คำสอนหลวงพ่อธัมมชโย ให้คนถัดไป กลายเป็นคนแรก

พิธีตักบาตรพระเณร แสนรูป วันคุ้มครองโลก 22 เมษายน 2559 ณ มหาธรรมกายเจดีย์ วัดพระธรรมกาย

บรรยากาศแห่งความงดงาม ตราตรึง ประทับจิต อิ่มเอมใจ หลังงานวันคุ้มครองโลก วันที่ 22 เมษายน 2559 ผ่านไปไม่กี่วัน วันนี้ หลวงพ่อทัตตชีโว ท่านได้เล่าให้ฟังถึง ปลัดกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ที่ท่านมาร่วมพิธีบุญของวัดพระธรรมกายในครั้งนี้ ร่วมกับประมุขสงฆ์และแขกผู้ใหญ่ชาวต่างประเทศอีกมากมายกว่า 40 ประเทศ

 

ประมุขสงฆ์ และแขกผู้ใหญ่ชาวต่างประเทศ มาร่วมงานวันคุ้มครองโลก

ปลัดกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ท่านนี้ มีอายุถึง 77 ปี ตามปรกติต้องถูกปลดเกษียณจากราชการไปแล้ว แต่ด้วยความที่ท่านมีฝีไม้ลายมือในด้านการเจรจาเป็นเลิศ จึงทำให้ทางราชการฟิลิปปินส์ ร้องขอให้อยู่ทำหน้าที่ต่อไป จากผลงานที่ท่านได้ทำให้ประชาชนต่างศาสนา ต่างนิกาย และต่างความเชื่อในเกาะมินดาเนาของฟิลิปปินส์ ที่มีปัญหาขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ทำให้มีการลักพาตัว ไปจนถึงสู้รบเข่นฆ่ากันมายาวนานถึง 40 ปี สามารถเจรจาสงบศึกยุติความรุนแรงต่อกันได้ เมื่อไม่นานมานี้เอง

นอกจากนี้ ทางสหประชาชาติ ยังได้เชื้อเชิญท่านให้เป็นหนึ่งในทีมงาน คอยไปเจรจาเรื่องสันติภาพ การสงบศึก การหยุดยิงในประเทศแถบตะวันออกกลางหลายประเทศมาแล้ว ด้วยการที่ท่านต้องคอยไปทำหน้าที่เจรจาสันติภาพนี้เอง ทำให้เกิดความเครียดในใจมากๆ จนกระทั่งพระอาจารย์จากวัดพระธรรมกาย ที่เป็นตัวแทนของหลวงพ่อธัมมชโย ได้ไปช่วยจัดงาน Light of Peace หรืองานจุดประทีปเพื่อสันติภาพโลกที่ฟิลิปปินส์ได้อย่างประทับใจ จึงได้รับเชิญ ให้มาแนะนำการฝึกสมาธิให้กับชาวฟิลิปปินส์ในหน่วยงานของท่าน ทำให้ท่านได้มีโอกาสฝึกสมาธิกับเขาด้วย ท่านลงมือฝึกสมาธิด้วยตัวเองทุกๆ วัน ซึ่งสมาธินี้เอง ช่วยท่านให้ผ่อนคลายเมื่อต้องเผชิญภาวะความตึงเครียด ได้อย่างดียิ่ง

 

งาน Light of peace ครั้งที่ 3 ที่ประเทศ ฟิลิปปินส์

ดัง นั้น เมื่อได้ทราบข่าวการจัดงานวันคุ้มครองโลกที่วัดพระธรรมกาย ท่านจึงไม่รีรอใดๆ ที่จะมาร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งหลังจากได้ร่วมพิธีเป็นที่เรียบร้อย ท่านได้มาเล่าให้หลวงพ่อทัตตชีโวฟังว่า ท่านไปร่วมงานมาหลายต่อหลายที่แล้ว แต่ไม่มีที่ไหนจัดงานได้งดงามน่าประทับใจ เหมือนที่วัดพระธรรมกายเลย ตอน แรกหลวงพ่อทัตตชีโว นึกในใจว่า ท่านพูดเอาใจหรือเปล่า แต่เมื่อมองเห็นสีหน้า และแววตาที่เปล่งประกาย รวมถึงประโยคต่อๆไป ที่ท่านพูดออกมา แสดงว่า ประทับใจการจัดงานของวัดพระธรรมกายจริงๆ ซึ่งท่านได้กล่าวต่อไปว่า

"ผู้คนหลายแสน มานั่งสมาธิรวมกัน ตามเสียงของหลวงพ่อธัมมชโย แต่บรรยากาศกลับเงียบสงบ ไม่มีเสียงพูดเสียงคุยจากมหาชนหลายแสนดังให้ได้ยินเลย เป็นไปได้อย่างไรกัน อีกทั้งการตักบาตรคนหลายแสน ทั้งพระและโยม ปรกติเขาไปงานคล้ายๆ แบบนี้ จะต้องมีขยะเกลื่อนกลาด แต่นี้ไม่มีขยะให้เห็นเลย แม้แต่ชิ้นเดียว น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก"

หลวงพ่อทัตตชีโวท่านฟังแล้ว ก็กล่าวขอบคุณที่ท่านชื่นชมมา ซึ่งไม่เฉพาะแต่ท่านปลัดกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์เท่านั้น ยังมีสมเด็จพระสังฆราชเทพวงค์ จากกัมพูชา ที่เมื่อท่านกลับถึงเมืองพนมเปญ ท่านได้กล่าวกับคนกัมพูชาถึง ความปลื้มที่ได้ไปเยือนวัดพระธรรมกาย ได้เห็นการจัดตักบาตรแสนรูป ที่เป็นระบบระเบียบสวยงาม และเก็บงานได้อย่างสะอาดไร้ขยะรุกรุงรังใดๆ แล้วก็กล่าวต่อกับคนกัมพูชาว่า เมื่อไหร่ประเทศกัมพูชา ถึงจะจัดแบบเขาได้ 
ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลวงพ่อทัตตชโวก็ให้ข้อคิดแก่ญาติโยมสาธุชนทั้งหลาย รวมทั้งผมด้วยว่า ความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยที่คุณยายอาจารย์ อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงได้ปลูกฝังมาตลอดได้ออกดอกออกผลอย่างงดงาม เป็นที่ประทับใจแก่ตัวเราเอง และผู้ที่ได้มาพบเห็น ตอนนั้นเองภาพในใจผมกรอกลับไปยังวันที่ผมได้มาอบรมธรรมทายาทรุ่นที่ 16 ในปี 2530 ที่วัดพระธรรมกาย การอบรม เริ่มต้นด้วย การไปฝึกภาคสนามก่อน 2 วันก่อนเข้าไปอบรมจริงที่วัด เพราะคนหมู่มากต้องได้รับการฝึกวินัยให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งในช่วงที่ฝึกวินัยนี้เอง บางช่วงครูฝึกก็จะสั่งให้เก็บขยะที่เกลื่อนกลาดจากคณะอื่นๆที่มาอบรมรุ่น ก่อนๆให้เรียบร้อย พอทุกคนช่วยกันเก็บขยะเสร็จแล้ว ครูฝึกเห็นถึงกับเรียกประชุมแถว พร้อมกับกล่าวชื่นชมว่า เขาไม่เคยเห็น แบบนี้ที่ไหนมาก่อนเลย เพราะคณะต่างๆที่เขาอบรมมากี่รุ่นกี่รุ่นก็ตาม เวลาสั่งให้เก็บขยะ จะมีคนอยู่ราวๆครึ่งหนึ่งที่เก็บขยะอย่างจริงจัง แต่ที่เหลืออีกราวๆครึ่งหนึ่ง ก็จะเกี่ยงกันเก็บ กินแรงเพื่อน ขยะก็จะถูกเก็บไม่หมด แต่หมู่คณะธรรมทายาทนี้ ทุกคนช่วยกันเก็บขยะกันหมด ไม่มีเกี่ยงกันเลย และขยะก็ถูกเก็บเสียเกลี้ยงทีเดียว ซึ่งเพียงแค่เก็บขยะ แต่คนที่เก็บขยะล้วนเป็นคนที่ตั้งใจมาบวชฝึกฝนตนเอง และร่วมแรงร่วมใจกันแค่ 200-300 ร้อยคน ยังได้รับความชื่นชมขนาดนี้ ดังนั้น จึง ไม่น่าแปลกใจเลยว่า เมื่อคนเป็นแสน ร่วมใจกันประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ จะกลายเป็นภาพงดงามน่าประทับใจ และได้รับเสียงชื่นชมอย่างยิ่งเพียงไร 
ซึ่งในตอนหลัง หลวงพ่อทัตตชีโวท่านมีการนำหลักธรรมข้อนี้ไปใช้ในพื้นฐานชีวิตประจำวัน คือ 5 ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย ที่ แต่ละห้อง ล้วนเน้นฝึกนิสัยด้านความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความมีวินัย สิ่งเหล่านี้จะฝึกฝนให้ผู้ปฏิบัติพัฒนาตนเองยิ่งขึ้นมากมายเพียงใด ยิ่งถ้าเป็นหลวงพ่อธัมมชโย ท่านจะมีถ้อยคำมีเรียบง่าย ชัดเจน ทรงพลัง โดยไม่ต้องกล่าวถึงความสะอาด และความเป็นระเบียบใดๆ เลย แต่ถ้อยคำเหล่านั้น ตอกย้ำได้อย่างชัดเจนถึงการปฏิบัติตัวในการดูแลรักษาความสะอาด และความเป็นระเรียบร้อยต่ออาคารสถานที่ที่เราได้ใช้งาน เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องอาหาร และห้องทำงานได้เป็นอย่างดี นั้นคือ ถ้อยคำว่า

"ขอให้ลูกๆ ใช้ห้องน้ำ หรือห้องอื่นๆ อย่างที่ให้คนถัดไปที่มาใช้ต่อจากเรารู้สึกว่า เขาได้มาใช้เป็นคนแรกเสมอ" นั่นหมายความว่า เดิมห้องนั้นๆ สะอาดเป็นระเบียบงดงามเพราะยังไม่มีใครใช้ พอใครก็ตามที่เข้าไปใช้ ก็ให้ดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบงดงาม ให้ห้องนั้นๆ ดูเหมือนไม่เคยมีใครใช้มาก่อน ให้ผู้เข้ามาใช้ทุกคนรู้สึกเหมือนตัวเอง ได้เข้าไปใช้เป็นคนแรกนั่นเองช่างเป็นคำสอนที่ดูเรียบง่าย แต่แฝงมนต์ขลังให้ทุกคนยินดีปฏิบัติตาม อย่างเต็มหัวใจ นั่นแหละ คือ หลวงพ่อธัมมชโย ของลูกๆ ทุกคน