(อาหารสมองเทรดเดอร์) 3 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินจำนวนมากเกินไป
เราเล่นหุ้นด้วยเงินจำนวนมากเกินไปหรือเปล่า?
ตลาดหุ้นเองมันก็มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้เสมอนะ ไม่ว่าเราจะมีอารมณ์แบบไหนก็ตาม ขาดการเตรียมตัวแค่ไหนหรือดื้อรั้นแค่ไหน การเล่นหุ้นก็จะทำให้เราเห็นถึงจุดอ่อนตรงนี้แน่ๆ
ความผิดพลาดอย่างหนึ่งของพวกเราบางครั้งก็คือ การเล่นหุ้นด้วยเงินจำนวนมากเกินไป ที่อาจจะทำให้เงินในบัญชีของเราลดน้อยลงไปเรื่อยๆ หรืออาจจะทำให้การเล่นหุ้นของเราหาจุดเข้าออกที่ไม่ดีได้ บางครั้งการเล่นหุ้นด้วยเงินจำนวนมากเกินไปก็หมายความว่า การเล่นหุ้นของเราก็ไม่สามารถเอาแน่เอานอนได้ ในขณะที่มีปัจจัยอื่นๆมากมายตามมาที่ทำให้การเล่นหุ้นของเราเป็นไปได้ด้วยดี เราจะต้องเข้าใจว่าการเล่นหุ้นแบบนี้มันจะต้องได้รับการแก้ไข
นี่ถือ 3 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินมากเกินไป
·หากเราเพิ่มวงเงินเล่นหุ้นเพราะว่าเรามาผิดทาง ก็แสดงว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินมากเกินไป แล้วทำไมเราถึงต้องไปเติมเชื้อไฟทั้งๆที่เรามาผิดทางด้วยล่ะ? มัน ทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายไปและบ่อยครั้งเราก็เล่นหุ้นโดยที่ไม่รู้เลยว่า หุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อไร ยิ่งทำให้เรามีความผิดพลาดมากยิ่งขึ้นไปอีก จะทำให้ทักษะของเราย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นเราจะต้องหาถอยหนีออกมาเมื่อรู้ว่าผิดมาตั้งแต่แรกโดยที่ไม่ต้องไป เพิ่มวงเงิน
· หากเรานอนไม่หลับในแต่ละวัน ก็แสดงว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินมากเกินไปแล้ว วลีที่ว่า “ทิศทางปรับตัวลดลงในยามหลับใหล” นั้น ก็ใช้เหตุผลที่บ่งบอกเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี หากเราเดินออกจากหน้าจอในตอนจบแต่ละวันและก็คิดเกี่ยวกับการเล่นหุ้นต่อ เนื่อง ก็อาจจะหมายความว่าเรายึดติดกับวงเงินที่เราเล่นมากเกินไป เราจะต้องตื่นขึ้นมาและหาเหตุผลในการทำกำไรให้ได้ดีกว่า
·หากเราทำตัวเหมือนกับเด็กๆ ก็แสดงว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินมากเกินไปแล้ว การ ที่เรากรี๊ดร้องออกมาบนหน้าจอหุ้น เขวี้ยงคีย์บอร์ด และก็ทุบโต๊ะเหมือนกับเด็กกำลังหัดเดิน ไม่ใช่เทรดเดอร์ หากเราแสดงกิริยาไร้เหตุผลแบบนี้ ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องลดจำนวนเงินให้น้อยลงได้แล้ว ผมเองก็เคยเห็นพฤติกรรมของเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่ชอบเป็นแบบนี้กัน ที่ชอบทำโทษตัวเอง การทำแบบนี้มันก็เหมือนกับอารมณ์ที่เรากำลังเป็นคนขับรถมากกว่าที่จะใช้หลัก เหจุผล และนี่ถือเป็นข้อเสียสำหรับการเล่นหุ้นอย่างมาก การเล่นหุ้นจะต้องมีแบบแผนในการเคลื่อนไหวจะทำยังไงต่อไป แต่พวกเราจะสามารถเดินตามแบบแผนได้มีเหตุมีผลยังไงบ้างล่ะเมื่อเรามีอารมณ์ ฉุนเฉียวไปมา? ผมเองก็ไม่เคยไปคิดเรื่องพวกนี้หรือไปทำ ตัวแบบพฤติกรรมเด็กๆไม่ว่าผลจะออกมาดีร้ายแค่ไหนก็ตาม หากฟังดูแล้วเหมือนกับพวกเรา ก็จะต้องหายใจช้าๆ ค่อยๆวางเงินทุนลงไปและก็กลับเข้ามาสู่แบบแผนของเรา
การวางเงินถือจะวางเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราเล่นหุ้น ได้ดีขึ้นแล้ว อย่าไปฝืนตัวเองเป็นอันขาดหากเดินเกมพลาด จะต้องลดจำนวนเงินน้อยลงเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนที่จะทำให้เรากลับมามีความ เชื่อมั่นอีกครั้ง
รอให้ดอกไม้มันงอกเงยเข้ามาเต็มที่ก่อนแล้วค่อยเข้าไป เล่น และก็ต้องจะรอคอยโอกาสการเล่นหุ้นครั้งต่อไปให้ดีๆมากว่าที่จะมองผลกำไรขาด ทุน
ตลาดหุ้นเองมันก็มีแนวโน้มอ่อนตัวลงได้เสมอนะ ไม่ว่าเราจะมีอารมณ์แบบไหนก็ตาม ขาดการเตรียมตัวแค่ไหนหรือดื้อรั้นแค่ไหน การเล่นหุ้นก็จะทำให้เราเห็นถึงจุดอ่อนตรงนี้แน่ๆ
ความผิดพลาดอย่างหนึ่งของพวกเราบางครั้งก็คือ การเล่นหุ้นด้วยเงินจำนวนมากเกินไป ที่อาจจะทำให้เงินในบัญชีของเราลดน้อยลงไปเรื่อยๆ หรืออาจจะทำให้การเล่นหุ้นของเราหาจุดเข้าออกที่ไม่ดีได้ บางครั้งการเล่นหุ้นด้วยเงินจำนวนมากเกินไปก็หมายความว่า การเล่นหุ้นของเราก็ไม่สามารถเอาแน่เอานอนได้ ในขณะที่มีปัจจัยอื่นๆมากมายตามมาที่ทำให้การเล่นหุ้นของเราเป็นไปได้ด้วยดี เราจะต้องเข้าใจว่าการเล่นหุ้นแบบนี้มันจะต้องได้รับการแก้ไข
นี่ถือ 3 สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินมากเกินไป
·หากเราเพิ่มวงเงินเล่นหุ้นเพราะว่าเรามาผิดทาง ก็แสดงว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินมากเกินไป แล้วทำไมเราถึงต้องไปเติมเชื้อไฟทั้งๆที่เรามาผิดทางด้วยล่ะ? มัน ทำให้เราต้องเสียค่าใช้จ่ายไปและบ่อยครั้งเราก็เล่นหุ้นโดยที่ไม่รู้เลยว่า หุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อไร ยิ่งทำให้เรามีความผิดพลาดมากยิ่งขึ้นไปอีก จะทำให้ทักษะของเราย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นเราจะต้องหาถอยหนีออกมาเมื่อรู้ว่าผิดมาตั้งแต่แรกโดยที่ไม่ต้องไป เพิ่มวงเงิน
· หากเรานอนไม่หลับในแต่ละวัน ก็แสดงว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินมากเกินไปแล้ว วลีที่ว่า “ทิศทางปรับตัวลดลงในยามหลับใหล” นั้น ก็ใช้เหตุผลที่บ่งบอกเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี หากเราเดินออกจากหน้าจอในตอนจบแต่ละวันและก็คิดเกี่ยวกับการเล่นหุ้นต่อ เนื่อง ก็อาจจะหมายความว่าเรายึดติดกับวงเงินที่เราเล่นมากเกินไป เราจะต้องตื่นขึ้นมาและหาเหตุผลในการทำกำไรให้ได้ดีกว่า
·หากเราทำตัวเหมือนกับเด็กๆ ก็แสดงว่าเราเล่นหุ้นด้วยเงินมากเกินไปแล้ว การ ที่เรากรี๊ดร้องออกมาบนหน้าจอหุ้น เขวี้ยงคีย์บอร์ด และก็ทุบโต๊ะเหมือนกับเด็กกำลังหัดเดิน ไม่ใช่เทรดเดอร์ หากเราแสดงกิริยาไร้เหตุผลแบบนี้ ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องลดจำนวนเงินให้น้อยลงได้แล้ว ผมเองก็เคยเห็นพฤติกรรมของเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ที่ชอบเป็นแบบนี้กัน ที่ชอบทำโทษตัวเอง การทำแบบนี้มันก็เหมือนกับอารมณ์ที่เรากำลังเป็นคนขับรถมากกว่าที่จะใช้หลัก เหจุผล และนี่ถือเป็นข้อเสียสำหรับการเล่นหุ้นอย่างมาก การเล่นหุ้นจะต้องมีแบบแผนในการเคลื่อนไหวจะทำยังไงต่อไป แต่พวกเราจะสามารถเดินตามแบบแผนได้มีเหตุมีผลยังไงบ้างล่ะเมื่อเรามีอารมณ์ ฉุนเฉียวไปมา? ผมเองก็ไม่เคยไปคิดเรื่องพวกนี้หรือไปทำ ตัวแบบพฤติกรรมเด็กๆไม่ว่าผลจะออกมาดีร้ายแค่ไหนก็ตาม หากฟังดูแล้วเหมือนกับพวกเรา ก็จะต้องหายใจช้าๆ ค่อยๆวางเงินทุนลงไปและก็กลับเข้ามาสู่แบบแผนของเรา
การวางเงินถือจะวางเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราเล่นหุ้น ได้ดีขึ้นแล้ว อย่าไปฝืนตัวเองเป็นอันขาดหากเดินเกมพลาด จะต้องลดจำนวนเงินน้อยลงเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนที่จะทำให้เรากลับมามีความ เชื่อมั่นอีกครั้ง
รอให้ดอกไม้มันงอกเงยเข้ามาเต็มที่ก่อนแล้วค่อยเข้าไป เล่น และก็ต้องจะรอคอยโอกาสการเล่นหุ้นครั้งต่อไปให้ดีๆมากว่าที่จะมองผลกำไรขาด ทุน