การวิเคราะห์เชิงตัวเลข 19

หลังจากที่ดูว่าบริษัทมีทรัพย์สิน หรือสมบัติในการดำเนินงานเป็นอะไรบ้างแล้ว คราวนี้เราก็มาดูในส่วนของหนี้สินกันบ้าง หนี้สินเป็นสิ่งที่บริษัทจะต้องมีโดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบจากใครบางคนด้วยเงินเชื่อ ก็ทำให้บริษัทเกิดหนี้สินแล้ว แต่ถ้าหากบริษัทสามารถสร้างกำไรจากส่วนของหนี้นั้นได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ผู้ถือหุ้นต้องการ และแบบนี้เรียกว่า ยิ่งเป็นหนี้ ยิ่งรวย ครับ

หนี้สิน
เมื่อเราเริ่มคุ้นเคยกับสิ่งที่บริษัทเป็นเจ้าของ เราก็สามารถมองอีกด้านหนึ่งของงบดุลได้ นั่นคือดูว่าบริษัทมีหนี้สินอะไรไว้กับใครบ้าง ก็เหมือนกับสินทรัพย์ที่ว่ามีประเภทหรือรายการหลักๆ ของหนี้สินอยู่สองประเภทคือ หนี้สินหมุนเวียน (current liabilities) และหนี้สินไม่หมุนเวียน (noncurrent liabilities)

- หนี้สินหมุนเวียน
หนี้สินที่บริษัทจะต้องจ่ายคืนภายในหนึ่งปีจะเรียกว่าหนี้สินหมุนเวียน รายการหลักๆ ที่นักลงทุนจะต้องให้ความสนใจก็คือเรื่องของ หนี้สินระยะสั้นและเจ้าหนี้การค้า (เรียกว่า account payable - เจ้าหนี้การค้า คือ บริษัทมีเจ้าหนี้การค้าอยู่) ซึ่งเรียกง่ายๆ ก็คือหนี้สินที่เกิดจากการที่บริษัทได้ไปซื้อเงินเชื่อมา ซึ่งเมื่อถึงเวลาก็จะต้องใช้คืนนะครับ

- หนี้สินระยะสั้น
รายการนี้คือเงินที่บริษัทได้ขอยืมมาโดยมีกำหนดที่จะใช้คืนภายในหนึ่งปี ตัวอย่างง่ายๆ ก็เช่นเงินเบิกเกินบัญชีทั้งหลาย โดยทั่วไปแล้ว เงินในส่วนนี้จะต้องถูกนำมาใช้ประโยชน์ในระยะสั้น คือเป็นเงินหมุนเวียนเท่านั้น ไม่ใช่นำไปซื้อเครื่องจักวัสดุอุปกรณ์ที่จะต้องใช้เวลาในการคืนทุนนาน บางทีเงินส่วนที่เป็นหนี้สินระยะยาวที่ถึงคราวที่จะครบกำหนดชำระคืนเหลือภาย ในหนึ่งปี ก็จะโดนย้ายมาไว้ในรายการนี้เช่นกัน เงินส่วนนี้เป็นหนี้สินที่มีความสำคัญ เนืองจากจะต้องมีการใช้หนี้คืนกลับไปในเวลาอันสั้น ทำให้ต้องวุ่นวายมากในการจัดการกับเงินสด

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘