พุทธมณฑลปัตตานี
จากกรณีจังหวัดปัตตานีมีแนวคิดสร้าง พุทธมณฑลปัตตานี เนื้อที่ 100 ไร่
บนที่ดินงอกบริเวณปากอ่าวปัตตานี ม.6 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี
จนเกิดเป็นกระแสต่อต้านจากผู้นำศาสนาและ
ประชาชนในพื้นที่ซึ่งนับถือศาสนาอิสลามกว่า 80 เปอร์เซ็นต์
โดยเรียกร้องให้จังหวัดรวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นนายภาณุ
อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.)
นายวีรพงค์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ปัตตานี
รวมถึงพระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี
และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการทบทวนโครงการดังกล่าวอีกครั้งนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
แกนนำในพื้นที่ซึ่งประกอบด้วยผู้นำศาสนา ผู้นำท้องที่ และผู้ท้องถิ่น
ได้นัดประชุมหารือเพื่อกำหนดท่าทีต่อกรณีการคัดค้านสร้างพุทธมณฑลปัตตานี
โดยอาจนัดแนะเดินขบวนต่อต้าน
เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีการสร้างพระพุทธรูปในเขตอุทยานน้ำตกทรายขาว
แหล่งท่องเที่ยวที่ชาวมุสลิมในพื้นที่นิยมไปพักผ่อนมาแล้วครั้งหนึ่ง
ซึ่งครั้งนั้นได้สร้างความไม่สบายใจและเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ของคนใน
พื้นที่
เมื่อปรากฏเป็นข่าวจากสื่อของทางจังหวัดว่าจะมีการสร้างพุทธมณฑลที่
ประดิษฐานมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่
ยิ่งสร้างความไม่สบายใจและความรู้สึกต่อต้านมากยิ่งขึ้น
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมอิสลามจังหวัดปัตตานี และประธานเครือข่ายคณะกรรมการอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงการสร้างพุทธมณฑลปัตตานีว่า อยากให้ทบทวนโครงการดังกล่าวอีกครั้ง เพราะโครงการนี้ยังไม่ได้ผ่านการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนใน พื้นที่ ส่วนตัวจึงเกรงว่าจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง เนื่องจากการสร้างพระพุทธรูปในพื้นที่ที่ประชาชนชาวมุสลิมส่วนใหญ่อาศัยอยู่ นั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่ชาวมุสลิมในพื้นที่รับไม่ได้ ที่ผ่านมาพื้นที่ ต.รูสะมิแล มีการสร้างวัดอยู่หลายแห่ง แต่ชาวมุสลิมก็ไม่เคยต่อต้านหรือคิดจะต่อต้าน เพราะถือเป็นศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของแต่ละศาสนา
เราอยู่กันฉันพี่น้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นดินแดนพาหุวัฒนธรรม แต่กรณีการสร้างพุทธมณฑลในพื้นที่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะที่นี่มีชุมชนมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ล้อมรอบ ไม่ควรที่จะให้เกิดความรู้สึกไม่ดีระหว่างพี่น้องมุสลิมกับพี่น้องไทยพุทธ ผมเชื่อว่าทุกคนอยากให้เป็นเช่นนี้ เรายังมีอะไรที่จะต้องร่วมกันพัฒนาพื้นที่อีกมาก เพื่อนำความเจริญ ความสุข มาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงอยากให้หน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกรุณาทบทวนเพื่อความสงบสุขของบ้าน เมืองที่นี่
ที่มา มุฮัมหมัดรุสดี
(ปล. หากว่ารัฐจะใช้พื้นที่นั้นให้เป็นของส่วนรวมที่ทุกคนทุกหมู่เหล่าสามารถใช้ ได้ เช่น สร้างวิทยาลัย มหาวิทยาลัยทั่วไป สร้างโรงพยายบาล เราก็สนับสนุน/อิหม่ามอัฮหมัดกล่าว)
(ร่วมนำเสนอสิ่งดีๆ โดย เพจศาสนาอิสลาม - الإسلام)
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมอิสลามจังหวัดปัตตานี และประธานเครือข่ายคณะกรรมการอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงการสร้างพุทธมณฑลปัตตานีว่า อยากให้ทบทวนโครงการดังกล่าวอีกครั้ง เพราะโครงการนี้ยังไม่ได้ผ่านการประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนใน พื้นที่ ส่วนตัวจึงเกรงว่าจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง เนื่องจากการสร้างพระพุทธรูปในพื้นที่ที่ประชาชนชาวมุสลิมส่วนใหญ่อาศัยอยู่ นั้นถือเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นเรื่องที่ชาวมุสลิมในพื้นที่รับไม่ได้ ที่ผ่านมาพื้นที่ ต.รูสะมิแล มีการสร้างวัดอยู่หลายแห่ง แต่ชาวมุสลิมก็ไม่เคยต่อต้านหรือคิดจะต่อต้าน เพราะถือเป็นศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อของแต่ละศาสนา
เราอยู่กันฉันพี่น้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เป็นดินแดนพาหุวัฒนธรรม แต่กรณีการสร้างพุทธมณฑลในพื้นที่ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะที่นี่มีชุมชนมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ล้อมรอบ ไม่ควรที่จะให้เกิดความรู้สึกไม่ดีระหว่างพี่น้องมุสลิมกับพี่น้องไทยพุทธ ผมเชื่อว่าทุกคนอยากให้เป็นเช่นนี้ เรายังมีอะไรที่จะต้องร่วมกันพัฒนาพื้นที่อีกมาก เพื่อนำความเจริญ ความสุข มาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงอยากให้หน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกรุณาทบทวนเพื่อความสงบสุขของบ้าน เมืองที่นี่
ที่มา มุฮัมหมัดรุสดี
(ปล. หากว่ารัฐจะใช้พื้นที่นั้นให้เป็นของส่วนรวมที่ทุกคนทุกหมู่เหล่าสามารถใช้ ได้ เช่น สร้างวิทยาลัย มหาวิทยาลัยทั่วไป สร้างโรงพยายบาล เราก็สนับสนุน/อิหม่ามอัฮหมัดกล่าว)
(ร่วมนำเสนอสิ่งดีๆ โดย เพจศาสนาอิสลาม - الإسلام)