“แสงสีฟ้า” อันตรายแฝงของคนยุคดิจิตอล
“แสงสีฟ้า” อันตรายแฝงของคนยุคดิจิตอล
“มือถือ” หรือ “คอมพิวเตอร์” นับว่ามีบทบาทสำคัญ อาจเรียกได้ว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของคนยุคนี้ เพราะเป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ช่วยในการทำงานและอำนวยความสะดวกที่เป็น ประโยชน์ในการติดต่อสื่อสาร สืบค้นข้อมูล จนถึงการทำธุรกิจออนไลน์สร้างรายได้ แต่อีกด้านหนึ่งก็แฝงด้วยอันตราย ที่เราอาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง นั่นคือ “แสงฟ้า″ หรือ “แสงน้ำเงิน” สีที่ก่ออันตรายสูงสุดแก่ดวงตา ที่เราต้องใช้สายตาอยู่กับคลื่นแสงนี้ตลอดทั้งวัน
“แสงสีฟ้า” หรือ “แสงสีน้ำเงิน” คืออะไร
แสงที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน สามารถแบ่งออกได้ทั้งหมดเป็น 7 สี คือ สีแดง ม่วง ส้ม เหลือง น้ำเงิน คราม และเขียว ซึ่งแสงสีน้ำเงินเป็นหนึ่งในแสงที่สามารถทะลุทะลวงได้ถึงจอประสาทตา เรียกว่ามีพลังทำลายกระจกตาหรือจอประสาทตาได้มากกว่าแสงสีอื่น โดยเฉพาะ ผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน หรือใช้อุปกรณ์ให้แสงสีฟ้าในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น เล่นสมาร์ทโฟนในที่มืด ปิดไฟดูโทรทัศน์ รวมถึงอาชีพที่ต้องใช้แสง เช่น การเชื่อมเหล็ก เป่าแก้ว หรือผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงภัยจากแสงสีฟ้าทั้งสิ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าสีอื่นๆ จะปลอดภัยต่อดวงตา ต้องเรียกว่าทุกสีสามารถทำลายจอประสาทตาได้ทั้งหมด!
อาการเบื้องต้นที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าดวงตาของคุณอาจกำลังเกิดอาการผิดปกติ ได้แก่
คนที่มีพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ จะทำให้ตาแห้งและกะพริบตาน้อยลง เกิดการแสบตา การมองเห็นเริ่มผิดปกติ เห็นภาพซ้อน มองไม่ชัด ปวดเบ้าตา กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า เป็นอาการเริ่มต้นของโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรมและเป็นการกระตุ้นให้จอ ประสาทตาเสื่อมเร็วขึ้นหากเกิดอาการเห็นจุดดำตรงกลางสายตา ตาพร่ามัว หรือมองภาพตรงกลางไม่ชัด ก็ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาหรือรักษาโดยทันที เพราะนั่นอาจหมายถึงสัญญาณว่าคุณมีอาการวุ้นในตาเสื่อมหรือจอประสาทตา เขยื้อน
วิธีปฐมพยาบาลดวงตา เบื้องต้น
หากคุณต้องพบกับแสงหรือใช้งานอุปกรณ์ที่มีแสงเป็นเวลานาน คุณสามารถลดการใช้สายตาได้ ดังนี้1. พักสายตาด้วยการหลับตา หรือกะพริบตาซักครู่
2. มองออกนอกหน้าต่างหรือมองไปไกลๆเพื่อลดการเพ่งของสายตา บรรเทาอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อรอบดวงตาได้และมองไปที่พื้นที่สีเขียวซักพัก
3. หากคุณต้องอยู่ในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศตลอดเวลา อาจทำให้ตาแห้งได้ง่ายกว่าปกติ ลองนำน้ำ ใส่ถ้วย แก้ว หรือถัง เลือกภาชนะตามใจชอบ แล้ววางตั้งไว้ภายในห้อง ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตาคู่สวยได้ไม่ยาก
4. ใส่แว่นตาที่ป้องกันแสงยูวี หรือลดความสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพราะความสว่างจอที่มากปริมาณยูวีก็มากขึ้นด้วย หรือติดฟิล์มที่หน้าจอคอมฯก็ช่วยลดแสงได้
วิธีการบำรุงดวงตาอย่างง่ายๆ
1.ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา2.รับประทานอาหารมีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อดวงตา จำพวกสีเหลืองส้ม ผักใบเขียว อาทิ ส้ม ฝรั่ง ฟักทอง แครอท มะละกอ ตำลึง ผักบุ้ง เป็นต้น
3. ควรตรวจสุขภาพตาทุกๆ 1-2 ปี เพื่อป้องกันการเกิดโรคตาต่างๆ ซึ่งมีบริการตรวจเช็กทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
เรียบเรียงข้อมูลจากเว็บไทยรัฐ, เว็บโพสต์ทูเดย์ / ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต