ดูจากเว็บไซต์
http://www.blackviper.com
ซึ่งมีไฟล์การปรับแต่ง service ให้ดาวน์โหลดฟรีด้วย เป็นไฟล์ PDF 137 หน้า
http://www.blackviper.com/downloads/downloads.php
เลือก Windows XP x86 (32-bit) SP3 Service

9. ถอดโปรแกรมที่ไม่จำเป็นออก
การตั้งตั้งโปรแกรมที่ไม่จำเป็นหรือที่เราไม่ได้ใช้งานเลย
นอกจากจะเปลืองพื้นที่แล้ว ยังอาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงได้ ดังนั้นจึงควรถอดออกโดยไปที่
Start > Control Panel > Add or Remove Programs > คลิกโปรแกรมที่จะถอดออก > Remove > ทำตามขั้นตอนที่มีข้อความขึ้นมา

หลังจากถอดโปรแกรมแล้ว ควรใช้โปรแกรม Disk Defragmenter จัดเรียงข้อมูลใหม่ด้วย (ดูข้อ 2)

10. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส
ไวรัส คอมพิวเตอร์ (computer virus) และโปรแกรมอันตราย (malware) อื่น ๆ เช่น worm, adware, spyware, Trojan ฯลฯ อาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง จึงควรติดตั้งโปรแกรมป้องกัน

ขอแนะนำโปรแกรมป้องกันไวรัส Avira AntiVir
ดาวน์โหลดฟรีได้ที่
http://www.free-av.com
Version ล่าสุด 9.0.0.394 ขนาดไฟล์ 28.68 MB

มีผู้ดาวน์โหลดโปรแกรมนี้จาก download.com เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2552 เวลา 8.04 น. มากเป็นอันดับ 1
จำนวน 37,508,612 ครั้ง

นอกจากนี้เว็บไซต์ Anti-Virus Comparatives ซึ่งนำโปรแกรมป้องกันไวรัสต่าง ๆ มาทดสอบ
ได้ให้ Avira AntiVir เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดของปี 2008 ดูผลการทดสอบได้ที่
http://www.av-comparatives.org

11. ไม่ควรเก็บไฟล์ต่าง ๆ ไว้ใน drive C:
เนื่องจาก drive C: เป็นที่ที่เราติดตั้งไฟล์ของระบบ Windows และโปรแกรมต่าง ๆ
และในการทำงานของโปรแกรมจำเป็นต้องมีพื้นที่ว่างบน drive C: มากพอสมควร
ตัวอย่างเช่นการ copy แผ่น DVD ต้องมีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 5-9 GB (แล้วแต่ขนาดแผ่นต้นฉบับ)
ถ้ามีไฟล์ต่าง ๆ ใน dirve C: มากเกินไป จะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานช้า ไม่ทำงาน แฮงก์ หรือไม่ตอบสนอง
(not responding) ได้

เวลาคอมพิวเตอร์ไม่ทำงานหรือแฮงก์อาจแก้ไขเบื้องต้นโดยลองกดปุ่ม Ctrl, Alt และ Delete ทั้ง 3 ปุ่มพร้อมกัน
> คลิก Applications > คลิกโปรแกรมที่ Not responding > คลิก End Task
จะมีข้อความขึ้นมาให้คลิก End Now

ดังนั้นไม่ควรเก็บไฟล์ต่าง ๆ ที่ไม่ใช่โปรแกรมไว้ใน drive C: ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร ภาพ เพลง และเนื่องจาก My Documents และ Desktop อยู่ใน drive C: จึงไม่ควรเก็บไฟล์ไว้ใน My Documents และ Desktop

เราสามารถดูว่า drive C: เหลือพื้นที่เท่าไหร่โดย
เปิด My Computer > คลิกขวา drive C: > Properties > General
จะ มีข้อมูลและกราฟวงกลมบอกว่า drive C: มีขนาดพื้นที่ (capacity) ทั้งหมดเท่าไหร่ ใช้พื้นที่ไปแล้ว (used space) เท่าไหร่ เหลือพื้นที่ (free space) อีกเท่าไหร่

12. ปิด System Restore
System Restore เป็นโปรแกรมที่ช่วยกู้ระบบ Windows ให้สามารถย้อนเวลากลับไปตอนที่คอมพิวเตอร์ทำงานเป็นปกติในอดีต มีประโยชน์มากเวลาที่ติดตั้งโปรแกรมใหม่ ถอดโปรแกรม หรือปรับแต่งอะไรแล้วทำให้คอมพิวเตอร์รวน

การปิด System Restore จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น
แต่ก็ต้องแลกกับความเสี่ยง หาก Windows มีปัญหาขึ้นมาในอนาคต

การปิด System Restore ทำได้โดย
คลิก ขวา My Computer > Properties > System Restore > คลิกให้มีเครื่องหมายถูกช่อง Turn off System Restore on all drive > Apply > จะมีข้อความขอให้ยืนยัน > Yes

นอกจากนี้เรายังสามารถปิด System Restore เฉพาะบาง drive
หรือลดขนาดพื้นที่ที่จะใช้เก็บข้อมูลสำหรับ System Restore เพื่อเพิ่มขนาดพื้นที่ว่างบน drive
โดยคลิกขวา My Computer > Properties > System Restore > คลิกเลือก drive > Settings
ถ้าจะปิดให้เลือก Turn off System Restore on this drive
ถ้าจะลดพื้นที่เก็บข้อมูล System Restore ให้ลากสไลด์บาร์แล้วดูตัวเลขขนาดพื้นที่ตามต้องการ
คลิก OK

13. ลดขนาด Recycle Bin
Recycle Bin เป็นถังขยะที่ใช้เก็บไฟล์ที่ถูกลบ (delete)
ไฟล์ที่อยู่ใน Recycle Bin สามารถกู้กลับไปได้โดยคลิกขวาที่ไฟล์นั้นแล้วเลือก Restore

การลดขนาด Recycle Bin จะช่วยให้มีพื้นที่ว่างบน drive มากขึ้น
ทำได้โดยคลิกขวา Recycle Bin > Properties
ถ้า จะปรับแต่งทุก drive เป็นเปอร์เซ็นต์เท่ากัน คลิก Global > คลิก Use one setting for all drive > ลากสไลด์บาร์ตามต้องการ > Apply > OK
ถ้า จะปรับแต่ละ drive แตกต่างกัน ให้คลิก Global > คลิก Configure drives independently > คลิกที่ drive นั้น > ลากสไลด์บาร์ตามต้องการ > Apply > OK

14. ใช้ Check Disk ตรวจสอบและซ่อมแซม hard disk
บาง ครั้งสาเหตุของการทำงานช้าหรือผิดพลาดของคอมพิวเตอร์มาจาก hard disk มีปัญหา หรือมีความเสียหาย (bad sector) เราสามารถใช้โปรแกรม Check Disk ช่วยซ่อมแซมได้โดย
ปิดโปรแกรมอื่น ๆ ให้หมด > เปิด My Computer > คลิกขวา drive ที่ต้องการ > Properties > Tools > Error-checking > Check now > คลิกให้มีเครื่องหมายถูกหน้าช่อง Automatically fix file system error และ Scan for and attempt recovery of bad sectors > Start

รอสักครู่ขณะโปรแกรมทำงาน (ไม่ควรเปิดโปรแกรมอื่นไปด้วย) เฉพาะ drive C: จะมีข้อความขึ้นมาขอให้เรา restart ก่อน โปรแกรมจะทำงานช่วงก่อนที่เราจะเข้าหน้าจอตามปกติ

15. เปิด Screen Saver เพื่อรักษาจอคอมพิวเตอร์
Screen Saver เป็นโปรแกรมที่ช่วยรักษาหน้าจอเมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้นาน ๆ โดยไม่ได้ใช้งาน
ให้ คลิกขวาที่ว่างบนหน้า Desktop > Properties > Screen Saver > เลือก Screen Saver ที่ชอบ (มีตัวอย่างให้ดูด้วย) > Apply > OK

คำแนะนำที่ดีกว่านี้คือ เมื่อไม่ใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ ควรปิดคอมพิวเตอร์ไปเลย
หรือถ้ายังไม่อยากปิดคอมพิวเตอร์ ก็อาจจะปิดเฉพาะจอ โดยกดปุ่มปิดที่จอโดยตรง

16. ไม่ควรทำงานเวลามีอากาศร้อนจัด
เพราะอาจทำให้เครื่องแฮงก์ และอายุการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ สั้นลง

แถม
ทางลัดเพื่อช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น
Copy คลิกไฟล์หรือลากคลุมข้อความที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Ctrl และ C พร้อมกัน
Cut คลิกไฟล์หรือลากคลุมข้อความที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Ctrl และ X พร้อมกัน
Paste คลิกไฟล์หรือลากคลุมข้อความที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Ctrl และ V พร้อมกัน
Undo ยกเลิกการกระทำล่าสุด กดปุ่ม Ctrl และ Z พร้อมกัน
เลือกทั้งหมด กดปุ่ม Ctrl และ A พร้อมกัน
เลือกไฟล์ที่ติดกัน คลิกเลือกไฟล์แรก > กดปุ่ม Shift ค้างไว้ > คลิกไฟล์สุดท้าย
เลือกไฟล์ที่ไม่ติดกัน คลิกเลือกไฟล์แรก > กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ > คลิกเลือกไฟล์ที่ต้องการ
เปิด My Computer กดปุ่ม Windows และ E พร้อมกัน (ปุ่ม Windows อยู่ข้างปุ่ม Alt)
ไปหน้า Desktop กดปุ่ม Windows และ D พร้อมกัน


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘