การลงทุนบนสถานการณ์ประเทศไทย

หลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่มีการนองเลือดในกรุงเทพฯอย่างไม่ คาดการณ์มาก่อน โดยมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บอีกหลายร้อยคน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีลูกค้าสอบถามเข้ามามากว่า ประเทศไทยจะเป็นอย่างไรต่อไป ?
      
       จากการวิเคราะห์สถานการณ์ในประเทศไทย คำตอบสั้นๆจากเราคือ “เรายังไม่รู้” และเราเองก็สงสัยว่าจะมีใครรู้บ้าง ความรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการประท้วงที่พอจะเรียกได้ว่าอยู่ใน ความสงบเรียบร้อยมานานหนึ่งเดือน จึงเป็นการยากที่จะบอกได้ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นไปในทิศทางที่มีการประนี ประนอมกันได้หรือไม่ลงรอยกันมากขึ้น
      
       ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้ประสบกับสถานการณ์ที่มีการเดินขบวน ประท้วงรัฐบาลของประชาชนที่กลายเป็นความรุนแรงที่คล้ายคลึงกับครั้งนี้มา แล้วหลายครั้ง หลังจากปี 2516 2519 2535 และปีที่แล้ว ล้วนจบลงด้วยเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็สามารถประนีประนอมกันได้และเหตุการณ์กลับคืนสู่ความสงบสันติในที่สุด พร้อมทั้งมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากภาคพลเรือนเข้ามาปกครองประเทศต่อไป
      
       แต่ที่ผ่านมาประเทศไทยก็ยังไม่สามารถสร้างรากฐานการปกครองแบบประชาธิปไตยได้ อย่างมั่นคง เหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นจึงเป็นเพียงการตอกย้ำถึงความอ่อนแอในระบอบการ ปกครองที่ผ่านมาในอดีต โดยที่โครงสร้างการปกครองของไทยยังคงมีลักษณะเผด็จการในหลายรูปแบบ และกองทัพยังคงเป็นผู้ตัดสินในท้ายที่สุดว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นที่เปิดเผยหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้โดยผ่านการปฎิวัติรัฐประหารหรือการบงการอยู่เบื้องหลัง
      
       อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยได้ผ่านการพัฒนา จนความคาดหวังเกี่ยวกับการกระจายรายได้และแบ่งปันทรัพยากรภายในประเทศได้ เติบโตขึ้นตามลำดับ แต่ความแตกแยกทางสังคมของไทยในครั้งนี้กลับรุนแรงลึกซึ้งมากกว่าครั้งใดๆ
       ทุกคนมีความเห็นทางการเมืองในแบบฉบับของตน แต่เราขอกล่าวในที่นี้ในสองประเด็น ประเด็นแรกคือการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของผู้คนอาจมีขอบเขตที่มากกว่ารายงานที่ชี้ ว่าเป็นแค่การแบ่งชนชั้นของคนกรุงเทพฯและคนชนบทที่ห่างไกล ประเด็นที่สองคือฝ่ายที่ตรงข้ามกันทั้งสอง พร้อมกลุ่มผู้สนับสนุนที่ใส่เสื้อทีมต่างสีกันโดยเลียนแบบเกมกีฬาอย่างน่า เศร้า ถ้าโชคช่วยก็อาจจะพัฒนารูปแบบไปสู่แนวทางการเมืองในระบบสองพรรคอย่างแท้จริง มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี
      
       สิ่งที่ยังมีความหวังในความเห็นของเราคือ กองทัพ ซึ่งในขณะนี้ดูเหมือนจะมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าอาจจะมีส่วนช่วยให้ความรุนแรงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อยู่ในวงจำกัด อีกทั้งเรายังมีบทเรียนจากเกาหลีและไต้หวันในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน ที่สามารถก้าวผ่านสถานการณ์ทางการเมืองภายใต้กฎอัยการศึก แต่ทั้งสองประเทศอยู่ในระบอบสาธารณรัฐ ส่วนไทยอยู่ในระบอบกษัตริย์ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์ยุ่งยากต่างจากที่เราเคยพบเห็น อีกหนทางหนึ่งที่เป็นไปได้ในอนาคตคือการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ค่อนข้างเหมือนในฟิลิปปินส์ ซึ่งการเมืองเป็นเพียงภาษาของคำสัญญาที่ว่างเปล่าและกลายเป็นอุปสรรคของการ พัฒนาประเทศ
      
       แต่ประเทศไทยมีข้อแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่ง นั่นคือเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกิจของไทยมีอุตสาหกรรมที่กระจายตัวได้อย่างกว้างขวาง ไทยสามารถเลี้ยงตัวเองได้ และส่งออกสินค้าหลากหลายชนิดที่ผู้คนต้องการซื้อ ตั้งแต่ข้าวไปจนถึงรถยนต์ ผู้คนต้องการมาเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทย ซึ่งเหนือกว่าหลายประเทศที่มีข้อจำกัดในการผลิต ที่จริงไทยมีความสำเร็จสูงที่เดียวในหลายปีที่ผ่านมา และน่าจะผ่านพ้นแรงกดดันจากภัยคุกคามที่มาจากจีนได้ดีกว่าหลายประเทศเพื่อน บ้าน และอันที่จริงจีนกลับเป็นแหล่งอุปสงค์ของผลิตผลจากไทยที่สำคัญรายหนึ่ง
      
       ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจหากไทยเริ่มมีการฟื้นตัวตามวงจร แม้ว่าจะยังล้าหลังกว่าประเทศคู่แข่งที่นำหน้าไทยอยู่ในการส่งออก แต่การเปลี่ยนแปลงที่รอวันจะปรากฎตัวได้เกิดขึ้นแล้ว ปฎิกิริยาของตลาดหุ้นในช่วงหนึ่งปีจนถึงช่วงที่เกิดความรุนแรงขึ้นในประเทศ กลับสามารถดีดตัวสูงขึ้นได้ถึง 9.29% ในมูลค่าที่เป็นบาท และนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นมูลค่า 1.67 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่หลังจากนั้นตลาดหุ้นก็ปรับตัวลดลงจนลบส่วนที่ปรับขึ้นออกไปเกือบหมด
       มีการพูดกันมากในขณะนี้ถึงการกลับมาของความเสี่ยง แต่เราขอย้ำว่าพื้นฐานของประเทศไทยยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในสัปดาห์ที่ผ่าน มา นอกจากว่าคุณจะได้ซื้อหุ้นไปเมื่อเดือนมีนาคม ก็อาจจะต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในระยะนี้
      
       ในระยะสั้น ปัจจัยจิตวิทยาจะเป็นเรื่องที่สำคัญในตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นไทยก็ผันแปรไปจากทิศทางของเศรษฐกิจไทยมาก เราสามารถเตือนคุณได้ตลอดว่าการลงทุนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับว่าคุณได้ซื้อ อะไรและในราคาเท่าไร นักลงทุนต่างชาติจะยึดหลักการบางอย่าง แม้ว่าพวกเขาจะเข้ามาซื้อหุ้นจากโอกาสที่เกิดขึ้นตามจังหวะที่หมุนเวียนไป แต่หุ้นไทยในขณะนี้ เราขอย้ำว่ายังมีราคาถูกทั้งในความเป็นจริงและจากการเปรียบเทียบกับตลาด อื่นๆ
      
       ในขณะที่คนที่คุ้นเคยกับการลงทุนในรูปแบบของอเบอร์ดีนสามารถคาดการณ์ได้ว่า เราให้ความสนใจมาระยะหนึ่งในหุ้นที่มีขนาดกลางจนถึงเล็กบางตัว รวมถึงหุ้นผู้นำบางตัวด้วย แต่โดยหลักใหญ่เราจะซื้อเพิ่มหุ้นตัวเดิมที่มีในพอร์ตการลงทุนของเราอยู่ แล้ว ซึ่งสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้น และแข็งแกร่งด้วยผลประกอบการของบริษัท โดยบางรายสามารถจ่ายเงินปันผลได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมราคาหุ้นได้มากที่สุด
      
       ที่อยากจะกล่าวไว้อีกครั้งคือกองทุนนี้เติบโตขึ้น 70.68% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา และผลตอบแทนจากการลงทุนใน กองทุน ซีเล็ค ไทยแลนด์ เอคควิตี้ อยู่ที่ 4.2% ผู้ที่สงสัยอาจตั้งคำถามว่ามีหลายบริษัทให้เงินสดคืนแก่ผู้ถือหุ้นในช่วงนี้ ตามวงจรเศรษฐกิจอาจหมายถึงสัญญาณที่ว่าฝ่ายบริหารของบริษัทไม่มีความคิด เกี่ยวกับการสร้างกำไรให้แก่ธุรกิจหรือมีอุปสงค์ลดต่ำลง ในขณะที่กำลังการผลิตยังมีมากเกิน คำวิเคราะห์นี้อาจใช้ได้ในบางบริษัท แต่ อเบอร์ดีนจะลงทุนต่อเมื่อเรามีความหวังอย่างแน่นอนแล้วว่าบริษัทนั้นจะมี พัฒนาการที่ดีและมีการเติบโตของรายได้อย่างมีเสถียรภาพ
       จากที่กล่าวมาทำให้เรากลับไปที่จุดเริ่มต้น นั่นหมายถึงว่าเราจะยังคงเดินหน้าซื้อหุ้นไทยอยู่หรือ ทั้งนี้ จากมุมมองของนักลงทุน เราก็ยังคงเชื่อมั่นในการลงทุนของเรารวมทั้งยังคงมีความระมัดระวัง โดยเราหวังว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะดีขึ้น แต่เราก็ควรจะตั้งข้อสงสัยว่าสุดท้ายผลกระทบจะมีมากเพียงใด หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น โดยที่เราจะไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์อันจะนำมาซึ่งความเสี่ยง
       จากประสบการณ์ทางการลงทุนในประเทศไทยของเราที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี สิ่งที่เกิดขึ้นในยามวิกฤตหลายครั้งของประเทศไทยกลับสร้างโอกาสที่ดีในการ ซื้อหุ้นไทยที่เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘