โอกาสสร้างกำไร...ในช่วงหุ้นตก
โบรกฯ แนะลงทุนช่วงตลาดหุ้นตก เน้นกองทุนรวมดูตามนโยบายที่ต้องการผ่าน "กองทุนหุ้นต่างประเทศ"
ผ่านไปครึ่งทางของไตรมาสแรกของปี 2557 การเมืองของประเทศไทยก็ยังคงไม่ชัดเจน แต่ "หุ้นไทย"
ก็เริ่มปรับตัวขึ้นมาจากการยุบรวมพื้นที่ชุมนุม ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายไปบ้าง นักลงทุนหลายๆ ท่านก็กลับมาลงทุนหุ้นอีกครั้ง
แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไทยยังดูไม่ดี แต่ในตลาดหุ้นต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นหุ้นสหรัฐอเมริกา ยุโรป
หรือกลุ่มนอร์ธเอเชีย ยังคงมีการซื้อขายกันอย่างคึกคัก แต่ก็มีบางจังหวะที่ตลาดปรับฐานย่อลงมาให้เข้าลงทุน
นักลงทุนควรที่จะฉวยโอกาสนั้น สร้างกำไรให้กับพอร์ต
ในช่วงที่ผ่านมา เราพบกับปัญหา "เงินทุนไหลออก"
จากประเทศกลุ่ม BIITS (Brazil, India, Indonesia, Turkey, South Africa) และประเทศล่าสุดที่มีปัญหาคืออาร์เจนตินา
ซึ่งปัญหาของประเทศเหล่านี้จะเป็นปัญหาที่อยู่ในวงจำกัด แต่ตลาดหุ้นในช่วงที่มีข่าว
นักลงทุนในตลาดหุ้นเกิดความกังวลว่าปัญหาจะลุกลามไปกระทบกับเศรษฐกิจโลก จึงเกิดแรงขายในตลาดหุ้น
ทำให้ตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยตลาดหุ้น S&P 500 ลดลงประมาณ 5%, Nikkei 225
ลดลงประมาณ 10%, ตลาดหุ้นจีน H-Shares ลดลงประมาณ 8%
เมื่อเวลาผ่านไป นักลงทุน "คลายความกังวล" อีกทั้งยังเริ่มกลับเข้ามาลงทุนเพื่อรองรับการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
โดยผลประกอบการของ S&P500 ในไตรมาส 4 ที่ประกาศออกมาแล้วจำนวน 441 บริษัท มีจำนวน 328 บริษัทที่ดีกว่านักวิเคราะห์คาด
และ 107 บริษัทที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยรายงานกำไรรวมสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ 4.67% ทำให้ตลาดหุ้น S&P500
กลับมาเป็นขาขึ้นเกือบจะเท่ากับจุดที่ปรับลดลงหรือขึ้นมาประมาณ 5% ซึ่งถ้านักลงทุนติดตามพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จนธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สามารถตัดสินใจลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้
โอกาสที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงก็เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อ เพื่อเพิ่มผลกำไรในพอร์ตได้
โอกาสแบบนี้ ก่อนที่เราจะเข้าลงทุน นักลงทุนควรที่เล็งหาประเทศที่น่าสนใจและติดตามสถานการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น
ซึ่งก็ควรจะเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี มีอัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง และหุ้นยังมีโอกาสสร้างกำไรได้
เช่น หุ้นญี่ปุ่น หุ้นจีน หรือหุ้นที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง คือ หุ้นกลุ่มนอร์ธเอเชีย ที่ประกอบไปด้วย จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และ ฮ่องกง
ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีกำลังการส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วอยู่ในระดับสูง ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมาโดยตลอด
มีทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง และตลาดหุ้นยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
สำหรับการลงทุนในช่วงที่หุ้นตกลงมานั้น นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนตรงกับที่นักลงทุนต้องการได้
โดยกองทุนหุ้นต่างประเทศก็มีให้เลือกหลากหลาย และบางกองทุนยังเป็นกองทุนที่สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ
ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ทันกับเหตุการณ์ในวันที่หุ้นปรับตัวลดลง..
ผ่านไปครึ่งทางของไตรมาสแรกของปี 2557 การเมืองของประเทศไทยก็ยังคงไม่ชัดเจน แต่ "หุ้นไทย"
ก็เริ่มปรับตัวขึ้นมาจากการยุบรวมพื้นที่ชุมนุม ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายไปบ้าง นักลงทุนหลายๆ ท่านก็กลับมาลงทุนหุ้นอีกครั้ง
แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไทยยังดูไม่ดี แต่ในตลาดหุ้นต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นหุ้นสหรัฐอเมริกา ยุโรป
หรือกลุ่มนอร์ธเอเชีย ยังคงมีการซื้อขายกันอย่างคึกคัก แต่ก็มีบางจังหวะที่ตลาดปรับฐานย่อลงมาให้เข้าลงทุน
นักลงทุนควรที่จะฉวยโอกาสนั้น สร้างกำไรให้กับพอร์ต
ในช่วงที่ผ่านมา เราพบกับปัญหา "เงินทุนไหลออก"
จากประเทศกลุ่ม BIITS (Brazil, India, Indonesia, Turkey, South Africa) และประเทศล่าสุดที่มีปัญหาคืออาร์เจนตินา
ซึ่งปัญหาของประเทศเหล่านี้จะเป็นปัญหาที่อยู่ในวงจำกัด แต่ตลาดหุ้นในช่วงที่มีข่าว
นักลงทุนในตลาดหุ้นเกิดความกังวลว่าปัญหาจะลุกลามไปกระทบกับเศรษฐกิจโลก จึงเกิดแรงขายในตลาดหุ้น
ทำให้ตลาดปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยตลาดหุ้น S&P 500 ลดลงประมาณ 5%, Nikkei 225
ลดลงประมาณ 10%, ตลาดหุ้นจีน H-Shares ลดลงประมาณ 8%
เมื่อเวลาผ่านไป นักลงทุน "คลายความกังวล" อีกทั้งยังเริ่มกลับเข้ามาลงทุนเพื่อรองรับการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
โดยผลประกอบการของ S&P500 ในไตรมาส 4 ที่ประกาศออกมาแล้วจำนวน 441 บริษัท มีจำนวน 328 บริษัทที่ดีกว่านักวิเคราะห์คาด
และ 107 บริษัทที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยรายงานกำไรรวมสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ 4.67% ทำให้ตลาดหุ้น S&P500
กลับมาเป็นขาขึ้นเกือบจะเท่ากับจุดที่ปรับลดลงหรือขึ้นมาประมาณ 5% ซึ่งถ้านักลงทุนติดตามพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง จนธนาคารกลางสหรัฐ (FED) สามารถตัดสินใจลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้
โอกาสที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงก็เป็นจังหวะที่ดีในการเข้าซื้อ เพื่อเพิ่มผลกำไรในพอร์ตได้
โอกาสแบบนี้ ก่อนที่เราจะเข้าลงทุน นักลงทุนควรที่เล็งหาประเทศที่น่าสนใจและติดตามสถานการณ์ตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศนั้น
ซึ่งก็ควรจะเป็นประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี มีอัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง และหุ้นยังมีโอกาสสร้างกำไรได้
เช่น หุ้นญี่ปุ่น หุ้นจีน หรือหุ้นที่กำลังเป็นที่น่าจับตามอง คือ หุ้นกลุ่มนอร์ธเอเชีย ที่ประกอบไปด้วย จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และ ฮ่องกง
ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีกำลังการส่งออกสินค้าไปยังประเทศที่พัฒนาแล้วอยู่ในระดับสูง ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมาโดยตลอด
มีทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง และตลาดหุ้นยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
สำหรับการลงทุนในช่วงที่หุ้นตกลงมานั้น นักลงทุนสามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนตรงกับที่นักลงทุนต้องการได้
โดยกองทุนหุ้นต่างประเทศก็มีให้เลือกหลากหลาย และบางกองทุนยังเป็นกองทุนที่สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ
ทำให้นักลงทุนสามารถลงทุนได้ทันกับเหตุการณ์ในวันที่หุ้นปรับตัวลดลง..