"ถามตรงๆ กับจอมขวัญ" สัมภาษณ์ตัวแทนวัดพระธรรมกาย และแพทย์ผู้รักษา พระธัมมชโย

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. รายการ "ถามตรงๆ กับจอมขวัญ" โดยจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ กราบขอความคิดเห็นกับ พระอาจารย์สนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย และ ร.ท.นพ.ชูชัย พรพัฒนาพันธุ์ แพทย์ที่ทำการรักษาพระธัมมชโย เพื่อฟังความจริง เหตุใด? "พระธัมมชโย" จึงไม่มารับทราบข้อหาตามหมายเรียกของดีเอสไอ ป่วยจริงหรือ? แล้วจะทำอย่างไรต่อไปกับคดี
เริ่มจาก ร.ท.นพ.ชูชัย ระบุรูปภาพอาการพระธัมมชโยที่ถ่ายโพสต์ในเฟซบุ๊ก ว่าเป็นภาพล่าสุด เมื่อ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพระธัมมชโย มีอาการหลอดเลือดดำอุดตันที่ขาข้างซ้าย ติดเชื้อเป็นระยะมาเป็น 10 ปีแล้ว ทำให้เกิดแผลพุพองติดเชื้อเป็นระยะ จากฝุ่นละออง และควัน
ซึ่งรักษาได้แค่ประมาณนั้น หากมีเชื้อโรคเข้าไปมีสิทธิ์ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ โดยก่อนหน้านั้น เมื่อ 22 เม.ย.ยังเดินได้อยู่ แต่ด้วยโรคเบาหวาน ปวดกล้ามเนื้อที่ขา และเอว จากการรับมอบโล่จำนวนมากจาก 40 ประเทศ 90 โล่ห์ ทำให้กล้ามเนื้อหลังเกร็งทำให้ปวด วิงเวียนศีรษะเป็นหลักเป็นอาการบ้านหมุน ซึ่งปกติการเดินต้องระมัดระวังการทรงตัวอยู่แล้ว
ซึ่งโรคนี้มีความซับซ้อน จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงมีการตั้งทีมมาดูแลโดยเฉพาะ และมีความเห็นให้พัก 15 วัน

ส่วนการจะมารับทราบข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ในวันที่ 16 พ.ค. นั้น ขึ้นอยู่กับอาการ ซึ่งการประเมินอยู่ที่แพทย์ว่าควรมาหรือไม่ พร้อมยืนยันด้วยความเป็นลูกศิษย์ ไม่ได้ลำเอียงในการออกใบรับรองแพทย์
แต่ เอาหลักความเป็นผู้ป่วยเป็นหลัก และยินดีให้หมอที่เป็นกลางมาพิสูจน์หรือมาตรวจก็ยินดี ทั้งนี้ พระธัมมชโย มีอาการแพ้รุนแรง เมื่อออกไปข้างนอกก็จะติดเชื้อ หากป่วยหนักขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ยืนยัน ท่านป่วยจริงๆ ซึ่งทางดีเอสไอสามารถมาสอบสวนที่วัดได้
เช่นเดียวกับ พระอาจารย์สนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพระธัมมชโยไปทำนัดดีเอสไอทุกครั้ง โดยคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มีการแสดงหลักฐาน มีการเจรจา จากข้อมูลที่ชัดเจน มีการส่งข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยมีการตั้งกองทุนเยียวยาในช่วงแรก 684 ล้าน
ส่วนประเด็นออกหมายจับ ล่าสุดของดีเอสไอ เป็นประเด็นใหม่ ซึ่งก็ยังไม่เข้าใจในเคสของ นายธรรมนูญ อัตโชติ สมาชิกสหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา

ทั้งนี้ ยืนยันหลวงพ่อติดภารกิจจริงๆ โดยเฉพาะวันที่ 22 เม.ย. มีการตักบาตรสามเณร 1 แสนรูป และให้เกียรติ สมเด็พระสังฆราชจากบังกลาเทศ และกัมพูชา และพระมหาเถระอีก 2 ประเทศ เดินทางมามอบโล่ จนทำให้เวียนหัว ทรงตัวไม่ได้ เป็นเหตุให้แพทย์ออกใบรับรองแพทย์
ประกอบกับอาการเดิมที่หายใจไม่ออก ทำให้ไม่ออกจากวัดมา 10 กว่าปีแล้ว ต้องเดินช้าๆ ซึ่งอาการนี้เหมือนโดนเข็มพันเล่มจิ้ม โดยหมอทางโรงพยาบาลให้ตัดขา แต่ที่ผ่านมาหลวงพ่อกลัวปฏิบัติภารกิจทางศาสนาไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ถือป็นสิทธิขั้นพื้นฐานขอผู้ป่วย ในการยื่นเลื่อนเข้าพบดีเอสไอเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา อีกทั้งทางวัดยินดีให้ดีเอสไอซึ่งเป็นหนุ่มทั้งหลายที่แข็งแรง มาที่วัดธรรมกายมาแจ้งข้อกล่าวหาได้ หรือให้หมอดีเอสไอมาดูอาการ อย่างเมื่อกลางปีที่แล้วก็ยินดี ซึ่งคำว่ามีหมายจับ และทางดีเอสไอบอกว่ายังปฏิบัติภารกิจได้นั้นสะเทือนใจจริงๆ เพราะ พระธัมมชโย ป่วยออกมาไม่ได้ ด้วยความเป็นผู้เฒ่า อายุ 72 ปี
จึงขอ ความเห็นใจ อีกอย่างยืนยันไม่มีพาสปอร์ตอย่างที่แชร์ในโซเชียล จะออกนอกประเทศได้อย่างไร ส่วนจะออกนอกวัดได้หรือไม่ ต้องดูสุขภาพอาการวันต่อวัน อยากฝาก ดีเอสไอ และ รมว.ยุติธรรม ขอให้ทำตามกฎหมายด้วย.
ขอบคุณแหล่งข่าว ไทยรัฐออนไลน์
http://www.thairath.co.th/content/611674
ชมรายการได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=8gfTtTCjb74