เปิดโปงขบวนการรัฐปัตตานี โดย..สอาด จันทร์ดี บทที่ 9 ปัตตานีเป็นอิสลามตั้งแต่เมื่อใด
ผมจับภาพได้กระจ่างชัดว่า
ปัญหาที่ 3 จังหวัดภาคใต้ เกิดจากพี่น้องชาวไทยเชื้อสายมลายู
ถูกโจรข่มขู่ไม่ให้รับการเป็นสัญชาติไทยบ้าง ตัวเองตั้งใจแน่วแน่
ไม่ยอมรับนับเอาสัญชาติไทยเป็นของตนบ้าง รวมแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ
80 ถ้าเป็นเช่นนี้
มีคนที่ไม่ยอมเป็นคนไทยมากกว่า
2,000,000
คน ผู้คนเหล่านี้เป็นอุปสรรคใหญ่หลวงในการสร้างความสมานฉันท์
เนื่องจากความสมานฉันท์ในเป้าหมายของเขา
ต้องได้สิ่งที่ต้องการตอบแทนจึงจะเกิดความสมานฉันท์ได้
ขออ้างโทนอีกนั่นแหละ
โทนบอกว่า สิ่งที่เขาต้องการ คือ "เป็นประเทศปัตตานี...?
ผมจับภาพได้ต่อไปว่า
ปัญหาที่แก้ยากที่สุด
ก็เพราะรัฐบาลทุกรัฐบาลมีความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงตลอด
100 ปีผ่าน
ด้วยการพยายาม
"อ่อนข้อ"
ให้ทุกเรื่อง
จนฝ่ายโจรสามารถนั่งอยู่บนหลังเสือแล้วบังคับให้เสืออยู่ในสภาวะจำยอม
จำยอมไปทุกเรื่อง
ยอมแพ้ให้แก่นักการเมืองโจร
ยอมจำนนต่อการด่าทอ
ยอมจำนนต่อข้อกล่าวหาที่เท็จ
ความผิดพลาดอันยาวนาน
เกิดจากน้ำมือของนักการเมืองสายพุทธที่บริสุทธิ์มากกว่าโจร
ทำให้โจรได้ทีขี่แพะไล่ ไล่มาจนถึงรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่ผยองอวดดี
สบประมาทว่าเป็นโจรกระจอก แล้วประกาศไม่ยีหระด้วยคำพูดที่ว่า
“เมินเสียเถอะ
แบ่งแยกดินแดน ตารางนิ้วเดียวก็ไม่ให้”
หลังจากนั้นโจรได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่โจรกระจอก
ไอ้ที่พูดว่าตารางนิ้วเดียวก็ไม่มีทางยอมให้ โจรจะทำให้ดู
จะเอาทุกตารางนิ้วที่อยู่ในแผนที่
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศไทยที่เปิดสนามรบให้โจร
ถ้าประเทศไทยจะเสียดินแดน แม้ว่าประเทศไทยจะมีความผิดพลาดต่อกันยาวนาน
แต่ก็ยังไม่มีการต่อสู้ในลักษณะสงคราม ครั้นมาถึงยุคนี้
พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร ได้เป็นผู้นำของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีคนนิยมมากมายถึง
19 ล้านคน
แต่ถ้าประเทศไทยจะเสียดินแดน มันเกิดจากการกระทำของ
"ทักษิณ" เป็นคนแรก
โยนให้ทักษิณคนเดียวสุด ๆ
ไม่ผิดตัว
เพราะว่าเขาอหังการเกินไป ทำให้โจรกระจอกกลายเป็นโจรดาวกระจาย
ถนนเต็มไปด้วยเรือใบ ป่าเขาเต็มไปด้วยมือปืนซุ่มยิง
ในหมู่บ้านเต็มไปด้วยแนวร่วมของพวกโจรปัตตานี
ปัญหาที่
3
จังหวัดชายแดนภาคใต้
จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่สั่นสะเทือนความมั่นคงของประเทศไทยอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เราจะทำอย่างไรจึงจะแก้คืนได้
ลองหันไปทางท่านแม่ทัพที่เป็นหน่อเนื้อเชื้อสายอิสลามด้วยกัน
คงจะช่วยได้ ได้แก่
พล อ. สนธิ บุญยรัตกลิน
หัวหน้าคณะปฏิวัติที่เป็นอิสลาม ที่คนไทยมั่นใจว่าท่านผู้นี้ จะกู้
3
จังหวัดชายแดนคืนมาได้ เพราะจะมีบารมีให้อิสลามเกรงใจ
เชื่อหรือว่าโจรจะยอมรับนับถือบารมี
ถ้าโจรยินยอมง่ายๆ เช่นนี้
อับดุลกาเดร์,
หะยีสุหลง และ
"ตวนกู" อีกตั้ง
3 คน
คงไม่พากันบ้าต่อสู้อย่างยาวนานถึงขนาดสู้ถวายหัว
เอาชีวิตและความทุกข์ยากของครอบครัวเข้าแลก
เขาคงยินยอมสวามิภักดิ์ต่อพระมหากษัตริย์
ด้วยความรักและศรัทธาไปนานแล้ว
ดังนั้น
ความหวังจึงเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ กับอิสลามด้วยกัน
คนอิสลามแท้ๆ
ที่เขาเป็นโจรปัตตานีเขาไม่สน เขาไม่ให้ราคาแม้แต่นิด
ถ้าอยากจะให้โจรยกย่องให้มาอยู่
“หัวแถว”
ก็ต้องเป็นฝ่ายเขา เขาจึงจะรับ
อิสลามไทย (เพื่อนของผม)
เล่าให้ฟังว่า วิธีดูว่า นายพล แม่ทัพ รัฐมนตรี (คนนั้น) เป็น ฝ่ายไหน
จะดูได้จากความปลอดภัยของแต่ละคน ถ้าเขา (คนนั้น)
เดินเดี่ยวเข้า-เดินออกใน
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างปลอดภัย
ไม่เลือกกาลเวลา ไม่มีใครลอบวางระเบิด ไม่ถูกดัก ทำร้าย
ไม่ถูกวางแผนฆ่า ไม่ถูกก่นด่า... โดยไม่มีกองกำลังอารักขา...
นั้นแหละ...
เขาเป็นพวกเดียวกัน
เพื่อนของผมเล่าเปรียบให้ฟังว่า
ดูเอา... เพียงแค่สงสัยเอาใจออกห่างไปเข้าข้างทหาร ยังถูกตัดหัวเลย
แล้วเขาจะปล่อยรัฐมนตรีอิสลามที่ปราบเขาจนด่าวดิ้นให้ลอยนวลอยู่ได้อย่างไร
จึงเป็นไปได้ยากมากที่จะได้อาศัยท่านแม่ทัพกล่อมโจรได้สำเร็จ เพื่อนของผมยืนยัน
เมื่อกล่าวถึงเหลี่ยมคูระหว่างรัฐบาลกับโจร รัฐบาลสู้โจรไม่ได้
จะดูได้จากหลายกรณีเช่นฝ่ายรัฐบาลนั้น นึกเอาเองว่าทำดีเอาไว้
โจรจะได้ไม่ตำหนิ เช่น การไปกล่าวคำขอโทษเป็นต้น
อันนี้ถือว่าเป็นเหลี่ยมคูที่แตกต่างทำให้รัฐบาลเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ไม่ว่า
พล.อ.สุรยุทธ์
จุลานน ท์ นายกรัฐมนตรี
จะประกาศขอโทษพร้อมกับได้ยกเว้นความผิดให้แก่ขุนโจร ลูกน้องโจร
ตลอดทั้งมือฆ่าที่น่ากลัวโดยประกาศว่า
ศาลไม่สั่งฟ้อง
อย่างไรก็ตาม
จะขอโทษซ้ำอีก
หรือออกกฎหมายนิรโทษกรรมทั้งหมดก็ตาม
ยิ่งเป็นการยอมรับความพ่ายแพ้ทางการเมืองให้แก่พวกโจรปัตตานีมากยิ่งขึ้น
โจรเองก็คงนึกไม่ถึงว่าทำไมนายกจึงเชื่อว่าโจรจะง่ายเหมือนเอาปากเป่านุ่นเช่นนี้
ทั้งหมดนี้
ทำให้ผมจับภาพได้อย่างชัดว่าปัญหาที่แก้ยากเกิดจากความผิดพลาดของเราเอง
หากฝ่ายรัฐบาลในอนาคตยังพากันงมระหราอยู่กับการแก้ปัญหาแบบเดิม
ขอให้เตรียมตัวเอาไว้เถิดว่า ไม่นานคนไทยพุทธจะต้องใช้หนังสือพาสปอร์ต
จึงจะเข้าออก
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
ผู้สันทัดกรณีบางคนกล่าวถึงขั้นนั้น
มีคำถามต่อไปว่า
ทำไมปัตตานีจึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ
ผมได้สอบถามเอากับชาวบ้านอิสลามที่แท้จริง
แต่มีความเป็นไทยทั้งกายและใจ ก็ได้ความรู้มาว่า
อิสลามในประเทศแบ่งเป็น
2 กลุ่ม ซึ่งได้ตรงกับอาจารย์ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร
ได้เคยบอกเอาไว้เมื่อปี 2518
กลุ่มที่
1
เป็นอิสลามไทย มีใจเป็นไทย รักและศรัทธาในความเป็นคนไทย
กลุ่มที่
2
อิสลามต่างประเทศ (ขอให้คำว่าต่างประเทศ)
อิสลามกลุ่มนี้ไม่รักความเป็นไทย
อิสลามกลุ่ม
1
ไม่มีปัญหา แต่มีจำนวนน้อยมาก ไม่มีพลังต่อรอง
จะพูดจะจาอะไรก็ต้องระวัง เพราะว่าการเป็นอิสลามไทย
มีโอกาสตายเช่นเดียวกับไทยพุทธ
โจรจะไม่ให้อภัยแก่ใครที่โจรกำลังทำสงครามด้วย
อิสลามกลุ่ม
2
น่ากลัวมาก ถ้ารัฐบาลแก้ไม่เป็น จะเกิดการก่อการร้ายกระจัดกระจาย
เพราะวิธีการของโจรที่มีกำลังน้อย
ทำอย่างไรจึงจะสู้กับผู้มีกำลังมากได้
วิธีนั้นมีอยู่วิธีเดียวคือการก่อการร้าย
การก่อการร้ายเป็นลัทธิการต่อสู้ประเภทหนึ่งที่กำลังมีการพัฒนาอย่างใหญ่
หลวง ลัทธิก่อการร้ายไม่ใช่เพิ่งเกิด มันเกิดมานานแล้ว
แม้ในสมัยปัตตานีต้นๆ ก็ได้ใช้การก่อการร้ายเป็นวิธีการต่อสู้
แต่เราเรียกพวกที่ออกมาต่อสู้ในสมัยนั้นว่ากบฏ เช่นกบฏดุชงยอ
ที่อำเภอระแงะ เป็นต้น
ความจริง...ถ้าปัตตานีนับถือพุทธอย่างต่อเนื่องไม่เปลี่ยนแปลง
ข้อขัดแย้งจะไม่มี
เรื่องเล่าในปัตตานี (เล่าตามตำรา-ไม่ใช่ปั้นเรื่องขึ้นเอง) เล่าว่า
ก่อนที่ปัตตานีจะเป็นอิสลาม ดินแดนแถบนี้เป็นพุทธมาก่อน
ไทยได้ส่งผู้ครองนครมาเป็นผู้รับผิดชอบ ตามประเพณีดั้งเดิมแต่โบราณ
เรียกว่าเจ้าผู้ปกครอง การส่งเจ้าผู้ปกครอง
บางสมัยก็เป็นเจ้าไทยจากวังหลวง บางสมัยเป็นคนมลายู
ปัตตานีตั้งแต่สมัยชื่อว่า ลังกาสุกะ มาจนถึงปี พ.ศ.
2022
ปัตตานีเป็นพุทธติดต่อกันมายาวนาน นับแล้วมากกว่า
1500 ปี
มีบันทึกในประวัติศาสตร์เอาไว้ว่าระหว่างปี พ.ศ.
1804-1821
เจ้าเมืองเป็นมลายู แต่ได้รับพระราชทานนามว่า "ราชาฤทธิเทวา"
ซึ่งท่านก็เป็นพุทธมามกะ ตั้งมั่นอยู่ในพระรัตนตรัย จนกระทั่งสวรรคต
ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองนครนับถือพระพุทธศาสนาองค์สุดท้าย
ปี พ.ศ
2022
เจ้าผู้ครองนครองค์ใหม่นามว่า เจ้าอินทิรา
ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลาม ทำให้ประชาชนพลเมืองพากันถือตาม
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ปัตตานีและดินแดนใกล้เคียงกลายเป็นอิสลาม
ที่ไม่ยอมเปลี่ยนตามได้แก่คนไทยดั้งเดิม
ปัตตานีที่เคยเป็นพุทธจึงกลายเป็นอิสลาม ตั้งแต่ปี
2022 เป็นต้นมา
รวมแล้วอิสลามหยั่งฐานลงยึดปัตตานีได้มากกว่า
500 ปี
นับแต่ปัตตานีเปลี่ยนไปเป็นอิสลาม
ทำให้ประชาชนที่เป็นพี่น้องเครือญาติกัน
เกิดการเคลื่อนย้ายจากดินแดนมลายูตามเข้ามาอยู่ในหลายจังหวัดของภาคใต้มาก
ขึ้น คนมลายูรุกคืบเข้าครอบครองอย่างง่ายดาย เพราะไม่มีระบบ
"ตรวจคนเข้าเมือง" ใครจะไปใครจะมาเป็นความสมัครใจของผู้คนในแถบนั้น
ประเทศไทยสมัยนั้นไม่มีกำลังส่งไปประจำการ
จึงยิ่งเป็นอิสระแก่พวกเขามากขึ้น จนกลายเป็นกลุ่มก้อนที่ใหญ่โต
ประเทศไทยทางตอนใต้จึงกลายเป็นถิ่นที่อยู่ของคนไทยเชื้อสายมลายูหนาแน่น
จนเกิดอำนาจอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงสุดที่จะแก้ไข
ยิ่งจำนวนคนมลายูมีมากขึ้น
พวกเขาก็กล่าวตู่ว่าดินแดนแถบนี้เป็นของเขามาตั้งแต่ดั้งเดิม
แล้วกล่าวหาว่าไทยไปยึดเอามาเป็นเมืองขึ้น
สิ่งเหล่านี้เป็นกรณีพิพาทที่ได้เกิดขึ้น
โดยฝ่ายรัฐบาลได้หลบหนีกรณีพิพาทแบบคนขี้ขลาด
ไม่กล้าแสดงความเป็นเจ้าของอย่างผู้ยิ่งใหญ่
เพราะเกรงไปว่าจะเกิดความบาดหมางรุนแรงยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริง
การหลบหนีกรณีพิพาทอย่างขี้ขลาด
ล้วนแต่ทำให้เกิดการเพลี่ยงพล้ำแก่พวกโจร
จนกระทั่งตกเป็นเหยื่อของโจร
ปัตตานีนั้น
เป็นดินแดนของเรามาตั้งแต่ต้น
ไม่ต้องพูดถึงพระพุทธศาสนาและอิสลาม
เพราะพวกโจรไม่ได้ต่อสู้เรื่องศาสนา
แต่พวกโจรเขาต่อสู้ต้องการเป็นรัฐปัตตานีตะหาก
แต่ที่ชอบอ้างเสมอว่าพุทธรังแกอิสลาม
ก็เพราะโจรได้โยงเอาศาสนามาเป็นหัวหอกในการต่อสู้
โจรอาศัยคำสอนในคัมภีร์เอามาปลุกระดมประชาชน การอาศัยนั้น
บางครั้งก็แอบบิดเบือนถึงขั้นสร้างคัมภีร์ปลอมขึ้นมาหลอกลวง
ทำให้พี่น้องอิสลามที่บริสุทธิ์หลงเชื่อคำสอนที่ผิดๆ
เช่น การอ้างว่าฆ่าพุทธแล้วจะได้ไปอยู่กับพระเจ้า เป็นต้น
พลเอก ชวลิต
ยงใจยุทธ ได้ออกข่าวว่า ทหารได้ต้นฉบับคำสอนที่ผิดพลาด
โดยได้มอบต้นฉบับนั้นให้แก่สำนักจุฬาราชมนตรี ต่อจากนั้น
ไม่ได้มีการนำเอามาเปิดเผย ทางรัฐบาลได้เก็บเข้ากรุ
หวังว่าจะไม่ถูกโจรนำเอามาใช้อีก
แต่พวกโจรปัตตานียังคงใช้คัมภีร์ปลอมนี้อยู่ และใช้อย่างได้ผลยิ่ง