เป็นผู้บวชไม่มีเรือนแล้ว
+++ภิกษุทั้งหลาย ! ความคิดอันนี้+++
ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า ทำไมหนอ เราซึ่งมีความเกิด...
ความแก่...ความเจ็บไข้...ความตาย...ความโศก...ความเศร้า...
หมองโดยรอบด้าน เป็นธรรมดาอยู่เองแล้ว
ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า ทำไมหนอ เราซึ่งมีความเกิด...
ความแก่...ความเจ็บไข้...ความตาย...ความโศก...ความเศร้า...
หมองโดยรอบด้าน เป็นธรรมดาอยู่เองแล้ว
จะต้องไปมัวแสวงหาสิ่งที่มีความเกิด...ความแก่...ความเจ็บไข้...
ความตาย...ความโศก...ความเศร้าหมองโดยรอบด้าน
เป็นธรรมดาอยู่อีก
ครั้นได้รู้ถึงโทษอันต่ำทราม ของการมีความเกิด...
ความเศร้าหมองโดยรอบด้าน เป็นธรรมดานี้แล้ว
เราจึงแสวงหานิพพาน อันไม่มีความเกิด...ความเศร้าหมอง
โดยรอบด้าน อันเป็นธรรมเกษมจากเครื่องร้อยรัด
ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าเถิด
ภิกษุทั้งหลาย ! เรานั้นโดยสมัยอื่นอีก ยังหนุ่มเทียว เกสายังดำจัด
บริบูรณ์ด้วยความหนุ่มที่กำลังเจริญ ยังอยู่ในปฐมวัย
มารดาบิดายังไม่ปราถนาด้วย กำลังพากันรองไห้
น้ำตานองหน้าอยู่ เราได้ปลงผมและหนวด
ครองผ้าย้อมฝาด ออกจากเรือน เป็นผู้บวชไม่มีเรือนแล้ว
.........................................................................................
บาลี มู.ม.๑๒/๓๑๖-๒๑๗/๓๑๖.
ความตาย...ความโศก...ความเศร้าหมองโดยรอบด้าน
เป็นธรรมดาอยู่อีก
ครั้นได้รู้ถึงโทษอันต่ำทราม ของการมีความเกิด...
ความเศร้าหมองโดยรอบด้าน เป็นธรรมดานี้แล้ว
เราจึงแสวงหานิพพาน อันไม่มีความเกิด...ความเศร้าหมอง
โดยรอบด้าน อันเป็นธรรมเกษมจากเครื่องร้อยรัด
ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าเถิด
ภิกษุทั้งหลาย ! เรานั้นโดยสมัยอื่นอีก ยังหนุ่มเทียว เกสายังดำจัด
บริบูรณ์ด้วยความหนุ่มที่กำลังเจริญ ยังอยู่ในปฐมวัย
มารดาบิดายังไม่ปราถนาด้วย กำลังพากันรองไห้
น้ำตานองหน้าอยู่ เราได้ปลงผมและหนวด
ครองผ้าย้อมฝาด ออกจากเรือน เป็นผู้บวชไม่มีเรือนแล้ว
.........................................................................................
บาลี มู.ม.๑๒/๓๑๖-๒๑๗/๓๑๖.