ลดน้ำหนักง่ายๆด้วย..”ชาเขียว”

        “ชา เขียว” เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โดยมีชาเขียวให้เราเลือกหามาดื่มรับประทานในรูปแบบ ชาผงพร้อมชง ใบชาแห้ง หรือเครื่องดื่มสำเร็จรูปบรรจุขวดหลากหลายการปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติ ทำให้สะดวกต่อการบริโภคมากขึ้น ชาเขียวดื่มแล้วหอม อร่อย แก้กระหายทำให้รู้สึกสดชื่น อีกทั้งด้วยวิวัฒนาการการศึกษา งานวิจัยหลายอย่างทำให้เราได้ทราบสรรพคุณของชาเขียว โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวที่ดีต่อสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะสรรพคุณช่วยลดระดับไขมันในเลือด ลดความอ้วน ที่เป็นแรงจูงใจสำคัญให้คนที่อยากลดความอ้วน หันมาบริโภคชาเขียวเพื่อหวังประโยชน์ตรงนี้กันมากขึ้น

ชาเขียว-1
        ชาเขียว คือ ชา (Camellia sinensis) ที่ไม่ผ่านการหมัก เตรียมได้โดยการนำใบชาสดมาผ่านความร้อนเพื่อทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว ความร้อนจะช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทำให้ไม่เกิดการสลายตัว ทำให้ได้ใบชาที่แห้งแต่ยังสดอยู่และยังมีสีที่ค่อนข้างเขียวจึงเรียกว่า ชาเขียว สารสำคัญที่พบได้ในชาเขียวได้แก่ กรดอะมิโน วิตามิน B, C, E สารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ (xanthine alkaloids) คือ คาเฟอีน (caffeine) และธิโอฟิลลีน (theophylline) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่เรียกว่า แคททีชิน (catechins) แคททีชินที่พบมากที่สุดในชาเขียวคือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (epigallocatechin gallate) ซึ่งมีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
        ชาเขียวดื่มเพื่อช่วยลดความอ้วน
        ผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์พบว่า สารคาเฟอีน และสารฝาดแคททิคินในชาเขียว มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มอัตราการเมทาบอลิซึ่มของร่างกายให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มอัตราการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต และการออกซิเดชันของไขมันเมื่อออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถึง 4 % เมื่อเกิดการเผาผลาญพลังงานได้มาก จึงส่งผลช่วยในการสลายไขมันทำให้น้ำหนักตัวลดลง โดยที่ไม่กระทบต่ออัตราการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้ ชาเขียวยังช่วยให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ ทำงานที่ดีมากยิ่งขึ้น จึงช่วยให้การเผาผลาญอาหารของร่างกายดีมากยิ่งขึ้น

ชาเขียว-2
        เคล็ดลับน่ารู้ในการดื่มชาเขียวให้ได้ประโยชน์สูงสุด
        ดื่มให้ได้ปริมาณที่เพียงพอ
        แนะนำว่าควรดื่มได้วันละประมาณ 2-5 ถ้วย จะช่วยในการลดน้ำหนัก สลายไขมัน แต่ก็ไม่ควรดื่มชาเขียวในปริมาณที่มากจนเกินไปในหนึ่งวัน คือดื่มได้ไม่เกินวันละ 10-12 แก้ว เพราะถ้าหากดื่มมากกว่านั้น สารคาเฟอีนในชาเขียวจะส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ แต่อย่างไรก็ตามชาเขียวยังคงมีปริมาณของสารคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟอยู่มาก
        ดื่มแบบร้อนเท่านั้น
        การดื่มชาเขียวให้ได้ประโยชน์ควรดื่มชาเขียวร้อน ถึงแม้ว่าชาเขียวเย็นจะมีขายอยู่ทั่วไป แต่ชาเขียวร้อนและเย็นไม่เหมือนกันนะคะ เพราะชาเขียวเย็นที่ใส่น้ำแข็งจะมีน้ำมากกว่าชาเขียวร้อน โดยน้ำเหล่านั้นก็มาจากน้ำแข็งที่ละลาย ซึ่งมันจะเจือจางและทำให้ประสิทธิภาพของชาเขียวถูกลดลงไป ที่สำคัญชาเขียวเย็นยังมีการปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาลปริมาณมากๆ อีกด้วย

น้ำมะนาวชาเขียว-1
        บีบน้ำมะนาวผสมลงไปด้วย
        แทนที่จะดื่มชาเขียวธรรมดาทั่วไป ควรหยดน้ำมะนาวเล็กน้อยผสมลงไปด้วยนอกจากจะเพิ่มรสชาติแล้ว ยังได้ประโยชน์วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมะนาวนั้นอีกด้วย และยังเป็นการช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกแรงหนึ่ง อีกทั้งยังช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย และลดระดับคอเลสเตอรอลได้ด้วย
        เลือกดื่มชาเขียวใหม่ๆ
        เลือกชาเขียวแบบสดๆ ไม่เก็บไว้นาน ก็จะดีต่อสุขภาพร่างกายมากกว่า ฉะนั้นเวลาซื้อชาเขียวก็ควรตรวจเช็คดูวันที่ผลิตและหมดอายุให้เรียบร้อย และไม่ควรเก็บไว้นานเกินไป ไม่อย่างนั้นคุณภาพชาเขียวที่ได้ดื่มก็อาจจะแย่ลงและไม่ได้ประสิทธิภาพดี อย่างที่ควร
        ควบคุมอาหารไปด้วย
        การดื่มชาเขียวช่วยในการลดน้ำหนัก เผาผลาญพลังงานที่ดี แต่ทั้งนี้ก็ควรควบคุมอาหารให้ดีด้วย เพราะหากคุณกินอาหารมากเกินพลังงานที่ควรได้รับ ก็จะสะสมเป็นความอ้วน ไม่เช่นนั้นแล้วจะดื่มไปกี่แก้วๆ ก็คงไม่ช่วยอะไรได้แน่นอน
        หลีกเลี่ยงชาเขียวที่มีการปรุงแต่งน้ำตาล
        การดื่มชาเขียว เพื่อช่วยในการสลายไขมันนั้น ควรดื่มชาที่ปราศจากการปรุงแต่งรสชาติด้วยน้ำตาล นม หรือครีมเทียม ซึ่งจะช่วยทำให้ร่างกายสามารถได้รับสารที่ช่วยในการสลายไขมันได้ดีมากยิ่ง ขึ้น
        ช่วงเวลาที่ควรดื่มชาเขียว
        การดื่มชาเขียวแก่ๆ สักถ้วยหลังมื้ออาหาร จะยิ่งเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ดีมากยิ่งขึ้น
        ข้อควรระวังในการดื่มชาเขียว
        1) ไม่ควรดื่มชาขณะกินยา เพราะสารต่างๆ ในน้ำชาอาจทำปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ต่อยาที่กินเข้าไป อาจทำให้คุณสมบัติของยาเจือจางหรือเสื่อมสภาพลงหรือขั้นร้ายแรงอาจกลายเป็น สารพิษได้ ถ้าหากอยากดื่มควร ดื่มก่อนหรือหลังทานยาประมาณ 2 ชั่วโมง
        2) ไม่ควรดื่มชาก่อนนอนโดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาในการนอนหลับ 
        3) ไม่ควรดื่มชาร้อนจัด เพราะการดื่มของร้อนจัดมีผลข้างเคียงต่อช่องปาก ลำคอ ลำไส้ได้ อาจทำให้เนื้อบางส่วนในช่องปากตาย และอาจเป็นต้นเหตุกระตุ้นเซลล์มะเร็งได้ 

อาการไตวาย-1

        4) ผู้ที่ไตทำงานบกพร่องหรือมีอาการไตวาย ไม่ควรดื่มน้ำชามาก เพราะจะทำให้ปัสสาวะบ่อยและไตต้องทำงานหนักขึ้น ขณะที่ประสิทธิภาพของไตยังทำงานได้ไม่เต็มที่
        5) ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน สตรีมีครรภ์ คนชรา
        6) ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ ผู้ป่วยที่หลอดเลือดแดงใหญ่ในหัวใจอุดตันไม่ควรดื่มน้ำชาเข้มข้น เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ร่างกายถูกกระตุ้นมากเกินไป หากความดันโลหิตขึ้นสูงมาก หรือหัวใจถูกกระตุ้นมากเกินขีดจะเป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างรวดเร็วฉับพลันได้
        7) ผู้ที่มีไข้สูง ไม่ควรดื่มน้ำชา เพราะด่างในน้ำชาจะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น กระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น จึงยิ่งทำให้อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้น กรดแทนนิกในน้ำชายังส่งผลให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ระบบการขับเหงื่อของร่างกายทำงานบกพร่อง
        สาวๆ คนไหนที่กำลังมองหาตัวช่วยดีๆ ในการลดน้ำหนัก ต้องหันมาดื่มชาเขียวกันแล้วนะคะ ที่สำคัญควรดื่มชาร้อนที่ไม่ผสมน้ำตาลกันด้วย งดชาเขียวบรรจุขวดที่วางแช่ในตู้เย็น เพราะนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรแล้วยังต้องระวังปริมาณน้ำตาลกันอีก เพื่อสุขภาพดีช่วยให้ผอมเพรียวได้ง่ายๆ ควรคำนึงถึงการดื่มที่เหมาะสมนะคะ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘