เหตุผลที่ DSI ไม่น่าไว้วางใจ
เหตุผลที่ DSI ไม่น่าไว้วางใจ
...............
"สาระ สำคัญของเรื่องนี้คือ พระธัมมชโย ทำผิดกฏหมายจริงหรือไม่ แต่หลายคนพยายามจะลากเรื่องนี้ ไปสู่เรื่องอื่นเช่น
บางคน ไม่ชอบธรรมกาย ก็บอกว่า อยากจะเห็นการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เพราะธรรมกายไม่ใช่ศาสนาพุทธ ซึ่งมุมมองว่า เป็นหรือไม่เป็นเนี๊ยะ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่ศรัทธามี คนที่ไม่ศรัทธา คุณก็ไม่ต้องมาวัดเค้า แต่คุณไม่มีสิทธิ์ไปบอกว่า พุทธศาสนาแบบนี้ ไม่มีอยู่ในประเทศไทย หรือแม้กระทั่ง จะบอกว่าพระธัมมชโย ขาดความเป็นพระแล้ว ความเป็นพระหรือไม่ ขึ้นอยู่กับศรัทธาที่ญาติโยมมี เรื่องแบบนี้ต้องเคารพกัน
คุณจะมาบอกว่า เมื่อคุณไม่ศรัทธา อำนาจรัฐต้องกำจัดคนที่คุณไม่ศรัทธา ไม่มีใครทำได้ ตอนนี้เรื่องคดีพระธัมมชโย ถูกลากไปสู่ประเด็นทางการเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐ มีส่วนสร้างกระแสแบบนี้
ผมเห็นการแถลงข่าวที่ DSI ซึ่งมีการเชิญคุณมโนไป ซึ่งชัดเจนว่าเป็นกลุ่มตรงข้ามธรรมกาย และต่อต้านพระธรรมชโยอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนในแง่การให้ข่าว ก็จะบอกว่า เป็นอดีตลูกศิษย์วัดธรรมกาย ให้คนมีความรู้สึกว่า น่าเชื่อถือ ทำนองว่า แม้กระทั่ง ลูกศิษย์วัดยังยอมรับไม่ได้ คุณมโน มีบทบาทไม่เห็นด้วยกับธรรมกาย และพระธัมมชโยอย่างต่อเนื่อง แต่คุณมโน กลับไปร่วมประชุมกับ DSI ว่าจะดำเนินการกับพระธัมมชโยยังไง
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่หน่วยงานรัฐ ต้องระวัง คุณไม่ควรเอาพลเรือน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอย่างคุณมโน ที่มีภาพในสังคมว่า เป็นคู่ขัดแย้ง อย่างชัดเจน ไปร่วมประชุมกับ DSI
คุณมโนไปในฐานะอะไร DSI ต้องอธิบาย คุณมโนต้องอธิบายต่อว่า เมื่อประชุมกับ DSI เสร็จ คุณมโนมาแถลงข่าว หน้า DSI 2-3 เรื่อง เรื่องที่หนึ่งคือ พระธัมมชโยไม่ป่วยจริง เรื่องที่สองคือ วัดธรรมกายมีโล่มนุษย์ เรื่องที่สามคือวัดพระธรรมกาย มีที่ซุกซ่อนเยอะ ตำรวจเข้าไปก็หาใครไม่เจอ คุณมโนจะเปิดเผยที่ซ่อนหลักๆให้ การแถลงแบบนี้ในสถานที่ราชการ คนที่ได้ยินได้เห็น ก็จะรู้สึกว่ามันมีความลำเอียงเกิดขึ้น
ความไม่ไว้วางใจ เกิดขึ้นเพราะมีคนจำนวนมากที่เป็นศิษย์วัดธรรมกาย เค้ากลัวอำนาจรัฐว่า มีฝักมีฝ่าย มีความลำเอียงหรือป่าวฯลฯ"
โดย:อ.ศิโรฒน์ คล้ามไพบูลย์ (Thai Press)
...............
"สาระ สำคัญของเรื่องนี้คือ พระธัมมชโย ทำผิดกฏหมายจริงหรือไม่ แต่หลายคนพยายามจะลากเรื่องนี้ ไปสู่เรื่องอื่นเช่น
บางคน ไม่ชอบธรรมกาย ก็บอกว่า อยากจะเห็นการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย เพราะธรรมกายไม่ใช่ศาสนาพุทธ ซึ่งมุมมองว่า เป็นหรือไม่เป็นเนี๊ยะ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่ศรัทธามี คนที่ไม่ศรัทธา คุณก็ไม่ต้องมาวัดเค้า แต่คุณไม่มีสิทธิ์ไปบอกว่า พุทธศาสนาแบบนี้ ไม่มีอยู่ในประเทศไทย หรือแม้กระทั่ง จะบอกว่าพระธัมมชโย ขาดความเป็นพระแล้ว ความเป็นพระหรือไม่ ขึ้นอยู่กับศรัทธาที่ญาติโยมมี เรื่องแบบนี้ต้องเคารพกัน
คุณจะมาบอกว่า เมื่อคุณไม่ศรัทธา อำนาจรัฐต้องกำจัดคนที่คุณไม่ศรัทธา ไม่มีใครทำได้ ตอนนี้เรื่องคดีพระธัมมชโย ถูกลากไปสู่ประเด็นทางการเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐ มีส่วนสร้างกระแสแบบนี้
ผมเห็นการแถลงข่าวที่ DSI ซึ่งมีการเชิญคุณมโนไป ซึ่งชัดเจนว่าเป็นกลุ่มตรงข้ามธรรมกาย และต่อต้านพระธรรมชโยอย่างต่อเนื่อง
แน่นอนในแง่การให้ข่าว ก็จะบอกว่า เป็นอดีตลูกศิษย์วัดธรรมกาย ให้คนมีความรู้สึกว่า น่าเชื่อถือ ทำนองว่า แม้กระทั่ง ลูกศิษย์วัดยังยอมรับไม่ได้ คุณมโน มีบทบาทไม่เห็นด้วยกับธรรมกาย และพระธัมมชโยอย่างต่อเนื่อง แต่คุณมโน กลับไปร่วมประชุมกับ DSI ว่าจะดำเนินการกับพระธัมมชโยยังไง
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่หน่วยงานรัฐ ต้องระวัง คุณไม่ควรเอาพลเรือน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องอย่างคุณมโน ที่มีภาพในสังคมว่า เป็นคู่ขัดแย้ง อย่างชัดเจน ไปร่วมประชุมกับ DSI
คุณมโนไปในฐานะอะไร DSI ต้องอธิบาย คุณมโนต้องอธิบายต่อว่า เมื่อประชุมกับ DSI เสร็จ คุณมโนมาแถลงข่าว หน้า DSI 2-3 เรื่อง เรื่องที่หนึ่งคือ พระธัมมชโยไม่ป่วยจริง เรื่องที่สองคือ วัดธรรมกายมีโล่มนุษย์ เรื่องที่สามคือวัดพระธรรมกาย มีที่ซุกซ่อนเยอะ ตำรวจเข้าไปก็หาใครไม่เจอ คุณมโนจะเปิดเผยที่ซ่อนหลักๆให้ การแถลงแบบนี้ในสถานที่ราชการ คนที่ได้ยินได้เห็น ก็จะรู้สึกว่ามันมีความลำเอียงเกิดขึ้น
ความไม่ไว้วางใจ เกิดขึ้นเพราะมีคนจำนวนมากที่เป็นศิษย์วัดธรรมกาย เค้ากลัวอำนาจรัฐว่า มีฝักมีฝ่าย มีความลำเอียงหรือป่าวฯลฯ"
โดย:อ.ศิโรฒน์ คล้ามไพบูลย์ (Thai Press)