ทุกวันนี้คุณเร่งรีบเกินไปหรือเปล่า?

การศึกษาระดับนานาชาติโดยบริติชเคาน์ซิลบอกว่า ประชาชนตามเขตเมืองทั่วโลกเดินเร็วขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา

ผลวิจัยในปี 2537 โดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย พบว่าคนที่เคลื่อนไหวเร็วมักมีแนวโน้มเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจสูงกว่าอัตราเฉลี่ย

นักวิจัยใน 32 เมืองแอบบันทึกระยะเวลาที่คน 70 คนเดินเป็นระยะทาง 18 เมตร บนทางเท้าที่กว้าง เรียบ และโล่ง ผลคือประเทศสิงคโปร์เป็นเมืองที่คนรีบร้อนที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 10.55 วินาที หรือเพิ่มขึ้นจากเดิม ถึงร้อยละ 30 เทียบกับการศึกษาครั้งก่อนเมื่อต้นทศวรรษ 1990 โดยรวมแล้ว ความเร็วในการเดินจากทั่วโลกเพิ่มขึ้น 10%

ศาสตราจารย์ริชาร์ด ไวส์แมน หัวหน้าคณะผู้ศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์ตฟอร์ดเชียร์ กล่าวว่า "เมื่อผู้คนรีบเร่งก็จะใช้เวลากับเพื่อนฝูงน้อยลง ทั้งยังไม่ออกกำลังกาย กินอาหารไม่มีประโยชน์ ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่มากขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสี่ยง(ต่อโรคหัวใจ)"

ความเร่งรีบที่เพิ่มขึ้นสืบเนื่องจากเทคโนโลยีต่างๆ ได้แก่ วัฒนธรรมการใช้อินเทอร์เน็ต อีเมล และโทรศัพท์มือถือ ตลอดจนความจำเป็นที่ต้องพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้ผู้คนมีความอดทนน้อยลงและพยายามจะทำสิ่งต่างๆ มากขึ้นภายในวันเดียว ทำให้ประสิทธิภาพในการตัดสินใจหรือทำอะไรสักอย่างลดลงไปมาก

โดยเฉพาะสังคมในทุกวันนี้เป็นสังคมก้มหน้า แม้แต้ในเวลาทานข้าว ทุกคนมีมือถือแม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ ปัจจุบันเราคุยกันน้อยลงแต่แชทกันมากขึ้น พวกเราอ่านหนังสือกันน้อยลงแต่ดูละครมากขึ้น มีเวลาอยู่กับครอบครัวน้อยลงแต่เที่ยวกลางคืนมากขึ้่น อันมีแต่กิจกรรมซึ่งอันบั่นทอนสุขภาพจิตและสุขภาพกายเป็นส่วนใหญ่

พวกเราจำเป็นต้องเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันกันใหม่ครับ...

เพิ่มชั่วโมงในการทบทวนสิ่งต่างๆ ในชีวิตและหันมาพัฒนาตนเองให้มากขึ้น
ลดการใช้โทรศัพท์ให้น้อยลง พูดคุยคนรอบข้างให้มากขึ้น(โดยเฉพาะคนในครอบครัว)
ดูละครให้น้อยลง อ่านหนังสือให้มากขึ้น
เที่ยวให้น้อยลง และดูแลสุขภาพให้มากขึ้น
นอนให้เร็ว และตื่นให้เช้ามากขึ้น
สุดท้าย เครียดให้น้อยลง ยิ้มให้มากขึ้น

แค่นี้ชีวิตก็ดีขึ้นเยอะแล้วครับ

"ทุกวันนี้คุณเร่งรีบเกินไปหรือเปล่า?"