8 สัญญาณที่ทำให้รู้ว่าชีวิตการทำงานกำลังมาถูกทาง

คนที่รู้ตัวเองมาตั้งแต่ต้นว่าตัวเอง ชอบทำงานอะไรนั้น นับว่าเป็นคนส่วนน้อยมากๆ ในโลกใบนี้แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอยู่เลย... กำลังสงสัยอยู่หรือเปล่าว่าทางเดินที่กำลังเดินอยู่นี้ เราเดินมาถูกทางหรือเปล่า?



ช่วงอายุ 20-30 ปีของคนส่วนใหญ่ จะเป็นช่วง soul-searching (หรือช่วงค้นหาตัวเอง) ก็คือทำงานประจำอะไรสักอย่างหนึ่งอยู่แต่ลึกๆ ในใจจะสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่า เราเหมาะกับงานที่เรากำลังทำอยู่จริงๆ เหรอ?



เรากำลังมาผิดทางอยู่หรือเปล่า? ส่วนบางคนก็ใช้วิธีหนีไปเรียนต่อเพื่อหลีกเลี่ยงชีวิตทำงานที่มีแต่งานที่ ตัวเองไม่ได้รู้สึกว่าชอบ ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้แน่ใจด้วยว่าสายงานที่ไปเรียนต่อนั้น คือสายงานที่เราชอบจริงๆ แต่เรียนต่อเพื่อซื้อเวลาที่จะต้องตัดสินใจให้เลื่อนออกไปเรื่อยๆ เท่านั้น



ด้วย 8 สัญญาณต่อไปนี้ จะทำให้เราตอบคำถามที่อยู่ในใจได้ว่าเราควรจะหยุดเดินเพื่อเปลี่ยนเส้นทาง ใหม่ หรือเดินต่อไปในเส้นทางนี้อย่างมั่นคง




1. ไม่ได้รู้สึกว่ากำลังทำงานอยู่


ถ้าชีวิตการทำงานของเรา ไม่ได้เป็น "งาน" มันเป็นวิถีของการมีชีวิตอยู่ การทำงานของเราสามารถสร้างไลฟ์สไตล์ที่เราต้องการได้รวมไปถึงสร้างวิถีการทำ งานของเราได้ดั่งใจ หากหลายครั้งที่เราหยุดถามตัวเองว่า "เดี๋ยวนะ! นี่ฉันกำลังทำงานนี้อย่างจริงจังอยู่หรือเปล่าเนี่ย?"


เราแทบจะไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างการทำงาน การเล่นและการใช้ชีวิตออกจากกันได้ ทุกสิ่งที่เราทำมันเป็นไปอย่างต่อเนื่องตามวิสัยทัศน์ของเรา นั่นคือสัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังมาถูกทางแล้ว




2. สอดคล้องกับททัศนคติ


ชีวิตการทำงานของเราเป็นส่วนขยายความเชื่อและมุมมองส่วนตัวของเรา เรากำลังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์เพราะเราทำในสิ่งที่สอดคล้องกับความคิด ของเราเองว่าเราเป็นใคร


ต้องการทำอะไร การอยู่ในตำแหน่งนี้เป็นจุดที่ดีในการสร้างแรงบันดาลใจ ทำงานตามวิสัยทัศน์ เราสามารถทำงานได้อย่างชัดเจน แจ่มแจ้งและเป็นจริง การทำเช่นนี้จะทำให้โลกของเรามีชีวิตที่ดีและสวยงาม




3. ยินดีที่ได้พบเจอ


Passion (ความหลงใหล) มาจากคำศัพท์ภาษาละตินว่า Pati หมายถึง "ประสบพบเจอ" ชีวิตการทำงานของเรามีค่าน้อยมากถ้าเทียบกับความรัก ความหลงใหลและความตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จไปพร้อมกัน


การเดินทางจะมีความท้าทายตลอดเวลา และเราไม่เคยคิดจะพ่ายแพ้ต่อมัน เราจะทนต่อความยากลำบาก การถูกปฏิเสธ การเสียสละ อุปสรรคเหล่านี้จะกระตุ้นให้เราทำการใหญ่ยิ่งขึ้น ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น


ถือเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่สำหรับการเรียนรู้และเจริญเติบโต มองเห็นคุณค่าของความลำบากนั้นเป็นช่วงเวลาที่สวยงามและมีความสุข




4. ทำไมเวลาผ่านไปเร็วจัง


ดูเหมือนว่าเราจะหลงไปกับกระแสของเวลา มีความสุขกับการทำงานจนลืมมองนาฬิกาไปเลย พอหันไปดูเวลาอีกทีก็พบว่านั่งทำงานอยู่ตรงนี้มา 5 ชั่วโมงแล้ว! สัญชาตญาณบอกให้เราทำงานตรงหน้าโดยไม่รู้สึกเบื่อหรือเหน็ดเหนื่อยเลย ความรู้สึกเช่นนี้ไม่สามารถบังคับได้ มันจะเกิดขึ้นเองเมื่อเราเจอกับงานที่ใช่




5. ปรับห้องทำงานให้เหมาะกับการอยู่อาศัย


การทำงานของเราให้ความรู้สึกแบบที่ว่าเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างเต็มที่ และสนุกไปกับมัน แม้ว่าเราจะหลงรักและมีความสุขการทำงานมากเท่าไหร่ ห้องที่อยู่นั้นก็จะมีบรรยากาศที่ดีต่อสุขภาพ เช่น การออกกำลังกายง่ายๆ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มพลังชีวิตให้เราได้อย่างมากทีเดียว




6. ความรีบผิดชอบเป็นเกียรติอันยิ่งใหญ่


เมื่อเราค้นพบว่าชีวิตการทำงานของเรามันใช่เลย! คำถามที่เกี่ยวกับเรื่องความรับผิดชอบจะเป็นเรื่องง่าย ไม่มีข้อสงสัยหรือข้อขัดแย้งใดๆ ที่จะโผล่มาถามว่า แน่ใจนะว่างานนี้เหมาะกับเรา?


หัวใจของเราบอกว่าใช่ ร่างกายก็บอกว่าใช่ เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเฉกเช่นเดียวกับการหายใจ เราไม่สามารถจินตนาการว่าเราจะไปทำงานอย่างอื่นได้อย่างไรถ้าไม่ใช่ทำงาน นี้!




7. ผู้คนสังเกตุเห็นพลังในตัวเรา


"คุณดูมีชีวิตชีวาจัง" หรือ "ฉันไม่เคยเห็นคุณมีความสุขและดูสุขภาพดีขนาดนี้" "ไม่ต้องถามเลยว่าคุณกำลังตั้งใจทำสิ่งใดอยู่ มันทำให้คุณดูดีมาก" นี่อาจะเป็นหนึ่งในหลายประโยคที่เราอาจได้ยินจากคนใกล้ตัวของเรา เมื่อเราอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง ในตอนแรกพวกเขาอาจจะเป็นห่วงและกังวล


แต่เมื่อเห็นเรามีความเจริญรุ่งเรื่องในสิ่งที่ทำ พวกเขาจะสังเกตเห็นความรักของเราที่มีต่องาน และสนับสนุนในความพยายามของเรา




8. หลับสนิทและพร้อมเสมอกับวันรุ่งขึ้น


ทุกคืนที่เข้านอน เราจะขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นตลอดวันและหลับตาลงอย่างเป็นสุข เราจะรู้ตัวเองว่าเรากำลังเดินอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง เราใช้เวลาทั้งหมดของวันไปกับสิ่งที่เรารัก และไม่สามารถรอที่จะทำมันทั้งหมดอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น นี่คือชีวิตของเรา และไม่สามารถจินตนาการถึงชีวิตแบบอื่นได้อีก




สตีฟ จ็อบส์ กล่าวไว้ว่า..............

“การทำงานของเราจะเติมเต็มพื้นที่ส่วนใหญ่ของชีวิต วิธีเดียวที่จะทำให้เราเจอกับความพึงพอใจอย่างแท้จริงคือการทำในสิ่งที่ตัว เราเชื่อว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ และวิธีเดียวที่จะทำให้ผลงานของเราออกมาดีเยี่ยมคือเราต้องรักในสิ่งที่เรา ทำ หากเรายังไม่พบในตอนนี้ให้ค้นหามันต่อไป เช่นเดียวกับเรื่องอื่นๆ เมื่อเราเจอในสิ่งที่ใช่ หัวใจจะบอกเราเอง!”




สุดท้ายแล้ว ถ้าเจอกับงานที่ใช่แล้ว ก็ขอให้ทำเต็มที่ให้สมกับโอกาสที่ได้รับมานะคะ ส่วนคนที่ยังไม่เจองานที่ใช่ก็ขอให้ตั้งใจมองหาต่อไป อย่าเพิ่งไปยอมแพ้กับเสียงของคนรอบข้างที่กดดันหรือคัดค้านไม่ให้เราตามหา งานที่ใช่ที่สุด แต่ถ้าคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ตามหาอย่างไรก็ไม่รู้จริงๆ



ว่าอยากจะทำอะไรเป็นพิเศษ เราอยากจะให้กำลังใจและยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องผิดเลยค่ะที่ค้นหาตัวเองไม่เจอ คนมากมายบนโลกนี้ก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรแต่ก็ผ่านช่วงเวลามาได้อย่าง มีความสุข ดังนั้นอยากให้ลองทำสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุด มีความสุขกับมันมากที่สุด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกนะคะ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘