เป้าหมายทางการเงิน vs เครื่องมือทางการเงิน

หลายๆคนเจอหน้าผมพอรู้ว่าเป็นที่ปรึกษาการเงิน ก็มักจะถามผมว่า
ตอนนี้ลงทุนอะไรดี
ช่วงนี้หุ้นตัวไหนน่าสนใจ
คำถามอะไรทำนองนี้บ่อยมากครับ
ชอบเห็นผมเหมือนหมอดูยังไงยังงั้นอ่ะ
ในใจนะอยากจะตอบว่า "ถ้าตรูรู้ ก็รวยโคตรๆไปแล้วอ่ะ"

งานของผมคืองานที่จะช่วยให้ผู้คนบรรลุเป้าหมายการเงินที่เค้าต้องการ
การได้ผลตอบแทนสูงๆ มันก็ไม่ได้รับรองว่าคุณจะได้เป้าหมายที่คุณหวัง
การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนปีละ 10% ระยะเวลาลงทุน 3ปี
ก็ไม่ได้จะรับรองว่าคุณจะเกษียณในอีก20ปีข้างหน้าอย่างเป็นสุข

การลงทุนในหุ้นกู้อายุ 5ปีที่ให้ผลตอบแทน 7%
ก็ไม่ได้รับรองว่าคุณจะมีทุนการศึกษา
ที่จะส่งลูกคุณไปเรียนต่างประเทศพอตอนลูกคุณอายุ 22

การได้ลงทุนในหุ้นที่เติบโตปีนี้ 20%
ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีเงินเพียงพอกับการจ่ายค่ารักษาโรคมะเร็ง

มันเป็นเรื่องที่คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกันครับ
จอทีวีกับจอโน๊ตบุ๊ค จอเหมือนกันแต่ใช้งานที่เหมาะสมต่างกัน
จอทีวีสีสันสดใส เหมาะที่จะใช้เพื่อความบันเทิง
จอโน๊ตบุ๊ค แม้จะใช้ดูเพื่อความบันเทิงได้ แต่ก็เหมาะที่จะใช้ทำงานมากกว่า

มันไม่มีสินค้าการเงินตัวไหนหรอกครับที่จะตอบสนองทุกเป้าหมายการเงิน
ฝากธนาคารก็เพื่อสภาพคล่อง
ซื้อประกันก็เพื่อโอนย้ายความเสี่ยง หรือผลตอบแทนแน่นอนในระยะยาว
LTF ก็เป็นเครื่องมือลงทุนระยะยาว แถมลดหย่อนภาษี
RMF ก็ช่วยทำให้มีเงินยามเกษียณ บวกสิทธิลดภาษี
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ก็เพื่อรายได้ประจำในระยะยาว
หุ้นสามัญก็เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงจากการลงทุน

เราจะใช้เครื่องมือทางการเงินอะไร
ก็ขึ้นกับเป้าหมายหรือความต้องการทางการเงินของเรา

สำคัญว่าหาคำตอบให้ได้ครับว่าคุณมีเป้าหมายชีวิตเรื่องอะไร เมื่อไหร่
เกษียณอย่างเป็นสุข
ครอบครัวหรือคนที่เรารักมั่นคงปลอดภัย
อยากเห็นลูกได้เรียนสูงๆตามที่เค้าต้องการ
อยากมีอิสระภาพทางการเงิน
อยากมีไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองใฝ่ฝัน

เมื่อเราบอกได้เราก็จะรู้ว่าเราต้องมีเงินเท่าไรเพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น
และต้องทำยังไงให้มีเงินก้อนนั้น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘