ถอดบทเรียน”กรุงศรี ออโต้”สร้างแบรนด์“คาร์ ฟอร์ แคช”
ในปัจจุบัน ‘สินเชื่อเพื่อคนมีรถ’
หรือการนำรถยนต์มาใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อ
โดยที่เจ้าของยังสามารถครอบครองและใช้รถยนต์ได้ตามปกติ
เป็นที่รู้จักและมีผู้ใช้บริการอย่างแพร่หลาย
แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแนวคิดนี้พึ่งมีขึ้นในประเทศไทยเมื่อ 10
กว่าปีที่แล้วเท่านั้นเอง โดยมี “กรุงศรี ออโต้”
เป็นผู้ริเริ่มและบุกเบิกตลาดนี้ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อคนมีรถ “คาร์
ฟอร์ แคช” และสามารถรักษาความเป็นแบรนด์ผู้กำหนดทิศทางตลาด (Market Shaper)
สินเชื่อที่ใช้รถเป็นหลักประกัน ที่มอบนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมบริการ
เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า (Customer Experience)
ได้อย่างต่อเนื่อง ยืนยันได้จากการได้รับรางวัลต่างๆ รวมถึง รางวัล
“แบรนด์อันดับหนึ่งที่มีผู้บริโภคเชื่อถือมากที่สุด” จากนิตยสารแบรนด์เอจ
ในประเภทสินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์ถึง 4 ปีซ้อน
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของกรุงศรี ออโต้ ว่า “กรุงศรี ออโต้ มีเป้าหมายเป็นผู้กำหนดทิศทางตลาดสินเชื่อยานยนต์ เราจึงมุ่งริเริ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นจากความต้องการของลูกค้า อย่างไม่หยุดนิ่ง และจะก้าวไปรอลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี และเกินความคาดหมายให้กับพวกเขา ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อคนมีรถ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ที่เราริเริ่มขึ้นเป็นรายแรกในปี 2546 จากแนวคิดว่าทำไมรถยนต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงถึงไม่สามารถนำมาใช้ เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เหมือนกับสินทรัพย์อื่นๆ ได้ จึงทำให้ตลาดสินเชื่อยานยนต์เกิด Market Segmentation ประเภท “สินเชื่อเพื่อคนมีรถ”ขึ้นมา แบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ จึงถือกำเนิดขึ้น และผ่านการพัฒนาทั้งบริการและตัวผลิตภัณฑ์มาตลอดระยะเวลา 13 ปี และ สามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดเซ็กเม้นท์นี้มาโดยตลอด”
อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นสร้างแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เป็นโจทย์ที่ท้าทายทีมงานของกรุงศรี ออโต้ อยู่ไม่น้อย โดยนายไพโรจน์ กล่าวว่า “สินเชื่อเพื่อคนมีรถ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เป็นผลิตภัณฑ์แรกของกรุงศรี ออโต้ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้บริโภครายย่อย (B2C) โดยเราได้ชื่อแบรนด์มาจากพนักงานของเราที่ส่งชื่อเข้าร่วมประกวดตั้งชื่อ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์นี้มากว่ามีความแตกต่างและตรงกับความ ต้องการของผู้บริโภค แต่การทำให้ผู้บริโภคเข้าใจและตัดสินใจใช้บริการของ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ นับเป็นเรื่องท้าทายมาก เนื่องจาก ทีมงานของเราในขณะนั้นยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการสื่อสารไปยังผู้บริโภคโดย ตรง เพราะผลิตภัณฑ์ของเราจะเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มองค์กร (B2B) นอกจากนั้น สินเชื่อที่ใช้รถยนต์เป็นหลักประกัน โดยที่ยังสามารถใช้รถได้ตามปกติ ยังเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย เพราะในขณะนั้น ผู้บริโภคจะรู้จักแต่การจำนำรถ ซึ่งต้องนำรถไปทิ้งไว้เป็นหลักประกันแก่ผู้ให้สินเชื่อ ดังนั้น เราจึงวางกลยุทธ์ทำการตลาดถึงผู้บริโภคโดยตรง (Go Direct to Consumers) และสื่อสารแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ให้เข้าใจง่าย ไม่เครียด และสนุกสนาน ซึ่งได้มาจากผลการสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคที่บอกกับเราว่าการขอสินเชื่อดู แล้วเป็นเรื่องยุ่งยาก เป็นเรื่องเครียด เราจึงตัดสินใจใช้โฆษณาโทรทัศน์ (TVC) ในการเปิดตัว ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นว่าการขอสินเชื่อไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ซึ่งหลักการสามข้อนี้เป็นสิ่งที่เราใช้ในการสื่อสารไปยังผู้บริโภคและพัฒนา ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ มาตลอดจนถึงปัจจุบัน”
นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า “ในช่วงสองปีแรกของการสร้างแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เราให้ความสำคัญกับการคิดค้นและพัฒนาให้ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ มีผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ (functional benefits)ที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น รู้ผลอนุมัติสินเชื่อภายใน 1 วันทำการ รับเงินทันใจใน 1 วันทำการ เป็นต้น ซึ่งมีที่มาจากการทำวิจัยเพื่อให้ได้ความต้องการใหม่ๆ จากผู้บริโภค อยู่เสมอ โดยผลการวิจัยชี้ให้เราเห็นว่าแบรนด์ที่จะเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้จะต้องมี ทั้ง functional benefits และต้องสามารถตอบสนองคุณค่าด้านความรู้สึก (emotional benefits) ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภครู้สึกอายที่จะเข้าไปขอสินเชื่อ เราจึงพัฒนาแคมเปญเพื่อสร้าง emotional benefits ของแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ อาทิ แคมเปญ ‘ยืนหยัดเคียงข้างฮีโร่ ‘สู้’ ทุกภาระการเงิน’ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้บริโภคที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินสดในยามฉุกเฉิน ว่า การขอสินเชื่อเพื่อทำสิ่งดีๆ แก่ตนเองและครอบครัวไม่ใช่เรื่องน่าอายและคุณเองสามารถเป็นฮีโร่ในสายตาของ พวกเขาได้ ผ่านภาพยนต์โฆษณาชุด The Real Hero ซึ่งสร้างจากเรื่องราวสุดประทับใจของลูกค้า จำนวน 4 เรื่อง ที่นำรถมาขอสินเชื่อเพื่อบรรเทาปัญหาด้านการเงินต่างๆ เช่น ต้องการนำเงินไปต่อยอดกิจการ นำเงินไปใช้เพื่อการศึกษาของบุตร หรือนำไปช่วยดูแลเรื่องการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว โดยโฆษณาชุดนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงคุณค่าของแบรนด์และบทบาทของ กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช ในการเป็นสถาบันการเงิน ผู้ช่วยฮีโร่ตัวจริงเท่านั้น แต่ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดและเข้าถึงเนื้อหาที่โฆษณาต้องการสื่อออกไป เนื่องจากเป็นเรื่องจริงที่เขาสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ จนในปัจจุบัน การขอสินเชื่อไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไปแล้ว”
ในส่วนของพัฒนาแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ให้สอดรับกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคดิจิทัลในปัจจุบันนั้น นายไพโรจน์ กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราเห็นเทรนด์ของผู้บริโภคที่นิยมบริโภคข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์มาก ยิ่งขึ้น เราจึงได้วางกลยุทธ์ Digital Marketing เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านช่องทางนี้ และช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยได้เปิดตัวเว็บไซต์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช ดอทคอม’ (www.car4cash.com) สินเชื่อเพื่อคนมีรถรายแรกในประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งการประเมินราคารถและการขอสินเชื่อออนไลน์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ (Brand Engagement) ด้วยการเล่าเรื่องผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น VDO content เรื่อง ‘อู๋ The Rocket เฮีย’ บนยูทิวบ์ ‘KrungsriAutoTV’ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยี SEO (Search Engine Optimization) เพื่อช่วยเพิ่มจำนวนผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่เว็บไซต์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช ดอทคอม’ ซึ่งกลยุทธ์ Digital Marketing ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมียอดขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ เรากำลังปรับปรุงให้การกรอกข้อมูลขอสินเชื่อทางเว็บไซต์เป็นแบบอินเตอร์แอ คทีฟมากขึ้น”
นายไพโรจน์ ได้สรุปถึงปัจจัยความสำเร็จของแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ว่า “เราเน้นรับฟังความต้องการของลูกค้า แล้วนำกลับมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และการบริการของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังเดินหน้ามองหาความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคเพื่อตอบสนองทุกความต้องการที่เกิดขึ้นใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดทีมงานของ เราที่มีเป้าหมายร่วมกัน และร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ในทุกจุดบริการตลอดเส้นทาง ทั้งก่อนใช้บริการ ช่วงสมัครขอสินเขื่อ ช่วงใช้บริการ และช่วงหลังใช้บริการ จึงทำให้แบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เป็นแบรนด์สินเชื่อเพื่อคนมีรถอันดับหนึ่ง และครองใจผู้บริโภคมาได้อย่างยาวนานกว่า 13 ปี”
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ของกรุงศรี ออโต้ ว่า “กรุงศรี ออโต้ มีเป้าหมายเป็นผู้กำหนดทิศทางตลาดสินเชื่อยานยนต์ เราจึงมุ่งริเริ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นจากความต้องการของลูกค้า อย่างไม่หยุดนิ่ง และจะก้าวไปรอลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี และเกินความคาดหมายให้กับพวกเขา ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อคนมีรถ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ที่เราริเริ่มขึ้นเป็นรายแรกในปี 2546 จากแนวคิดว่าทำไมรถยนต์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงถึงไม่สามารถนำมาใช้ เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน เหมือนกับสินทรัพย์อื่นๆ ได้ จึงทำให้ตลาดสินเชื่อยานยนต์เกิด Market Segmentation ประเภท “สินเชื่อเพื่อคนมีรถ”ขึ้นมา แบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ จึงถือกำเนิดขึ้น และผ่านการพัฒนาทั้งบริการและตัวผลิตภัณฑ์มาตลอดระยะเวลา 13 ปี และ สามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดเซ็กเม้นท์นี้มาโดยตลอด”
อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นสร้างแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เป็นโจทย์ที่ท้าทายทีมงานของกรุงศรี ออโต้ อยู่ไม่น้อย โดยนายไพโรจน์ กล่าวว่า “สินเชื่อเพื่อคนมีรถ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เป็นผลิตภัณฑ์แรกของกรุงศรี ออโต้ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้บริโภครายย่อย (B2C) โดยเราได้ชื่อแบรนด์มาจากพนักงานของเราที่ส่งชื่อเข้าร่วมประกวดตั้งชื่อ ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทจัดขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์นี้มากว่ามีความแตกต่างและตรงกับความ ต้องการของผู้บริโภค แต่การทำให้ผู้บริโภคเข้าใจและตัดสินใจใช้บริการของ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ นับเป็นเรื่องท้าทายมาก เนื่องจาก ทีมงานของเราในขณะนั้นยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการสื่อสารไปยังผู้บริโภคโดย ตรง เพราะผลิตภัณฑ์ของเราจะเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มองค์กร (B2B) นอกจากนั้น สินเชื่อที่ใช้รถยนต์เป็นหลักประกัน โดยที่ยังสามารถใช้รถได้ตามปกติ ยังเป็นเรื่องใหม่ในประเทศไทย เพราะในขณะนั้น ผู้บริโภคจะรู้จักแต่การจำนำรถ ซึ่งต้องนำรถไปทิ้งไว้เป็นหลักประกันแก่ผู้ให้สินเชื่อ ดังนั้น เราจึงวางกลยุทธ์ทำการตลาดถึงผู้บริโภคโดยตรง (Go Direct to Consumers) และสื่อสารแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ให้เข้าใจง่าย ไม่เครียด และสนุกสนาน ซึ่งได้มาจากผลการสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคที่บอกกับเราว่าการขอสินเชื่อดู แล้วเป็นเรื่องยุ่งยาก เป็นเรื่องเครียด เราจึงตัดสินใจใช้โฆษณาโทรทัศน์ (TVC) ในการเปิดตัว ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นว่าการขอสินเชื่อไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก ซึ่งหลักการสามข้อนี้เป็นสิ่งที่เราใช้ในการสื่อสารไปยังผู้บริโภคและพัฒนา ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ มาตลอดจนถึงปัจจุบัน”
นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า “ในช่วงสองปีแรกของการสร้างแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เราให้ความสำคัญกับการคิดค้นและพัฒนาให้ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ มีผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ (functional benefits)ที่เข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็น รู้ผลอนุมัติสินเชื่อภายใน 1 วันทำการ รับเงินทันใจใน 1 วันทำการ เป็นต้น ซึ่งมีที่มาจากการทำวิจัยเพื่อให้ได้ความต้องการใหม่ๆ จากผู้บริโภค อยู่เสมอ โดยผลการวิจัยชี้ให้เราเห็นว่าแบรนด์ที่จะเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้จะต้องมี ทั้ง functional benefits และต้องสามารถตอบสนองคุณค่าด้านความรู้สึก (emotional benefits) ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภครู้สึกอายที่จะเข้าไปขอสินเชื่อ เราจึงพัฒนาแคมเปญเพื่อสร้าง emotional benefits ของแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ อาทิ แคมเปญ ‘ยืนหยัดเคียงข้างฮีโร่ ‘สู้’ ทุกภาระการเงิน’ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่ผู้บริโภคที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินสดในยามฉุกเฉิน ว่า การขอสินเชื่อเพื่อทำสิ่งดีๆ แก่ตนเองและครอบครัวไม่ใช่เรื่องน่าอายและคุณเองสามารถเป็นฮีโร่ในสายตาของ พวกเขาได้ ผ่านภาพยนต์โฆษณาชุด The Real Hero ซึ่งสร้างจากเรื่องราวสุดประทับใจของลูกค้า จำนวน 4 เรื่อง ที่นำรถมาขอสินเชื่อเพื่อบรรเทาปัญหาด้านการเงินต่างๆ เช่น ต้องการนำเงินไปต่อยอดกิจการ นำเงินไปใช้เพื่อการศึกษาของบุตร หรือนำไปช่วยดูแลเรื่องการเจ็บป่วยของคนในครอบครัว โดยโฆษณาชุดนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงคุณค่าของแบรนด์และบทบาทของ กรุงศรี คาร์ ฟอร์ แคช ในการเป็นสถาบันการเงิน ผู้ช่วยฮีโร่ตัวจริงเท่านั้น แต่ยังทำให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดและเข้าถึงเนื้อหาที่โฆษณาต้องการสื่อออกไป เนื่องจากเป็นเรื่องจริงที่เขาสามารถสัมผัสและเข้าถึงได้ จนในปัจจุบัน การขอสินเชื่อไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไปแล้ว”
ในส่วนของพัฒนาแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ให้สอดรับกับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคดิจิทัลในปัจจุบันนั้น นายไพโรจน์ กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราเห็นเทรนด์ของผู้บริโภคที่นิยมบริโภคข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์มาก ยิ่งขึ้น เราจึงได้วางกลยุทธ์ Digital Marketing เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านช่องทางนี้ และช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยได้เปิดตัวเว็บไซต์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช ดอทคอม’ (www.car4cash.com) สินเชื่อเพื่อคนมีรถรายแรกในประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งการประเมินราคารถและการขอสินเชื่อออนไลน์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ (Brand Engagement) ด้วยการเล่าเรื่องผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น VDO content เรื่อง ‘อู๋ The Rocket เฮีย’ บนยูทิวบ์ ‘KrungsriAutoTV’ ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยี SEO (Search Engine Optimization) เพื่อช่วยเพิ่มจำนวนผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่เว็บไซต์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช ดอทคอม’ ซึ่งกลยุทธ์ Digital Marketing ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมียอดขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะนี้ เรากำลังปรับปรุงให้การกรอกข้อมูลขอสินเชื่อทางเว็บไซต์เป็นแบบอินเตอร์แอ คทีฟมากขึ้น”
นายไพโรจน์ ได้สรุปถึงปัจจัยความสำเร็จของแบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ ว่า “เราเน้นรับฟังความต้องการของลูกค้า แล้วนำกลับมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และการบริการของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังเดินหน้ามองหาความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภคเพื่อตอบสนองทุกความต้องการที่เกิดขึ้นใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดทีมงานของ เราที่มีเป้าหมายร่วมกัน และร่วมแรงร่วมใจกันทำงานเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ในทุกจุดบริการตลอดเส้นทาง ทั้งก่อนใช้บริการ ช่วงสมัครขอสินเขื่อ ช่วงใช้บริการ และช่วงหลังใช้บริการ จึงทำให้แบรนด์ ‘คาร์ ฟอร์ แคช’ เป็นแบรนด์สินเชื่อเพื่อคนมีรถอันดับหนึ่ง และครองใจผู้บริโภคมาได้อย่างยาวนานกว่า 13 ปี”